อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ติดตามการขุดเจาะแหล่งน้ำบาดาลใหม่ลึกสุดในไทยที่ ต.โคกขาม จ.สมุทรสาคร โดยหลุมเจาะลึกที่ระดับ 1,000 เมตร ได้แหล่งน้ำจืดคุณภาพสูงปริมาณมหาศาล แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำคณะที่ปรึกษาและผู้เข้าศึกษาดูงานกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการศึกษาสำรวจแหล่งน้ำบาดาลระดับลึกพื้นที่แอ่งเจ้าพระยาตอนล่าง (ระยะที่ 3) พร้อมกับ รับฟังบรรยายความเป็นมา และผลการดำเนินโครงการฯ รับฟังบรรยายเทคนิคการเก็บทดสอบปริมาณน้ำและตัวอย่างน้ำบาดาล และการตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการฯ ที่วัดสหกรณ์โฆสิตาราม ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร

สำหรับโครงการศึกษาสำรวจแหล่งน้ำบาดาลระดับลึกพื้นที่แอ่งเจ้าพระยาตอนล่าง (ระยะที่ 3) เป็นการขุดเจาะบ่อลึก 1,000 เมตร บริเวณใกล้ปากอ่าวไทย ที่วัดสหกรณ์โฆสิตาราม ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยเป็นแหล่งน้ำบาดาลใหม่ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 640 ถึง 1,008 เมตร จำนวน 5 ชั้น คาดว่าจะมีน้ำบาดาลคุณภาพน้ำจืดปริมาณมหาศาล เตรียมพัฒนาขึ้นมาช่วยประชาชนในพื้นที่กว่า 22,000 คน มีน้ำกินน้ำใช้ไม่ขาดแคลน และเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำในเขตอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

...

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณอ่าวไทยและอยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร จึงทำให้การขยายตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เกี่ยวกับการแปรรูปอุตสาหกรรมอาหาร อาทิ อุตสาหกรรมห้องเย็น อุตสาหกรรมเคมี โดยมีโรงงานทั้งสิ้นกว่า 6,295 แห่ง มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) สูงเป็นอันดับ 6 ของประเทศ รองจากกรุงเทพมหานคร ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทรัพยากรน้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญในภาคอุตสาหกรรม ผลการประเมินการใช้น้ำจังหวัดสมุทรสาครรวม 385 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ความสามารถจัดหาน้ำรวมทั้งสิ้น 290 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ยังมีความต้องการใช้น้ำอีกเกือบ 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ที่ยังขาดแคลนอยู่

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดหาน้ำบาดาลมีปริมาณน้ำจัดหารวมทั้งสิ้น 81 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีแบ่งเป็น ภาคครัวเรือน 22 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ภาคเกษตรกรรม 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีและภาคอุตสาหกรรม 29 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ทั้งนี้จากการตรวจสอบใบอนุญาตคำขออนุญาตใช้น้ำบาดาล พบว่ามีการใช้น้ำบาดาล 113,104 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้น้ำบาดาลที่ระดับความลึกระหว่าง 200-400 เมตร และมีแนวโน้มที่จะใช้น้ำบาดาลเพิ่มขึ้นในอนาคต

นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า ในการนี้ได้มอบหมายให้นักวิชาการของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำรวจพื้นที่ในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อค้นหาแหล่งน้ำบาดาลใหม่คุณภาพน้ำดี ณ วัดสหกรณ์โฆสิตาราม ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยพัฒนานวัตกรรมด้านการเจาะน้ำบาดาลระดับลึกในตะกอนกรวดทราย โดยใช้เทคนิคทดสอบปริมาณน้ำและเก็บตัวอย่างน้ำบาดาล พร้อมผนึกข้างบ่อด้วยซีเมนต์ เพื่อป้องกันน้ำเค็มไหลลงไปผสมกับน้ำบาดาลจืด จากผลการตรวจสอบชั้นน้ำบาดาล โดยใช้ข้อมูลธรณีวิทยาหลุมเจาะ และข้อมูลธรณีฟิสิกส์หลุมเจาะ พบแหล่งน้ำบาดาลใหม่ในแอ่งย่อยธนบุรี ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 640 ถึง 1,008 เมตร จำนวน 5 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นตะกอนกรวดทรายแทรกสลับกับชั้นดินเหนียวบางๆ แบ่งออกเป็น ชั้นที่ 1 ความลึก 640 ถึง 705 เมตร ชั้นที่ 2 ความลึก 715 ถึง 785 เมตร ชั้นที่ 3 ความลึก 810 ถึง 880 เมตรชั้นที่ 4 ความลึก 895 ถึง 935 เมตร และชั้นที่ 5 ความลึกมากกว่า 950 เมตร

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวถึงผลการสำรวจว่า ผลที่ได้สามารถแบ่งออกจากชั้นน้ำบาดาลที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างชัดเจน เนื่องจากถูกปิดทับด้วยชั้นดินเหนียวหนากว่า 140 เมตร ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 500 ถึง 640 เมตร จึงเป็นโอกาสที่ดีในการปรับปรุงข้อมูลชั้นน้ำบาดาลที่สำคัญของประเทศไทยในรอบ 30 ปี ที่แต่เดิมมีข้อมูลชั้นน้ำบาดาลในเขตที่ราบลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง จำนวน 8 ชั้น ที่ระดับความลึกไม่เกิน 600 เมตร ได้แก่ ชั้นน้ำกรุงเทพ ความลึกประมาณ 50 เมตร ชั้นน้ำพระประแดง ความลึกประมาณ 100 เมตร ชั้นน้ำนครหลวง ความลึกประมาณ 150 เมตร ชั้นน้ำนนทบุรี ความลึกประมาณ 200 เมตรชั้นน้ำสามโคก ความลึกประมาณ 300 เมตร ชั้นน้ำพญาไท ความลึกประมาณ 350 เมตร ชั้นน้ำธนบุรี ความลึกประมาณ 450 เมตร และชั้นน้ำปากน้ำ ความลึกประมาณ 550 เมตร

...

นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า การค้นพบแหล่งน้ำบาดาลใหม่ระดับลึกกว่า 1,000 เมตรในครั้งนี้ จะช่วยให้ประชาชนในตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร กว่า 22,000 คน รวม 10,000 ครัวเรือน มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และที่สำคัญจะเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นการผลิตของภาคเอกชน รวมถึงการเพิ่มความมั่นคงทางด้านทรัพยากรน้ำในเขตอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวด้วยว่า หลังจากที่การสำรวจเสร็จสิ้นลง ก็จะมีการหารือร่วมกับทางจังหวัดสมุทรสาคร นายก อบจ.สมุทรสาคร และ อบต.โคกขาม เพื่อดำเนินการบริหารจัดการน้ำบาดาลอย่างเป็นระบบต่อไป และอนาคตยังจะมีการขยายไปยังพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม กับ สมุทรปราการอีกด้วย เพื่อให้เขตการบริหารจัดการน้ำบาดาลเป็นไปอย่างครอบคลุมในพื้นที่เป้าหมาย ส่วนการค้นพบแหล่งน้ำบาดาลแหล่งใหม่ที่ลึกที่สุดในประเทศไทยที่จังหวัดสมุทรสาครนี้ ก็ได้มอบหมายให้มีการนำตะกอน กับน้ำในชั้นที่ 9 ถึง 13 ไปตรวจสภาพเพิ่มเติมด้วย เพื่อหาอายุของตะกอนดินกับน้ำที่พบ.

...