ศูนย์เรียนรู้กสิกรรมไร้สารพิษละโว้ธานี นำงานวิจัยจากหิ้งสู่ภาคปฏิบัติจริง ผลิตเครื่องกระตุ้นเมล็ดข้าวด้วยสนามแม่เหล็กไว้ใช้เอง ได้ผลผลิตเพิ่ม 30%
นายเชาว์วัช หนูทอง ประธานศูนย์เรียนรู้กสิกรรมไร้สารพิษละโว้ธานี ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เผยว่า ได้ประดิษฐ์เครื่องผลิตเครื่องกระตุ้นเมล็ดข้าวด้วยสนามแม่เหล็ก สำเร็จ ด้วยต้นทุนเพียง 2 หมื่นบาท หลักการทำงานของเครื่องไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เทเมล็ดพันธุ์ข้าวลงไปในเครื่อง และปล่อยให้เมล็ดข้าวไหลลงท่อที่มีสายพานส่งเมล็ดข้าวไปได้ แล้วปล่อยให้ข้าวลงท่อตามแรงโน้มถ่วงของโลกเพื่อให้เมล็ดข้าววิ่งผ่านแม่เหล็กแรงสูงแบบหมุนเวียนไปมาหลายรอบ นาน 30 นาที จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ไปเพาะกล้า ปรากฏว่า สนามแม่เหล็กช่วยกระตุ้นการงอกของรากได้มากกว่าปกติ ทำให้ต้นข้าวสามารถสู้กับวัชพืชได้ ที่สำคัญเมื่อต้นข้าวมีรากมากขึ้น หาอาหารได้เก่งขึ้น ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 30%
“หลักการนำสนามพลังแม่เหล็กมาช่วยกระตุ้นการงอกนี้ เราไม่ได้คิดขึ้นมาเอง แต่เป็นงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์รัสเซียที่มีมานานแล้ว พบว่า พลังของแม่เหล็กมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ อย่างการที่น้ำไหลผ่านสนามพลังแม่เหล็ก เมื่อนำไปใช้ดอกไม้ในแจกันแทนน้ำ ทั่วไป ดอกไม้จะสดอยู่ได้นาน และถ้านำไปให้สัตว์เลี้ยงกิน อัตราการตายของสัตว์จะลดลง สุขภาพสัตว์จะดีขึ้น และได้น้ำหนักเพิ่ม”
...
ประธานศูนย์เรียนรู้กสิกรรมไร้สารพิษละโว้ธานี กล่าวต่ออีกว่า ประกอบกับเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้นำหลักการนี้มาผลิตเครื่องกระตุ้นเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์การงอกของเมล็ดพันธุ์ข้าวและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น จนประสบความสำเร็จ
“แต่เสียดายที่งานวิจัยเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกร กลับไม่ได้รับการสานต่อนำมาใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติจริง ผมในฐานะที่เรียนจบมาทางด้านวิศวกรรม จึงนำหลักการนี้มาสานต่อ ประดิษฐ์เครื่องกระตุ้นเมล็ดข้าวขึ้นมาเอง โดยใช้แม่เหล็กถาวรกำลังสูง ที่เรียกกันว่า แม่เหล็กนีโอไดเนียม ที่มีกำลังสูง 3 แสนเกาส์ มาเป็นตัวกระตุ้นการงอก นอกจากใช้กระตุ้นเมล็ดข้าวแล้ว เครื่องตัวนี้ยังใช้กับเมล็ดพันธุ์อื่นๆ ได้อีกด้วย”
นายเชาว์วัช บอกอีกว่า การกระตุ้นเมล็ดพันธุ์ที่ช่วยให้ได้ผลผลิตเพิ่มถึง 30% จะช่วยให้เกษตรกรไทยมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง สามารถผลิตสินค้าไปค้าขายแข่งกับประเทศอื่นได้ เพราะการทำเกษตรบ้านเราต้นทุนสูงกว่าประเทศอื่นๆ ถ้ารัฐสนับสนุนให้หน่วยราชการที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ รวมไปถึงธุรกิจผลิตเมล็ดพันธุ์ ใช้เครื่องที่มีหลักการทำงานลักษณะนี้ ไปกระตุ้นเมล็ดพันธุ์ก่อนจำหน่าย จะเป็นการช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี.