ส.ว.หญิงเมืองเพชร ลงตรวจพื้นที่จุดฆ่าโหดช้างป่าล่าเอาอวัยวะ พบมีตำรวจ ทหาร ลาดตระเวนตามคำสั่ง ผบ.ทบ. เรียกร้องนายกฯ "ยิ่งลักษณ์" หยิบรายงานการบูรณาการปัญหาช้างไทย ที่นำเสนอไปสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ขึ้นมาดู และเร่งรัดแก้ไขปัญหา วอนให้ถอนทะเบียนช้างออกจากสัตว์พาหนะ แก้ปัญหาสวมสิทธิ์

วันที่ 8 ม.ค.55 น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ประธานอนุกรรมาธิการทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช วุฒิสภา ในฐานะ ส.ว.เพชรบุรี ได้ลงพื้นที่บ้านตำบลป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เชื่อมต่อเขต ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ช้างป่าถูกล่าเพื่อเอาอวัยวะและงา พบว่าในเส้นทางดังกล่าว มีการสนธิกำลังกันระหว่างตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน และกำลังทหารจากชุดเฉพาะกิจ ค่ายทัพพระยาเสือ และฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อทำการตรวจตรายานพาหนะที่ผ่านไปมาบนถนนเส้นทางดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการจัดกำลังชุดเดินเท้า ออกเดินลาดตระเวนในบริเวณที่มีโขลงช้างป่าอาศัยอยู่อีกด้วย ซึ่งก็เป็นไปตามคำสั่งที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 จัดกำลังในพื้นที่เข้าเสริมภารกิจในการเสริมกำลังเพื่อทำดูแลช้างป่าที่กำลังถูกล่า เนื่องจากกำลังของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ตลอดจนอาวุธที่ใช้ในการลาดตระเวนมีไม่เพียงพอ

...


น.ส.สุมล เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้รับทราบปัญหาเรื่องวิกฤติช้างไทยมาโดยตลอด และให้ความสนใจเนื่องจากช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง และมีบุญคุณต่อประเทศมานับแต่ในอดีต จากเคยเป็นช้างศึกที่มีฐานันดร ต่อมากลายสภาพเป็นช้างงาน ชักลากจูงไม้ในป่า กระทั่งมาถึงจวบจนปัจจุบันมาเป็นช้างขอทาน ถูกนำเร่ร่อนหาเงินไปทั่ว จนสร้างปัญหาและความสงสารให้กับผู้พบเห็นที่ช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีคุณประโยชน์ต้องตกต่ำถึงเพียงนี้ อีกทั้งปัญหาของช้าง ทั้งช้างป่าและช้างบ้าน ไม่มีรัฐบาลไหนให้ความสนใจเลย ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังและยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบันนี้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับช้างก็เป็นกฎหมายที่บังคับใช้มาแต่สมัยโบราณ ไม่มีการแก้ไข และเมื่อยุคใดก็แล้วแต่ที่จะทำการแก้ไขกฎหมายเรื่องของช้าง ก็จะถูกขัดขวางและทอดเวลาให้เรื้อรังต่อไปอย่างยาวนาน ดังนั้นคณะอนุกรร มาธิการฯชุดนี้ ได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาทำการศึกษาปัญหาวิกฤติช้างไทย ทั้งช้างป่าและช้างบ้านมาแล้วเป็นเวลากว่าหนึ่งปี โดยได้ไปศึกษาดูงานในพื้นที่ที่มีช้างป่าและช้างบ้านตามปางช้างต่างๆ พร้อมทั้งรวบรวมปัญหาตลอดจนรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาค ทั้งของภาครัฐและเอกชนมาแล้ว กระทั่งจัดทำเป็นรายงานเสนอต่อรัฐบาล สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านก็รับปากว่าจะเข้ามาดูแลแก้ไขตามแนวทางที่เสนอ แต่ก็ปรากฏว่ามีการยุบสภาและมีการเลือกตั้งใหม่

