"กรับใหญ่แอมบูแลนซ์" ซาเล้งพ่วงข้างที่ไม่ธรรมดา นายกฯป้ายแดง ใช้เงินเดือนเดือนแรกซื้อให้สาวจิตอาสาที่ทำงานช่วยเหลือชาวบ้าน ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ คนพิการ นำส่ง รพ. ไปรับยามาให้ โดยไม่เคยเรียกร้องเงินทอง เป็นการตอบแทนความดี มอบเป็นของขวัญ และให้ใช้เป็นรถฉุกเฉินประจำตำบลไปด้วย
วันที่ 20 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธรรมรัตน์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ นายกเทศมนตรีตำบลกรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ส่งมอบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างให้กับ น.ส.สุมล ฉัยยา หรือ พี่ต่าย อายุ 46 ปี จิตอาสาที่คอยช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย มาเกือบ 20 ปี โดยได้ใช้เงินจากเงินเดือนเดือนแรกของการเป็นนายกเทศมนตรี ไปซื้อรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และได้ตั้งชื่อว่า “กรับใหญ่แอมบูแลนซ์”
นายธรรมรัตน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านให้เป็น กำนัน ต.กรับใหญ่ ทำให้ได้รับรู้ปัญหาของชาวบ้าน และได้พบกับพี่ต่าย ที่มักจะขี่รถ จยย.พ่วงข้างสภาพเก่าผุพังออกไปรับส่งผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และไปรับยาประจำตัวมาให้กับผู้ป่วยติดเตียง แม้จะต้องตากแดดตากฝน เพราะรถไม่มีหลังคา แต่ก็ยังคงทำอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่เคยเรียกร้องเงินทองรับผลประโยชน์กับคนเหล่านี้เลยแม้แต่บาทเดียว
...
ต่อมา เมื่อได้รับเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่ นายกเทศมนตรีตำบลกรับใหญ่ ด้วยความตั้งใจอยากช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมปรับเปลี่ยนตำบลกรับใหญ่ ให้กลายเป็นชุมชนน่าอยู่ และต้องการตอบแทนความดีของพี่ต่าย จิตอาสาประจำตำบล จึงตัดสินใจนำเงินเดือนเดือนแรกมาซื้อรถ จยย.พ่วงข้างคันใหม่ เพื่อมอบให้กับพี่ต่าย
"วันที่ไปซื้อรถ เมื่อเจ้าของร้านทราบว่า จะซื้อไปมอบให้กับพี่ต่าย ทางร้านก็ลดราคาให้เป็นพิเศษทันที จากนั้นได้นำรถไปต่อพ่วงข้าง ทางร้านก็ยินดีทำให้ด้วยความเต็มใจ เพียงแค่นำวัสดุอุปกรณ์มาให้ รวมไปถึงร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แจ้งว่า หากพี่ต่ายเอารถไปซ่อม จะซ่อมให้ฟรีไม่คิดค่าแรงอีกด้วย รถกรับใหญ่แอมบูแลนซ์คันนี้ จึงเป็นเสมือนการตอบแทนน้ำใจและเชิดชูความดีที่พี่ต่ายมีให้กับพี่น้องชาวตำบลกรับใหญ่ มาตลอดระยะเวลา 19 ปี" นายธรรมรัตน์ กล่าว
ทางด้าน น.ส.สุมล ฉัยยา หรือ พี่ต่าย จิตอาสาประจำตำบล เปิดเผยว่า ความเป็นจิตอาสาของตน เริ่มมาจากการได้เห็นคุณพ่อ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านคอยช่วยเหลือดูแลคนในหมู่บ้าน ตั้งแต่คนเกิดจนถึงคนตาย เมื่ออายุได้ 17 ปี จึงตัดสินใจไปสมัครเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ทำให้มีโอกาสเข้าไปคลุกคลีกับชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้พิการ หลายคนประสบปัญหาถูกทอดทิ้ง บางคนยากจน เวลาเจ็บป่วยหรือต้องติดต่องานราชการก็แสนจะยากลำบาก ด้วยไม่มีเงินและไม่มีรถสำหรับเดินทาง เห็นแล้วรู้สึกสงสาร จึงนำรถจักรยานยนต์ของตัวเองไปต่อพ่วงข้าง แล้วนำมาใช้รับส่งผู้ป่วย ส่วนค่าใช้จ่ายและค่าน้ำมันรถ ตนไม่เคยเรียกร้องหรือร้องขอ เพราะเข้าใจถึงความยากลำบาก แต่ในบางครั้งก็จะมีญาติผู้ป่วยมอบให้บ้างเป็นสินน้ำใจ
พี่ต่าย กล่าวอีกว่า ในส่วนของครอบครัว ทุกคนต่างยินดีและสนับสนุน จึงทำงานด้านจิตอาสาด้วยความสุขมาโดยตลอด จนกระทั่งได้รับการติดต่อว่า ทางนายกฯ และชาวบ้านร่วมใจกันมอบรถกรับใหญ่แอมบูแลนซ์ ให้เป็นของขวัญแทนใจ และตอบแทนสิ่งดีๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกตื้นตัน และภาคภูมิใจกับของขวัญชิ้นนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ตั้งใจว่าจะใช้รถคันนี้ให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับพี่น้องชาวตำบลกรับใหญ่ และจะช่วยเหลือชาวบ้านต่อไปจนกว่าจะทำไม่ไหว ดั่งคำที่เคยได้ยินพระท่านว่า "ความดี ไม่มีวันเกษียณ"