กองปราบฯบุกทลายเครือข่ายเงินกู้ดอกเบี้ยโหดรายใหญ่ เปิด 3 แอปพลิเคชันดูดเงินลูกค้า ทั้งช้างเผือก ช้างมืออาชีพ และเงินกู้ดีที่สุด ชักชวนเหยื่อที่เดือดร้อนมากู้เงินด่วน แต่หักดอกเบี้ยล่วงหน้าสุดโหด 40 เปอร์เซ็นต์ เช่าทาวน์โฮม 4 ชั้น 3 หลังใน จ.นนทบุรี เป็นฐาน ขณะจับกุมมีพนักงานทำงานอยู่กว่า 50 คน เห็นตำรวจถึงกับแตกฮือหนีเอาตัวรอด จับกลับมาได้ 30 คน พนักงานคนเดียวดูแลลูกหนี้กว่า 2 พันคน เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านต่อเดือน
กองปราบฯบุกทลายเครือข่ายปล่อยเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชันรายใหญ่ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 30 มิ.ย. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. พร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นทาวน์โฮม 4 ชั้น 3 หลังภายในหมู่บ้านไพลิน ปาร์ค ถนนรัตนาธิเบศร์ซอย 28 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเปิดเป็นสำนักงานเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ แอปพลิเคชันช้างเผือก ช้างมืออาชีพ และเงินกู้ดีที่สุด
จากการตรวจค้นอาคาร ภายในดัดแปลงเป็นสำนักงาน มีพนักงานชายหญิงกว่า 50 คนนั่งทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อเห็นตำรวจเข้ามากลุ่มพนักงานพยายามวิ่งหลบหนีเอาตัวรอดเกิดการชุลมุน เจ้าหน้าที่ไล่ตามจับกุมกลับมาได้บางส่วนจำนวน 30 คน ก่อนเข้าตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งกระจายอยู่ตามห้องต่างๆภายในอาคารทั้ง 3 หลังรวมทั้งหมด 130 เครื่อง พร้อมกับเอกสารบัญชีรายชื่อลูกค้าที่กู้ยืมเงินจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม กล่าวว่า การตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากกองปราบฯได้รับการร้องเรียนว่า แก๊งเงินกู้ออนไลน์เปิดแอปพลิเคชันดังกล่าวมาเช่าอาคารลักลอบเปิดเป็นสำนักงาน สั่งให้เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป.นำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสนาน 1 เดือน จนแน่ชัดว่ามีการกระทำความผิดจริง รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายค้น เข้าตรวจค้นจับกุมผู้กระทำผิด
...
“สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าว จะเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางติดต่อกับลูกค้าที่เข้ามาติดต่อกู้เงิน ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มีความเดือดร้อนด้านการเงิน นอกจากนี้ยังพบว่า มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงติดตามทวงหนี้ลักษณะก่อกวนและข่มขู่ หากใครไม่ชำระหนี้ครบตามเวลา จะส่งข้อความไปให้กับบุคคลใกล้ชิด เพื่อประจานให้เกิดความอับอาย” พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าว
ผบก.ป.กล่าวด้วยว่า แนวทางสืบสวนยังพบอีกว่าขบวนการดังกล่าวมีนายทุนเป็นชาวจีนทำมานานหลายปีแล้ว ที่ผ่านมาย้ายสถานที่ตั้งสำนักงานมาแล้วหลายแห่งเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ อาทิ จ.เชียงราย จ.เพชรบุรี และ จ.ชลบุรี ก่อนย้ายมาตั้งออฟฟิศที่ จ.นนทบุรี ประมาณ 2 เดือน พนักงานส่วนใหญ่ที่จับกุมได้ ทำหน้าที่ติดตามเร่งรัดหนี้สินจากลูกค้า พบว่าพนักงาน 1 คนมีบัญชีรายชื่อลูกหนี้ในมือที่ต้องตามทวงหนี้กว่า 2 พันคน
เบื้องต้นกลุ่มพนักงานที่ถูกจับกุมจะถูกดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราปี 2560 และ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถาบันการเงินปี 2551 ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดได้จะประสาน บก.ปอท.เข้าตรวจสอบข้อมูลขยายผลเอาผิดกลุ่มนายทุนที่แท้จริง และผู้ร่วมขบวนการคนอื่น มีรายงานข่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่มาติดต่อกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว จะถูกหักดอกเบี้ยล่วงหน้าประมาณร้อยละ 40 ของเงินต้น พบเงินหมุนเวียนต่อเดือนกว่า 100 ล้านบาท