สาววัย 23 พร้อมพี่ชาย 2 คน ชีวิตสุดลำบาก อยู่มาจนโตไม่มีบัตรประชาชน เพราะแม่ไม่ได้ไปแจ้งเกิด จนจะมีลูกเอง เพราะท้องแก่ 8 เดือนกำลังจะคลอด ไม่มีเงินไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อมาทำบัตร หวั่นลูกออกมาไม่ได้รับสิทธิ์ วอนผู้มีเมตตาช่วยเหลือ
วันที่ 31 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในบ้านห้วยต้นห้าง ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจาก นายสุวัฒน์ ชลธารานที นายก อบต.อ่างหิน และผู้นำท้องถิ่น ต.อ่างหิน ให้เข้าช่วยเหลือ น.ส.นัตวรรณ ตุ้มแก้ว อายุ 23 ปี สาวท้องแก่ 8 เดือน พร้อมพี่ชายวัย 25 ปี และ 27 ปี ที่ไม่บัตรประชาชน หลังใช้ชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก ทั้งที่เป็นคนไทยมีพ่อแม่เป็นตัวเป็นตน แต่ไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ จึงไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน
ที่ผ่านมาทางนายก อบต.อ่างหิน ได้พยายามทำเรื่องขอบัตรประชาชนให้ แต่ทางอำเภออ้างว่า ต้องยืนยันตัวตนด้วยการตรวจ DNA ต้องใช้เงินถึง 5 หมื่นบาท แต่สภาพฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวอยู่อย่างยากลำบาก เพราะพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 7 ชีวิต ภายในเพิงพักหลังคาสังกะสีผุพัง ไม่มีไฟฟ้า และเครื่องอำนวยความสะดวก มีอาชีพรับจ้างได้เงินไม่แน่นอน จึงไม่มีเงินไปตรวจ DNA โดยเฉพาะ น.ส.นัตวรรณ ซึ่งท้องแก่ใกล้คลอด มีความกังวลและกลัวว่าลูกจะไม่ได้รับสิทธิ์เป็นคนไทยเหมือนตัวเธอ
น.ส.นัตวรรณ สาวท้องแก่ 8 เดือน เล่าถึงชีวิตคนไร้บัตรประชาชนว่า เธอเป็นลูกสาวของ น.ส.หวานเมือง พันธุ์ไทย อายุ 48 ปี กับ นายสมพงษ์ แก้วตุ้ม อายุ 54 ปี อาศัยอยู่ด้วยกัน 8 คน ที่เพิงพักไม่มีเลข ซึ่งเธอและพี่ชายอีก 2 คน ไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ เนื่องจากแม่ไม่ได้ไปแจ้งเกิด ทำให้เธอและพี่ชายอีก 2 คนได้เรียนหนังสือแค่ชั้นประถมศึกษา 3 โดยได้ความช่วยเหลือจากอดีตผู้ใหญ่บ้านฝากเข้าเรียน ให้พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น ไม่สามารถเข้าระบบเพื่อเรียนต่อได้ เพราะไม่มีใบเกิด และทำบัตรประชาชนไม่ได้ จนเธอและพี่ชายโตถึงได้รู้ว่า "ไม่มีหลักฐานการแจ้งเกิด" เนื่องจากตอนเกิดแม่ได้ย้ายที่ทำงานไปหลายจังหวัด จึงไม่ได้แจ้งเกิดลูกทั้ง 3 คน
...
จนล่วงเลยมาจนเธออายุถึง 23 ปี ก็ยังไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ ที่ผ่านมาพ่อแม่และผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และ อบต. ได้ดำเนินการเรื่องของการทำบัตรประชาชนกับทางอำเภอมาตลอด ซึ่งทางอำเภอได้ชี้แจงมาว่า ต้องไปหาหลักฐานการเกิดที่ รพ.ที่แม่ไปคลอด แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังสืบค้นไม่ได้ เพราะทางโรงพยาบาลไม่ได้เก็บหลักฐานไว้ให้ เนื่องจากเวลาผ่านมาหลายปีแล้ว ทางอำเภอจึงแนะนำให้เธอพร้อมพี่ชายอีก 2 คนไปตรวจ DNA กับแม่ โดยต้องไปตรวจที่ รพ.ในกรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายรวมค่าเดินทางเกือบ 50,000 บาท
น.ส.นัตวรรณ เล่าต่อว่า แต่เนื่องด้วยครอบครัวของเธอมีฐานะยากจน ไม่มีเงินค่าเดินทางและค่าตรวจ DNA ทำให้เธอและพี่ชายอีก 2 คน หมดสิทธิ์ที่จะมีบัตรประชาชน โดยตอนนี้สิ่งที่เธอวิตกกังวลมากที่สุด คือลูกในท้องของเธอที่จะคลอดออกมาในอีก 1 เดือนข้างหน้า ถ้าเด็กเกิดมาแล้ว เธอจะแจ้งเกิดได้ไหม จะได้รับสิทธิ์เหมือนเด็กปกติทั่วไปไหม เธอกลัวลูกจะเป็นเหมือนเธอที่ไม่มีบัตรประชาชน และไม่ได้รับสิทธิ์ตามบัตรประชาชน ที่ผ่านมาทางผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายกอบต.ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือครอบครัวของเธอเรื่อยๆ ตามกำลังงบของทางราชการ แต่เธออยากจะกราบวอนขอท่านผู้ใจบุญให้ช่วยเหลือเธอและครอบครัวในเรื่องทุนทรัพย์ค่าใช้จ่ายการตรวจ DNA และซ่อมแซมเพิงพักที่ครอบครัวเธออยู่อาศัยอย่างบากลำบาก
ขณะที่ นายสุวัฒน์ ชลธารานที นายก อบต.อ่างหิน พร้อมด้วย นายประเทือง หมื่นชำนาญ กำนัน ต.อ่างหิน, นายบอย พิจิตร ผญบ.หมู่ 6 ได้มอบถุงยังชีพ และสอบถามเรื่องการขอทำบัตรประชาชน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางผู้นำชุมชนได้ดำเนินเรื่องช่วยเหลือมาตลอด แต่ด้วยตัวงบประมาณของหน่วยงานราชการไม่มีงบสนับสนุนตรงจุดนี้ จึงทำได้แค่ช่วยเหลือตามกำลังของ อบต.เท่านั้น สาเหตุสำคัญที่ทาง อบต.เข้าให้การช่วยเหลือได้ไม่เต็มที่ เพราะน้องๆ ไม่มีบัตรประชาชน ทำให้เข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งเรื่องการศึกษา ที่อยู่อาศัย และอีกหลายด้าน ที่คนไทยคนหนึ่งพึงจะได้ จึงอยากวอนขอท่านที่พอจะมีกำลังมาช่วยเหลือให้น้องๆ ทั้ง 3 คนได้มีบัตรประชาชนเป็นคนไทยที่สมบูรณ์ และช่วยเหลือเรื่องที่พักที่มีสภาพผุพัง ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนเดือดร้อนมาก หลังคาบ้านไม่สามารถป้องกันฝนได้เลยจึงขอความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวน้องๆ ด้วย
โดยท่านที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวน้องๆ สามารถโอนเงินช่วยเหลือมาได้ที่บัญชี ธ.กรุงไทย สาขาจอมบึง เลขที่บัญชี 744-0-53515-4 ชื่อบัญชี นายไพศาล โพธิ์เงิน และ นายสมพงษ์ แก้วตุ้ม หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 09-8972-0970 ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือน้องๆ และครอบครัว.