แม่สาวเสริมอึ๋มและทนายความเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด เอาผิด “มาริเซ่ คลินิก” ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังลูกสาวเข้าศัลยกรรมเสริมหน้าอกแล้วเสียชีวิต พร้อมเรียกเงินเยียวยา 10 ล้านบาท ขณะที่ สบส.เตรียมเอาผิดคลินิก 3 ข้อ ผ่าตัดใหญ่ไม่ขออนุญาต แพทย์ไม่ยื่นใบ ส.พ.6 และโฆษณาไม่ได้รับอนุญาต

จากกรณี น.ส.กนกวรรณ โพธิ์ศรี อายุ 37 ปี สาวทำงานนวดแผนโบราณที่ประเทศบาห์เรน กลับมาทำศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกเสริมความงามชื่อ มาริเซ่ คลินิก เลขที่ 58/75 หมู่ 3 ถนนบอนด์สตรีท ภายในเมืองทองธานี ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังเสร็จจากการทำศัลยกรรมเดินทางกลับมาที่บ้านย่าน วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพียง 6 ชม. เกิดอาการช็อกและเสียชีวิต ช่วงกลางดึกของวันที่ 24 มี.ค. ต่อมานางจำปี ทองเจริญ อายุ 59 ปี แม่ผู้ตาย แจ้งความที่ สภ.วังน้อย และร้องสื่อเอาผิดคาใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและตำรวจเข้าตรวจสอบคลินิกที่ทำศัลยกรรม เพื่อหาหลักฐานและเรียกแพทย์รอให้ปากคำ

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 มี.ค. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ พร้อมด้วยนางจำปี ทองเจริญ อายุ 59 ปี มารดา น.ส.จตุพร หาหอม อายุ 30 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต และนายธีรวุฒิ พุทธิวงศ์ไพศาล อายุ 16 ปี บุตรชายของผู้เสียชีวิต เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง ชณิดาภา ทิพย์รักษา รอง สว. (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีกับนายแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดและเจ้าของคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามมาริเซ่ คลินิก รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในการผ่าตัด ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายใช้เวลาสอบปากคำกว่า 1 ชั่วโมง

...

นายเดชากล่าวว่า พาครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการไปทำศัลยกรรมอัปไซส์หน้าอกที่คลินิกแห่งนี้มาแจ้งความดำเนินคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเพียงข้อหาเดียว ส่วนความผิดในข้อหาอื่นๆนั้นทราบว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้มาเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม จะทราบผลชันสูตรศพอย่างชัดเจนภายใน 7 วัน ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ พนักงานสอบสวนเรียกหมอที่ทำการผ่าตัดมาสอบปากคำ นอกจากนี้เตรียมยื่นเรื่องให้แพทยสภา และกรมสนับสนุนบริการทางการแพทย์ (สบส.) ตรวจสอบในเรื่องนี้อีกทาง เพราะมีหลักฐานเอาผิดพอสมควร

น.ส.จตุพร หาหอม น้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พี่สาวเคยมาเปรยๆว่า อยากไปทำหน้าอก แต่ตนไม่อยากให้ไปทำ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่สาวไปติดต่อที่คลินิกศัลยกรรมแห่งนี้ได้อย่างไร ทราบแต่เพียงว่าทางคลินิกแห่งนี้เรียกค่าทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นจำนวนเงิน 6.8 หมื่นบาท จากราคาเต็ม 7.2 หมื่นบาท หลังสูญเสียพี่สาวทำให้ผลกระทบตกไปอยู่ที่ลูกสาวของพี่สาวคนเล็กวัย 8 ขวบกับลูกชายคนโตอายุ 16 ปี ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยกันทั้งสองคนใครจะเป็นคนดูแลเด็กต่อจากนี้ พี่สาวทำงานส่งเงินกลับมาให้ครอบครัวใช้เดือนละ 3 หมื่นบาท ถ้าให้ตนเปรียบเทียบเงินจำนวน 10 ล้านบาทกับชีวิตพี่สาว ตนเลือกชีวิตพี่สาวดีกว่าเพราะเงินเทียบไม่ได้กับชีวิตคน อยากให้ทางคลินิกออกมารับผิดชอบหรือนัดเจรจาช่วยเหลือ ไม่ใช่มีแต่บอกว่าจะโทรศัพท์ติดต่อกลับมาแต่ก็เงียบหายไป

นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงผลการตรวจสอบคลินิกดังกล่าว ทราบว่าขออนุญาตเปิดสถานพยาบาลกับสสจ.นนทบุรี และมีห้องผ่าตัดเล็ก แต่การผ่าตัดเสริมเต้านมเคยมีการปรึกษาทางแพทยสภาและมีการตอบกลับมาตั้งแต่ปี 2562 ว่า การผ่าตัดเต้านมเข้าข่ายการผ่าตัดใหญ่ ไม่ควรทำในห้องผ่าตัดเล็ก การให้ยาชา ยาระงับความรู้สึกต่างๆ แพทย์สามารถให้ได้ แต่ต้องมีอีกคนคอยดูเรื่องระบบทางเดินหายใจ เฝ้าระวังอาการหลังผ่าตัด แต่ข้อเท็จจริงหลังไปตรวจ คือ การผ่าตัดใช้ห้องผ่าตัดเล็กไม่มีการขออนุญาตผ่าตัดใหญ่ ตรวจไม่เจอทั้งแพทย์ผู้ให้บริการผ่าตัด และแพทย์ที่เป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล พบแต่เจ้าหน้าที่คลินิก เท่าที่สอบถามพบว่าวันที่ผ่าตัดมีแพทย์ผู้ให้การผ่าตัดกับผู้ช่วยอีก 2 คน ยังไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง แต่จะเรียกมาพบและให้ถ้อยคำต่อไป

นพ.ภานุวัฒน์กล่าวอีกว่า ความผิดของคลินิกแห่งนี้ คือ 1.โฆษณาสถานพยาบาล เนื่องจากคลินิกมีการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก ผู้เสียชีวิตทราบข้อมูลจากเฟซบุ๊กติดต่อผ่านเซลส์จนมาสู่การรักษาไม่ขออนุญาต สสจ.นนทบุรี โฆษณาก่อน ผิดการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.การผ่าตัดใหญ่โดยไม่ขออนุญาต ใช้ห้องผ่าตัดเล็กดำเนินการจะมีความผิด กรณีไม่ขออนุญาตผ่าตัดใหญ่ ผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล แต่โทษไม่หนักคือ ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และ 3.แพทย์ผ่าตัดไม่ได้ยื่นแบบ แสดงความจำนงเป็นผู้ให้บริการ หรือใบ ส.พ.6 กับ สสจ. ผู้อนุญาต มี 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.สถานพยาบาล ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับผู้เสียชีวิตพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดี จะขอความเห็นจากทางแพทยสภาเกี่ยวกับมาตรฐานการรักษา เป็นประมาทเลินเล่อหรือไม่ สบส.จะร่วมกับ สสจ.นนทบุรี ประสานส่งประเด็นต่างๆไปด้วย