ตัดหาง “อัจฉริยะ” แม่แตงโมฉุน ชิงไปฟ้องศาล คดี “ร่วมกันฆ่า”

ส่อวงแตก “แม่แตงโม” ควง “ส.ส.เต้” ตัดหาง “อัจฉริยะ” ยกเลิกหนังสือมอบอำนาจให้ทำ คดี หลังอัจฉริยะชิงตัดหน้ายื่นฟ้องตรงต่อศาลมาตรา 288 เจตนาฆ่า แต่แม่ต้องการให้ฟ้องมาตรา 290 ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้เสียชีวิต ฟาดแรงใช้ไม่ได้นิสัยแบบนี้ ทีมทนาย ส.ส.เต้ เตรียมยื่นฟ้องศาล 16 มิ.ย. ด้านอัจฉริยะโร่ขึ้นโรงพักลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ชี้ถ้าจะถอนออกจากคดีต้องส่งเอกสารแจ้งล่วงหน้า โต้กลับแม่ใช้วิธีเดิมๆ “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” ด้าน กมธ.สิทธิฯ วุฒิสภา ร่วมดีเอสไอ มอบหลักฐานผ้าสีขาวเปื้อนคราบเลือดที่ “บังแจ็ค” ส่งมาจากสหรัฐอเมริกาให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ คาดใช้เวลา 20 วันรู้ผล

คดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของดาราสาวแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ยังไม่รู้จะ เดินหน้าไปทิศทางไหน หลังจากนางภนิดา ศิระยุทธ โยธิน แม่แตงโม มอบหมายให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มาช่วยทำคดี เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมยื่นฟ้องตรงต่อศาล ขณะที่สำนวนคดีที่ตำรวจแจ้งข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการเตรียมสั่งฟ้องวันที่ 23 มิ.ย.นี้

ความคืบหน้าการฟ้องตรงต่อศาลในคดีแตงโมส่อเค้าวงแตก เมื่อ ส.ส.เต้ กับนายอัจฉริยะ มีความ ขัดแย้งกันเรื่องข้อหาที่จะฟ้องคนบนเรือ เมื่อช่วงเย็น วันที่ 14 มิ.ย. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ไลฟ์ในเฟซบุ๊ก ชี้แจงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไปยื่นฟ้องคดีแตงโมต่อศาลตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 288-289 ฐานเจตนาฆ่าผู้อื่นว่า เพิ่งทราบตอนบ่าย 3 โมง ว่านายอัจฉริยะไปชิงฟ้องต่อศาล มาตรา 288-289 ตามหนังสือมอบอำนาจเดิมของแม่แตงโม แต่คณะทำงานและ แม่แตงโมต้องการฟ้องมาตรา 290 ฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เลยทำหนังสือยกเลิกการมอบ อำนาจให้ดำเนินคดีและใบแต่งตั้งทนายความของนายอัจฉริยะและนายวินัย ชุมสวัสดิ์ ทนายความผู้ร่างฟ้อง เพราะทีมกฎหมายให้อดีตผู้พิพากษาชนบท ศุภศรี ร่างคำฟ้องมาตรา 290 ก่อน ถ้าภายหลังนำสืบได้ว่าหลักฐานไปได้ไกลจะดำเนินคดีมาตรา 288-289

ด้านนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโมที่นั่งอยู่กับ ส.ส.เต้ กล่าวว่า ยืนยันยกเลิกหนังสือมอบอำนาจเก่าจากนายอัจฉริยะ จริงๆควรจะเอามา คืนแม่ ทวงไป 3 วันแล้ว ไม่เอามาคืน กลับฉกฉวย เอาไปฟ้อง ใช้ไม่ได้นิสัยแบบนี้ ขณะที่ ส.ส.เต้กล่าวเสริมว่า นายอัจฉริยะจะไปแจ้งความดำเนินคดีตน ไม่ได้ เพราะแม่ทำหนังสือยกเลิกการมอบอำนาจและต้องไปชี้แจงที่ศาลอยู่แล้ว นัดกันวันที่ 16 มิ.ย. ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ทีมงานจะไปฟ้องตามมาตรา 290 เริ่มที่ทำร้ายร่างกายก่อน “พี่อัจอย่าขี้น้อยใจ ยังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม แม่เริ่ม 290 ก่อน ส่วน 288-289 รอให้ได้สำนวนการสืบสวนของพนักงานอัยการและตำรวจภาค 1 ทั้งหมด ถ้าหลักฐานโอเค ก็แก้ไขคำฟ้องได้ภายหลัง มีคำพิพากษาศาลฎีกา สามารถแก้ไขคำฟ้องได้” ส.ส.เต้กล่าว