ส.ว.เพชรบุรี กล่าวต่อว่า จากผลจากการศึกษา และทำเป็นรายการบูรณาการปัญหาช้างไทย ได้สรุปแนวทางแก้ไขไว้ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวไว้หมดแล้ว ซึ่งปัญหาใหญ่ที่พบว่าเป็นเหตุให้ช้างป่าถูกล่า และช้างบ้านถูกซื้อขายเป็นสินค้าก็คือ ช้างถูกจัดให้อยู่ในทะเบียนสัตว์พาหนะ ซึ่งทำให้มีการซื้อขายได้ อีกทั้งตั๋วรูปพรรณช้างก็ไม่พัฒนา เป็นการทำทะเบียนรูปพรรณหยาบๆ จึงมีการสวมทะเบียนช้างที่ตายแล้วด้วยการไปจับลูกช้างมาสวมใหม่โดยไม่สามารถพิสูจน์ที่มาของลูกช้างที่นำมาสวมได้ ดังนั้น หากจะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ต้องยกเลิก ไม่ให้ช้างเป็นสัตว์พาหนะ เพื่อไม่ให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือช้างได้ต่อไป อีกทั้งตั๋วทะเบียนรูปพรรณ ก็ต้องทำการปรับปรุงให้ทันสมัย สามารถระบุถึงดีเอ็นเอ ที่มาของพ่อช้างแม่ช้างได้จริง รวมทั้งการแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน ดังเช่นที่กรุงเทพมหานครได้ออกกฎหมายท้องถิ่น ไม่อนุญาตให้ช้างเข้ามาเดินเร่ร่อนหากินในเมืองจากพวกหวังประโยชน์กับช้าง โดยท้องถิ่นทุกแห่งซึ่งปัจจุบันก็มีการทำหนังสือแจ้งเวียนไปจนหมดสิ้นแล้ว จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ไม่บังคับใช้ทางกฎหมาย ปล่อยปละละเลยจนเป็นปัญหา

น.ส.สุมล เปิดเผยอีกว่า ล่าสุดทางรัฐสภา ได้รับงบประมาณแผ่นดินในการจัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในการจัดทำโครงการปลูกพืชให้ช้าง สร้างอาหารให้สัตว์ป่า โดยจะเริ่มต้นในพื้นที่สามแห่ง คือ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนย แห่งละสองล้านบาท ซึ่งจะมีการสร้างโป่งเทียม สร้างฝายแม้ว สร้างแหล่งน้ำ ตลอดจนปลูกพืชที่ช้างและสัตว์ป่าสามารถกินได้ โดยไม่ออกมานอกพื้นที่จนเกิดผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ติดต่อกันดังเช่นที่เกิดขึ้นในหลายแห่งในขณะนี้ ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มต้นในเดือนมกราคมนี้

"ดิฉันเห็นด้วยกับ นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่จะตั้งกองทุนอาหารช้าง โดยจัดสรรงบประมาณ และเงินบริจาคเพื่อที่จะดูแลปัญหาช้างที่ออกมากินผลผลิตของเกษตรกรที่เพาะปลูกแล้วช้างมากินจนเสียหายด้วยการจัดเงินชดเชยให้ และพืชผลที่เกษตรกรเหล่านี้ปลูก ก็ให้ถือว่าเป็นการปลูกเพื่อเลี้ยงช้าง โดยเชื่อว่าวิธีนี้จะเป็นการแก้ปัญหาการกระทบกระทั่งระหว่างคนกับช้างได้อย่างยั่งยืน จึงขอสนับสนุนแนวความคิดนี้ และขอฝากไปยังรัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้หยิบรายงานการบูรณาการปัญหาช้างไทย ที่คณะอนุกรรมาธิการทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในคณะกรรมาธิการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของวุฒิสภา ได้จัดทำแล้วเสนอปัญหาตลอดจนวิธีการแก้ไขมาพิจารณาและเร่งรัดดำเนินการแก้ไข ถอดถอนช้างออกจากทะเบียนสัตว์พาหนะ ตลอดจนการปรับปรุงการจัดทำตั๋วรูปพรรณช้างให้ทันสมัย ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาช้างถูกล่าได้อย่างแน่นอน เพราะไม่สามารถซื้อขายช้างได้ และต่อไปรัฐก็ควรเข้าไปดูแลช้างเสียเอง" น.ส.สุมล กล่าว