ศธ.สั่งเร่งเยียวยาครอบครัวเหยื่อที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุพายุซัดโครงหลังคาโดมของโรงเรียนที่ จ.พิจิตร พังถล่มทับร่างผู้ปกครองและเด็กนักเรียนที่มาซ้อมฟุตบอลวิ่งเข้าไปหลบฝนดับสลด 7 ศพ บาดเจ็บระนาว 18 คน ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่ ล้อมคอกแจ้งสถานศึกษาทั่วประเทศตรวจสอบอาคารสิ่งปลูกสร้างให้มั่นคงแข็งแรง หวั่นเกิดเหตุสลดซ้ำรอย ผวจ.ลงนามพื้นที่ประสบภัยพิบัติ นอกจากที่โรงเรียนแล้วยังมีบ้านเรือนอีกกว่า 100 หลังพังเสียหาย บรรยากาศสะเทือนใจเสียงร่ำไห้ระงมทั้งหมู่บ้าน สุดเศร้าโค้ชทีมบอลผู้เป็นปู่กับหลานชายวัย 7 ขวบต้องมาจบชีวิตไปพร้อมกัน

เหตุการณ์สุดเศร้าสะเทือนใจ พายุซัดโครงหลังคาโรงเรียนพังถล่มสังเวยชีวิตนักเรียนและผู้ปกครองตายเจ็บจำนวนมาก เปิดเผยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 พ.ค. พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.จ.พิจิตร พ.ต.อ.สุกิจ สุนะ ผกก.สภ.หนองโสน อ.สามง่าม นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบภายในโรงเรียนวัดเนินปอ หมู่ 1 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร หลังเกิดเหตุโครงหลังคาโดมของโรงเรียนถูกพายุซัดพังถล่มลงมาทั้งหลัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 18 คน เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค. มีครู ผู้ปกครอง นักเรียน และชาวบ้านละแวกใกล้เคียงพากันมามุงดูจำนวนมากพร้อมจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด

ที่เกิดเหตุเป็นหลังคาโดมขนาดใหญ่กว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร สูง 8 เมตร พื้นปูนมีเสาคอนกรีตเสริมเหล็กฝั่งละ 7 ต้น รวม 14 ต้น ด้านบนเป็นโครงเหล็กหลังคาโค้งมุงด้วยเมทัลชีต ใช้งบบริจาคจากผู้ปกครองและผู้มีจิตศรัทธา ก่อสร้างและเปิดใช้งานมาแล้วประมาณ 5 ปี ใช้เป็นลานกิจกรรมของโรงเรียนและหมู่บ้าน สนามเด็กเล่น และเป็นที่หลบแดดหลบฝนของเด็กนักเรียน พบว่าเสาปูนหักโค่นจากบริเวณโคนเสาทำให้โครงเหล็กหลังคาทั้งหลังพังครืนลงมากองกับพื้น

...

ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 22 พ.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองและลูกเห็บตกในพื้นที่บ้านเนินปอ หมู่ 1 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ต้นไม้โค่นล้ม อาคารบ้านเรือนของชาวบ้านพังเสียหายจำนวนมาก ความแรงของลมทำให้หลังคาโดมของโรงเรียนวัดเนินปอ พังถล่มลงมาทับร่างเด็กนักเรียนและผู้ปกครองที่เข้ามาหลบฝน มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 2 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 23 คน ถูกช่วยเหลือลำเลียงส่ง รพ.สามง่าม รพ.วชิรบารมี รพ.พิจิตร และ รพ.เอกชน เสียชีวิตในเวลาต่อมาอีก 5 ศพ สรุปมีผู้เสียชีวิต 7 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 18 คน หลังเกิดเหตุ นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผวจ.พิจิตร ไปอำนวยการยังที่เกิดเหตุ ประสานทีมกู้ชีพกู้ภัยช่วยเหลือคนเจ็บและกู้ศพผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ใต้กองซากโครงหลังคาที่พังถล่ม

