สลด 2 สามีภรรยา นทท.ชาวแคนาดาปั่นจักรยานเที่ยวในเมืองกาญจนบุรี ถูกหนุ่มไทยวัย 23 ซิ่งกระบะด้วยความเร็ว พุ่งชนเมียอย่างแรงจนกระเด็นไกลกว่า 35 เมตร ร่างฉีกขาดตายสยองคาถนน

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 18 มิ.ย.65 ร.ต.อ.ชัยรัตน์ จันทร์อนันต์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ชีพมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า เกิดอุบัติเหตุชายไทยขับรถยนต์เก๋งชนนักท่องเที่ยวสาวที่ขี่จักรยานเสียชีวิต บนถนนบายพาสเลี่ยงเมือง หมู่ 1 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตรงข้ามวัดสิริกาญจนาราม (วัดพุรางบน)

หลังรับแจ้งรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ประสานตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี โดย พ.ต.ท.สมัชชา มหาพรหม สว.ตำรวจท่องเที่ยวกาญจนบุรี สั่งการให้ ด.ต.บุญชู สังกะสิงห์ ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 ด.ต.ณัฐสรรค์ เลิศประเสริฐ ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 ส.ต.อ.นิรุตติ์ พรหมจันทร์ ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 พร้อมล่ามแปลภาษา ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 และประสานแพทย์เวรสอบสวนจาก รพ.พหลพลพยุหเสนา ร่วมเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ และชันสูตรพลิกศพรวมทั้งร่วมสอบสวนปากคำอำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้อง กับคดี

...

ในที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต ชื่อ MISS MARNIE DAWN COTTT อายุ 49 ปี สัญชาติ แคนาดา ถือหนังสือเดินทางเลขที่ AM040293 นอนเสียชีวิตบนผิวถนนเลนไหล่ทางถนนบายพาสเลี่ยงเมือง สภาพศพผู้ตาย นอนคว่ำหน้าร่างกายแหลกเหลว ในชุดกีฬาปั่นจักรยานกางเกงสีดำเสื้อส้ม ศพมีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณไหล่ขวาแขนขวาพับลำตัวทับแขนผิดรูป ส่วนขาขวาก็ขาดตั้งแต่เข่าถึงเท้า ส่วนขากระเด็นไปในป่าข้างทางห่างประมาณ 20 เมตร ชิ้นส่วนของศพมีร่องรอยการกระแทกชนอย่างรุนแรง มีร่องรอยศพถูกลากจากจุดชนเลนขวาสุดร่างลอยไปติดค้างบนกระจกหน้าข้างซ้าย ศพค้างติดบนกระจกรถที่วิ่งไปจากจุดชนห่างไประยะทางประมาณ 35 เมตร ศพจึงตกหล่นลงสู่ผิวถนนเลนซ้ายสุดที่เป็นไหล่ทาง หมวกนิรภัยจักรยานสีแดง อยู่บนผิวถนนห่างศพประมาณ 5 เมตร จักรยานสภาพถูกชนพังยับล้อหน้าล้อหลังแยกจากกัน ชิ้นส่วนล้อหน้าจักรยานอยู่ใกล้ศพ ล้อหลังอยู่ก่อนถึงศพ 2 เมตร ชิ้นส่วนของร่างกายผู้เสียชีวิตชิ้นเนื้อฉีกขาดขาดหลายชิ้นกระจายเกลื่อนถนน

ส่วนรถกระบะคู่กรณีที่เป็นรถเฉี่ยวชน คือ รถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กพ 8473 กาญจนบุรี สภาพรถ มีรอยชนด้านหน้าฝั่งซ้าย กระจกหน้าด้านซ้ายแตกเป็นรูกว้าง รถจอดห่างจากศพ 200 เมตร หลังเกิดเหตุ นายชัยวัฒน์ ชูโต๊ะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 352 หมู่ 6 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่เป็นคนขับได้ขับรถถอยหลังมาจอดที่ใกล้ศพ รอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ ต่อไป

ในที่เกิดเหตุยังพบสามีของผู้เสียชีวิต MR.JOSEPH MICHAEL SCOTT อายุ 50 ปี สัญชาติ แคนาดา ถือหนังสือเดินทางเลขที่ HK417609 สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ตนและภรรยาเป็นอาสาสมัครมูลนิธิคริสเตียน เสรีภาพ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ปฏิบัติงานอยู่ชายแดนอำเภอแม่สอด จ.ตาก ตนและครอบครัวมาเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนที่กาญจนบุรี พ่อแม่ลูกอีก 2 คน เมื่อช่วงเช้าได้ขี่จักรยานออกท่องเที่ยวชมตัวเมืองกาญจนบุรี โดยออกจากโรงแรมที่พักที่อยู่บนถนนสะพานข้ามแม่น้ำแคว ผ่านมาทางถนนแสงชูโต และตัดเลาะมาที่ถนนพัฒนาการเข้าซอยมุ้ยอพาร์ตเมนต์ เพื่อออกสู่ถนนบายพาส โดยเมื่อถึงจุดเกิดเหตุต้องขี่รถมุ่งหน้าจุดกลับรถบนถนนบายพาส ตนขับนำกลับรถอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้ว ส่วนภรรยาซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตกำลังปั่นจักรยานออกมาจากซอยมุ้ยอพาร์ตเมนต์ ออกมาสู่ถนนบายพาสกาญจนบุรี โดยที่ MR.JOSEPH ข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามแล้ว และภรรยากำลังปั่นจักรยานข้ามถนนตามไป จึงเกิดเหตุรถชน โดยตนเห็นรถคันที่ชนวิ่งมาด้วยความเร็วและชนภรรยาขณะที่กำลังจะเปลี่ยนเลนบนถนนเพื่อชิดขวากลับรถ ชนกระเด็นลากยาวกว่า 30-40 เมตร โดยไม่มีเสียงเบรก รู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุในครั้งนี้

จากการสอบสวน นายชัยวัฒน์ ชูโต๊ะ อายุ 23 ปี คนขับรถกระบะ เปิดเผยว่า ตนขับรถกำลังจะกลับบ้านที่หนองบัว โดยขับมาตามถนนเลนขวาสุด วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นผู้เสียชีวิตขี่จักรยานยานอยู่จ้างทางเลนซ้าย มีรถยนต์จอดใกล้ๆ อีก 1 คัน เมื่อวิ่งมาก่อนถึงที่เกิดเหตุ ตนได้บีบแตร ซึ่งทางผู้เสียชีวิตได้หันมามองแล้ว ตนคิดว่าเขาคงไม่ขี่จักรยานข้ามถนน จึงจับรถตามปกติ แต่พอหันกลับมาอีกครั้ง เห็นขี่จักรยานข้ามถนน เลยเบรกไม่ทันแล้ว

ในที่เกิดเหตุพนักงานสอบสวน พร้อมตำรวจท่องเที่ยว แพทย์เวรจาก รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ โดยเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและนำตัวผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำเพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุการชนในครั้งนี้อย่างละเอียด เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหา นายชัยวัฒน์ คนขับรถกระบะ ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต กำลังสอบสวนในประเด็นประมาทร่วมหรือไม่ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีต่อคู่กรณีตามกฎหมายต่อไป