ต่อมา เวลา 18.30 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เข้าพบ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวัน กรณีที่แม่แตงโมยกเลิกหนังสือมอบอำนาจในการทำคดี นายอัจฉริยะกล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ให้ตนฟ้องตรงต่อศาลจังหวัดนนทบุรีเรียบร้อยแล้ว ในข้อหาตามมาตรา 288 และ 290 ก่อนหน้านี้แม่แตงโมแต่งตั้ง ส.ส.เต้ และตนเข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายและเพื่อหาหลักฐานพิสูจน์เรื่องแตงโมไม่ได้ตกจากท้ายเรือ เพื่อคลายปม หวังพลิกคดีนำไปสู่การฆาตกรรม เนื่องจากตนมีหลักฐาน ทั้งภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ ในวันที่แม่แตงโม ทำหนังสือมอบอำนาจให้ตนก็รู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายต้องมาถึงวันนี้ก็เตรียมใจไว้แล้ว แต่จะมายกเลิกหนังสือมอบอำนาจแบบนี้ไม่ได้ ต้องทำหนังสือแจ้งตนมาล่วงหน้าก่อน

ส่วนการยื่นฟ้องตรงต่อศาล นายอัจฉริยะ เผยว่า เวลา 13.00 น. วันเดียวกันนี้ ได้เดินทางไปศาล จังหวัดนนทบุรี ยื่นฟ้องตรงต่อศาลให้ดำเนินคดีผู้ต้องหา 5 คนบนเรือ ตามมาตรา 59, 83, 40, 91, 184, 290, 295, 288 ขอให้ศาลออกหมายนัดทั้ง 5 คนมาไต่สวนมูลฟ้อง และในเวลา 16.00 น. ศาลได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว นายอัจฉริยะกล่าวพร้อมโชว์ เอกสารที่ไปยื่นฟ้องต่อศาล พร้อมบอกว่า วันที่ 15 มิ.ย.เวลา 10.00 น. จะแถลงข่าวเกี่ยวกับการฟ้องคดีนี้อย่างละเอียด พร้อมเปิดหลักฐานชิ้นสำคัญ
บางส่วนในคดี ที่โรงแรมอัณณา-นาวา ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลักฐานสำคัญนี้มีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจและเฝ้าติดตามมาตลอด

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ ส.ส.เต้ไลฟ์สดพร้อมแม่แตงโม ระบุว่า การเพิกถอนหนังสือมอบอำนาจเป็นความประสงค์ของแม่ เนื่องจากต้องการฟ้องเรื่อง การทำร้ายร่างกายก่อน นายอัจฉริยะกล่าวว่า การฟ้อง มาตรา 290 เรื่องทำร้ายร่างกายก่อน แล้วจะฟ้องมาตรา 288-289 ฐานฆ่าผู้อื่นไม่สามารถทำได้ เพราะ อัตราโทษต่างกัน ส่วนที่แม่แตงโมบอกว่าทวงหนังสือมอบอำนาจมา 3 วันแล้ว แต่ไม่ยอมส่งให้ ไม่เป็นความจริง แม่แตงโมไม่เคยทวงถามแม้แต่ครั้งเดียว

“วิธีการแบบนี้แม่แตงโมเคยใช้กับทนายกฤษณะ และทนายเดชามาแล้วคือ เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล ยืนยันว่าไม่ได้ฉกฉวยหนังสือมอบอำนาจไปฟ้อง แต่หนังสือดังกล่าวแม่แตงโมให้โดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยความยินยอม การมาลงบันทึกประจำวันวันนี้ไม่ใช่ว่ากลุ่มที่ช่วยเหลือแม่แตงโมจะแพแตก เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนหลังจากนี้แม่แตงโมจะดำเนินการอย่างไรต่อก็เป็นสิทธิ์ แต่ตัวเองได้ทำตามหน้าที่ที่ได้สัญญาไปก่อนหน้านี้” นายอัจฉริยะกล่าว