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกเรียนมีทีมนักฟุตบอลเยาวชนของหมู่บ้านเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมของโรงเรียนวัดเนินปอ นักเรียนชั้นมัธยมต้นของโรงเรียนเนินปอรังนกชนูทิศ และเด็กๆในหมู่บ้านมารวมตัวกันฝึกซ้อมฟุตบอลที่สนามบอลของโรงเรียนเพื่อไปตระเวนแข่งกับหมู่บ้านอื่นๆ มีนายดัง อ่องแดง อายุ 59 ปี นักการภารโรงของโรงเรียนทำหน้าที่โค้ชผู้ฝึกสอน และพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆมายืนดูลูกหลานฝึกซ้อมฟุตบอล บางคนก็มาวิ่งเล่นกัน รวมประมาณ 30 กว่าคน ต่อมามีฝนฟ้าคะนองและสายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา เด็กนักเรียนและผู้ปกครองบางส่วนรีบวิ่งกลับบ้าน ที่เหลือ 25 คน เข้าไปหลบฝนอยู่ใต้หลังคาโดม สักพักมีลมกระโชกพัดเข้ามาอย่างรุนแรงจนหลังคาโดมพังครืนถล่มลงมาทับร่างเด็กนักเรียนและผู้ปกครองที่วิ่งหนีออกมาไม่ทันจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

รายชื่อผู้เสียชีวิต 7 ศพ ประกอบด้วย นายดัง อ่องแดง อายุ 59 ปี นักการภารโรงโรงเรียนวัดเนินปอทำหน้าที่โค้ชผู้ฝึกสอนฟุตบอล นายนที คุ้มประดิษฐ์ อายุ 40 ปี ผู้ปกครองนักเรียน ทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นางวันเพ็ญ จันทร์มล อายุ 53 ปี ผู้ปกครองนักเรียน ด.ช.วัชรากร พันวัน อายุ 7 ขวบ หลานชายของนายดัง ด.ช.โพธิวัฒน์ บางแดง อายุ 6 ขวบ ทั้งคู่เป็นนักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนวัดเนินปอ ด.ช.ศุภสิน สิงห์จันทร์ อายุ 13 ปี และ ด.ช.ศิวัชศกรณ์ จังกระหวัด อายุ 12 ปี ทั้งคู่เป็นนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเนินปอรังนกชนูทิศ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดเนินปอ 10 คน คือ ด.ช.ศิวพงษ์ พิลึก ด.ช.อภิสร แพทอง ด.ช.ชัยภัทร พรมมี ด.ช.นฤมล รอดเขียว ด.ช.ณัฐภัทร บุญช่วย ด.ญ.ธนัชชา พึงสมบัติ ด.ช.กนกภูมิ อินทกูล ด.ญ.วรัญญา อ๋องแดง ด.ช.ภานรินทร์ กองจุ้ย และ ด.ช.พงษ์พัฒน์ วิจิตรพล นักเรียนโรงเรียนเนินปอรังนกชนูทิศ 3 คน คือ ด.ญ.สุธิดา บุญธรรม ด.ช.ณัฐชานน ฉิมมา และ ด.ช.ศุภสิทธิ์ เทศเสนาะ นักเรียนโรงเรียนบ้านสระยายชี 2 คน คือ ด.ช.นรุตน์ชัย นิยมญาติ และ ด.ช.ธนกร คุ้มประดิษฐ์ ผู้ปกครองนักเรียน 3 คน คือ นายอนุวัตร จังกระหวัด นายหลุ่น โพธิ์ศรี และนางปาริฉัตร คุ้มประดิษฐ์

ในช่วงบ่าย นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผวจ.พิจิตร เผยว่า ได้ลงนามพื้นที่พายุลูกเห็บพัดถล่มโรงเรียนวัดเนินปอจนหลังคาโดมพังถล่มเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ นอกจากความเสียหายของโรงเรียนแล้วยังมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน ระหว่างการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นได้สั่งการให้ อ.สามง่าม และเทศบาลตำบลเนินปอ ตั้งศูนย์รับบริจาคจากภาคเอกชนและส่วนต่างๆ สำหรับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือกรณีประสบวาตภัยถึงชีวิต จะจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวรายละ 29,700 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจะช่วยเหลือเพิ่มอีก 29,700 บาท จากนั้น ผวจ.พิจิตร และนางชุลี อัศวพิชยนต์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด พร้อมคณะได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ

นายเกตุสรินทร์ บุญหนัก รักษาการ ผอ.โรงเรียนวัดเนินปอ ได้รายงานผู้บังคับบัญชาถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุสุดวิสัยไม่ใช่มีเฉพาะโรงเรียนอย่างเดียวที่เสียหาย ทั้งตำบลก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ขณะนี้กำลังดูแลอำนวยความสะดวกเรื่องงานศพของผู้เสียชีวิตที่มีทั้งภารโรงและนักเรียนของโรงเรียน อีกส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนอื่นในตำบล วันนี้ได้สั่งปิดการเรียนการสอนและจัดสถานที่เรียนให้นักเรียนเพราะยังมีอาคารที่ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนที่เสียหายต้องรองบประมาณมาซ่อมแซมต่อไป

