เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่พ่อค้าแม่ค้าทั้งชาวไทย กัมพูชา ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่ต้องการข้ามแดนจากสระแก้วไปเมืองปอยเปต และจากปอยเปต มาสระแก้ว ไม่สามารถเดินทางข้ามไปมาได้ อันเป็นผลจากคำสั่งที่ 849/2563 ลงวันที่ 29 มี.ค. 63 ให้ปิดด่านชายแดนถาวรฯ
บัดนี้คำสั่งนั้น กำลังจะสิ้นสุดลง พร้อมๆกับเดือนเมษายนอันร้อนระอุ และการระบาดอันเลวร้ายของโควิด-19 ในรอบระยะเวลายาวนานกว่า 2 ปี ภายหลังมีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางเข้า-ออกประเทศของบุคคล ผ่านช่องทางผ่านแดนทางบกของ ศบค.ชุดใหญ่และกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา
หนึ่งในนั้น คือการพิจารณาเปิดด่านผ่านแดนถาวรทางบก จ.สระแก้ว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2565 แบบเต็มรูปแบบ โดยมีข้อกำหนด ดังนี้
"ผู้มีสัญชาติไทยต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามกำหนด และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK ไม่พบเชื้อ สามารถเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้โดยไม่ต้องกักตัว หากพบเชื้อให้ส่งเข้ารับการรักษาตามสิทธิ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนครบตามกำหนด ต้องตรวจหาเชื้อและกักตัว 5 วัน หากพบเชื้อให้ส่งรักษาตามสิทธิ"
บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ สัญญาณคืนชีพตลาดโรงเกลือ
ล่าสุด วันที่ 29 เมษายน ที่สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผวจ.สระแก้ว มอบหมายให้ นายชนาธิป โคกมณี นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว นายวัชรินทร์ อรัญเจริญยิ่ง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอรัญประเทศ พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับจิตอาสา ประชาชน เก็บกวาดล้างทำความสะอาดบริเวณถนน บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ด่านพรมแดนคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดด่านพรมแดนคลองลึก ในวันที่ 1 พ.ค. นี้
...
บรรยากาศการร่วมกันทำความสะอาดครั้งนี้ ทั้งคึกคักไปด้วยความวร่วมแรงร่วมใจของพ่อค้าประชาชนที่รอคอยการเปิดด่านมานาน เป็นความหวังของชาวสระแก้ว และชาวกัมพูชาในกรุงปอยเปตที่จะเดินทางเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ รวมถึงผู้ที่ต้องการเดินทางผ่านแดนไปท่องเที่ยวในกัมพูชา และประเทศไทย ได้ดังเดิม หลังจากด่านพรมแดนคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ถูกสั่งปิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มายาวนานกว่า 2 ปี
มั่นใจเศรษฐกิจเมืองชายแดนฟื้นคืน
นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาล โดย ศบค.ได้อนุมัติเปิดด่านพรมแดนคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในวันที่ 1 พ.ค.2565 นี้
"คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจการค้าชายแดนจังหวัดสระแก้ว โดยเฉพาะการค้าขายในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนของ อ.อรัญประเทศ ซึ่งซบเซาและหยุดชะงักมานานกว่า 2 ปี ได้กลับมามีชีวิตชีวา มีการสร้างงานสร้างอาชีพ และสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้กับจังหวัดสระแก้วอีกครั้ง จึงอยากขอบคุณนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ที่มองปัญหาด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ และขอบคุณพ่อเมืองสระแก้วที่พยายามผลักดันจนทำให้ด่านพรมแดน และจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ได้เปิดตามความหวังของชาวจังหวัดสระแก้ว"
คาดชาวกัมพูชาที่มีบอร์เดอร์พาสยังไม่กล้าข้ามมา
ทางด้าน พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เผยว่าขณะนี้ ตม.จว.สระแก้ว มีความพร้อมและได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้รองรับให้บริการที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ คาดว่าในช่วงแรกจะยังมีผู้เดินทาง และผู้โดยสารผ่านเข้า-ออก ด่าน ตม.อรัญประเทศ ไม่มากนักเนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการตรวจ ATK โดยเฉพาะของชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยบอร์เดอร์พาสหรือหนังสือผ่านแดนท้องถิ่น ซึ่งรายละเอียดยังไม่ค่อยชัดเจนนัก
...
กว่า 2 ปี โควิดทำ "ตลาดโรงเกลือ" ซบเซาหนัก
สำหรับการปิดด่านพรมแดนใน จ.สระแก้ว ได้ยึดตามคำสั่ง ที่ 849/2563 ลงวันที่ 29 มี.ค. 63 ข้อที่ 1) สั่งระงับการใช้ช่องทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยกเว้นให้ผ่านเฉพาะยานพาหนะขนส่งสินค้ารวมทั้งคนประจำยานพาหนะขนส่งสินค้าไม่เกิน2คน โดยต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ข้อ 2) ระงับการใช้ช่องทาง ณ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศฯ และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา 3) ระงับการใช้ช่องทางอนุโลมชั่วคราว 15 จุด ในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดน ประกอบด้วย อ.ตาพระยา, อ.โคกสูง, อ.อรัญประเทศ และ อ.คลองหาด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 63 เป็นต้นไปจนกว่า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
เท่ากับว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตลาดโรงเกลือ ตลาดชายแดนที่เคยคึกคักไปด้วยพ่อค้าและนักท่องเที่ยว ต้องเงียบเหงาซบเซามายาวนานกว่า 2 ปี
ต้องมาดูกัน การเปิดด่านในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ตลาดขายส่งชายแดนที่เคยถูกยกให้เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน จะกลับมาคึกคักสร้างเงินสร้างงาน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ จ.สระแก้ว ได้อีกครั้งหรือไม่