ที่รัฐสภา ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า กมธ.ได้ส่งมอบผ้าสีขาวที่อาจเป็นหลักฐานในคดีแตงโมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. โดยเชิญตัวแทนดีเอสไอมาพบเพื่อมอบซองเอกสารที่ถูกส่งจาก “บังแจ็ค” ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามาถึง กมธ. ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. จากนั้นร่วมกันแกะดูพร้อมๆกันต่อหน้าตัวแทนดีเอสไอ ฝ่ายกฎหมายวุฒิสภา และ กมธ. มี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. ร่วมแกะซองเอกสารพบว่าข้างในเป็นผ้าคาดเอวสีขาว มีรอยสีแดงคล้ายคราบเลือด มีกลิ่น และมีเศษผงเศษไม้ติดอยู่ที่ผ้า แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นผืนที่แตงโมสวมใส่ในวันเกิดเหตุตกเรือเสียชีวิตหรือไม่ หลังจากแกะดูเรียบร้อยแล้วส่งมอบให้ตัวแทนดีเอสไอนำไปตรวจสอบต่อไป และในวันเดียวกันนี้ กมธ.จะส่งหนังสือมอบหลักฐานให้ดีเอสไออย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ศูนย์ราชการอาคารบี ในช่วงบ่าย นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมส่งมอบพยานหลักฐานให้กับ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินการ ตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ หลักฐานผ้าสีขาวคดีการเสียชีวิตของแตงโมที่มีบุคคลส่งมาให้ กมธ. มี ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ร่วมรับมอบ

นายสมชายเผยว่า หลักฐานชิ้นนี้ถูกส่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 3 พ.ค. เคยส่ง มอบให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน แต่ตำรวจบอกว่าปิดสำนวนไปแล้วจึงไม่รับไว้ นอกจากนี้ยังส่งหลักฐานชิ้นนี้ให้อัยการจังหวัดนนทบุรี แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา ดังนั้น กมธ.อาศัยช่องทางนี้ส่งผ่านให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รับดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายสามารถทำได้ เพราะได้ตรวจสอบหลักฐานชิ้นนี้แล้วพบมีการส่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาจริง อีกทั้งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าผ้าสีขาวมีคราบเลือด ยืนยันแล้วว่าเป็นคราบเลือดของมนุษย์ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นคราบเลือดของแตงโมหรือไม่

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า หลักฐานที่ได้รับจะนำเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการการตรวจดีเอ็นเอ รวมถึงการ ตรวจสอบวัตถุแปลกปลอมอื่นๆ เช่น เส้นผม ใบไม้ หรือคราบต่างๆที่พบ ด้วยกระบวนการทางนิติวิทยา ศาสตร์ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 20 วันถึงจะทราบผล

ขณะที่ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า วัตถุพยานที่ กมธ.ส่งมอบให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสาะแสวงหาพยานหลักฐานในคดี หากตรวจแล้วไม่ใช่ผ้าของแตงโมก็ไม่ถือว่าเสียหาย แต่หากพบว่าพยานหลักฐานที่พบหรือคราบเลือดบนผ้าเป็นของแตงโม คดีนี้ย่อมสามารถสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมได้เพราะถือเป็นพยานหลักฐานใหม่ ส่วน พญ.คุณหญิงพรทิพย์เผยว่า คดีนี้เคยให้คำแนะนำกับนายอัจฉริยะไปแล้วว่า หากรอยแผลที่พบบนขาขวาของแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ คราบเลือดย่อมติดอยู่บนเสื้อผ้าของแตงโม กระบวนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์จะต้องยืนยันข้อเท็จจริงนี้ให้ได้

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เผยว่า การตรวจสอบครั้งนี้มีการตั้งต้นบนสมมติฐานว่าเป็นคดีฆาตกรรม ต้องหาพยานหลักฐานเพื่อหาข้อเท็จจริงในประเด็นที่ว่าใครฆ่าหรือฆ่าที่ไหน ดังนั้น วัตถุพยานที่รับมอบมาจึงต้องเอามาพิสูจน์ข้อเท็จจริงสมมติฐานนั้นให้ได้ หากคราบเลือดที่พบไม่ใช่เลือดของแตงโม การตั้งสมมติฐานนี้ก็จบไป