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ญาติรับศพจากโรงพยาบาลนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เสียงร่ำไห้ดังระงมไปทั้งหมู่บ้านเนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นคนรู้จักคุ้นเคยกัน โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 8 ต.เนินปอ สถานที่ตั้ง 2 ศพ ปู่หลานคือนายดัง อ่องแดง อายุ 59 ปี นักการภารโรงโรงเรียนวัดเนินปอ และ ด.ช.วัชรากร พันวัน หลานชายวัย 7 ขวบ ที่เสียชีวิตไปด้วยกัน นางปิ่นแก้ว อ่องแดง อายุ 57 ปี ภรรยานายดัง พร้อมญาติๆและเพื่อนบ้านมาช่วยกันตั้งโลงศพไว้คู่กันเพราะปู่กับหลานคู่นี้จะรักกันมาก นายดังจะพาหลานชายไปซ้อมฟุตบอลทุกเย็นและจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนกระทั่งมาจบชีวิตไปพร้อมกัน

ด้านนายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับรายงานจาก MOE Safety Center สาเหตุเกิดจากมีฝนตกฟ้าคะนอง พัดหลังคาโดมภายในโรงเรียนล้มทับนักเรียนและผู้ปกครองที่มาเล่นกีฬา มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 18 ราย ทั้งนี้ สพป.พิจิตร เขต 1 ต้นสังกัดของโรงเรียนวัดเนินปอ ได้รายงานนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นด้วยเช่นกัน เพื่อตรวจสอบสภาพอาคารโดมหลังดังกล่าวว่ามีการจัดสร้างด้วยวัสดุที่มีคุณภาพหรือไม่ ขณะที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว มีความห่วงใยครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเยียวยาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และแจ้งให้สถานศึกษาทุกแห่งตรวจสอบสภาพอาคารการใช้งานต่างๆให้เรียบร้อยด้วย

ปลัด ศธ. กล่าวถึงการช่วยเหลือว่า เบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มอบหมายให้นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ.ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ดังนี้ เสียชีวิตรายละ 10,000 บาท ผู้บาดเจ็บสาหัสรายละ 5,000 บาท และผู้บาดเจ็บเล็กน้อยรายละ 3,000 บาท ส่วนสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้ศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติในส่วนกลาง โดยกองส่งเสริมและพัฒนาการบริหารการศึกษาในภูมิภาค ดูแลและประสานงานกรณีต้องขอใช้งบประมาณรายจ่ายกลางต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ศธ.ได้แจ้งให้สถานศึกษาทุกแห่งตรวจสอบอาคารสถานที่ต่างๆในพื้นที่ของโรงเรียนให้มีความเรียบร้อย อาคารใดมีปัญหาให้แจ้งซ่อมแซมปรับปรุงทันที

...

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ได้รับรายงานจาก นพ.วิศิษฎ์ อภิสิทธิ์วิทยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตรว่ามีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 7 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บกลับบ้านได้แล้ว 8 ราย ยังคงเหลือรักษาในโรงพยาบาล 10 ราย แยกเป็น รพ.พิจิตร 6 ราย รพ.สามง่าม 3 ราย และ รพ.เอกชนในพื้นที่ 1 ราย กำชับให้สถานพยาบาลดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมส่งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ (MCATT) จากกรมสุขภาพจิต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร รพ.สามง่าม และเครือข่าย ลงพื้นที่ดูแลประคับประคองจิตใจผู้บาดเจ็บและญาติอย่างใกล้ชิด ส่วนสถานบริการในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า วันที่ 24 พ.ค.จะเดินทางไป จ.พิจิตร เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์พายุฝนซัดโครงหลังคาโดมพังถล่มภายในโรงเรียนวัดเนินปอ อ.สามง่าม ต้องให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน ทั้งนี้ถือเป็นหน้าที่รัฐบาลอยู่แล้ว ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกฯรับทราบรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมสั่งการกระทรวงมหาดไทย ปภ. ผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบของทางราชการอย่างใกล้ชิด