รักษาการผอ.สำนักงานพระพุทธฯเพชรบูรณ์ เผยหารือเจ้าคณะจังหวัดแล้ว คณะสงฆ์มีมติแจ้งให้ "พระเกษม อาจิณณสีโล" ออกจากพื้นที่เพชรบูรณ์ ด้านป่าไม้จังหวัดจะเข้าสอบที่พักสงฆ์สามแยกเกิน 100 ไร่ มีการก่อสร้างเพิ่มเติมหรือไม่ภายใน 1-2 วันนี้...

กรณี พระเกษม อาจิณณสีโล แห่งที่พักสงฆ์สามแยก อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ตกเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้ง หลังจากมีการนำคลิปวิดีโอแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกเผยแพร่บนเว็บไซต์ยูทิวบ์ (www.youtube.com) ความยาวประมาณ 24 นาที ภาพที่ปรากฏระบุว่าเป็นโรงรับจังหันเช้า ภายในสำนักสงฆ์ ถ่ายเมื่อวันที่ 18-19 ส.ค.ที่ผ่านมา มีโต๊ะอาหารตั้งอยู่ตรงกลาง เพื่อให้พระสงฆ์และแม่ชีเดินตักอาหารใส่บาตไปฉัน โดยมีญาติโยมนั่งอยู่ 2 ฝั่งของศาลา ระหว่างนั้น พระเกษมเดินไปมาพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำนองว่าตัวเองไม่อยากดัง ไม่เช่นนั้นคงไม่ทำแบบนี้ ก่อนจะยกเท้าขึ้นไปวางบนโต๊ะเก้าอี้  ก่อนจะเตะถีบโต๊ะจนข้าวของล้มระเนระนาด จากนั้นยกเท้าใส่กล้อง และถ่มน้ำลายต่อหน้าชาวบ้าน และต่อมามีคนนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งพระเกษมยอมรับว่าเป็นคนโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวด้วยตัวเอง เพื่อตอบโต้พระผู้ใหญ่รูปหนึ่งในจังหวัดที่หาว่า พระเกษมอยากดัง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายวิโรจน์ ไผ่ย้อย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับทางคณะสงฆ์ ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าคุณวิสุทธินายก เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ฝ่ายธรรมยุต และเจ้าอาวาสวัดสนธิการาม แล้ว โดยคณะสงฆ์มีมติแจ้งให้พระเกษม ออกจากพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เหมือนเมื่อครั้งเกิดเรื่องฉาวในปี 2551 ซึ่งทางสงฆ์ทำได้แค่แจ้งให้ออกจากพื้นที่เท่านั้น และตามธรรมเนียมปฏิบัติ พระสงฆ์ที่ถูกแจ้งจะต้องดำเนินการตามมติคือเดินทางออกจากพื้นที่ทันที แต่กรณีพระเกษมนั้นไม่ปฏิบัติตาม ยังคงพำนักอยู่ในที่พักสงฆ์เช่นเดิม

ด้านนายชิต อินทระนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กรมป่าไม้ มีหนังสือแจ้งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2552 ให้พระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ในเขตป่าไม้เข้าร่วมโครงการที่ให้พระอยู่ร่วมรักษาพื้นที่ป่าไม้คือ หนังสือสำคัญแสดงการเข้าร่วมโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้จำนวน 100 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำหนาว และเมื่อพระสงฆ์เข้าร่วมโครงการแล้ว จะมีการออกหนังสือจากป่าไม้ให้ทางพระสงฆ์ เพื่อยืนยันการเข้าร่วมโครงการ พร้อมปฏิบติตามกฎต่างๆ ของกรมป่าไม้ หนึ่งในข้อสำคัญนั้นระบุว่า พระสงฆ์จะต้องไม่เน้นการก่อสร้างวัตถุ ซึ่งจะต้องมีการเข้าไปตรวจสอบใน 1-2 วันนี้ว่า หลังเข้าร่วมโครงการของที่พักสงฆ์สามแยกนั้น มีการก่อสร้างเพิ่มเติมจากเดิมอีกหรือไม่ หากพบว่ามีการดำเนินการก่อสร้างผิดไปจากเดิมอีกก็อาจเข้าข่ายผิดกฎของโครงการ และจะต้องดำเนินการยกเลิกการเข้าร่วมโครงการ

นอกจากนี้ จะเข้าไปตรวจสอบพิกัดของที่พักสงฆ์ว่าเกิน 100 ไร่หรือไม่ ในกรณีของพระเกษมนั้น คาดว่าน่าจะเข้าร่วมโครงการแล้วจะต้องไปตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง ซึ่งก็ได้รับการประสานและติดต่อสอบถามจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ ในกรณีการเข้าไปตั้งสำนักสงฆ์ของพระเกษม เช่นกัน

ด้านชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ภายหลังพระเกษมถูกดำเนินคดีเมื่อปี 2551 ทำให้ปัจจุบันการเข้าพบถึงตัวพระเกษม จะต้องได้รับอนุญาตจาก “คุณตาฤาษี” ซึ่งเป็นผู้ดูแลเสียก่อน อีกทั้งยังมีการติดป้ายห้ามอย่างชัดเจน เช่น "ถ้ามีพระ, เณร, ชี คนไหนมาวัดสามแยกให้โยมวัดถามหาธุระ ถ้าไม่มีธุระที่ชัดเจน อย่าปล่อยให้มาพบเราโดยไม่จำเป็น" ลงชื่อ พระเกษม อาจิณณสีโล และป้าย "กรุณาปิดโทรศัพท์ทุกเครื่อง ถ้าไม่ปิดโทรศัพท์ให้ออกไปนอกวัดทันที" และป้ายไม่รับบริจาค ข้อความว่า "วัดสามแยกไม่รับเงินบริจาคของภิกษุ, สามเณร, ชี รวมทั้งเงินสงฆ์ของวัดอื่นด้วย และไม่รับสิ่งของใดๆ ที่ซื้อด้วยเงินของภิกษุ, สามเณร, ชี และเงินสงฆ์ของวัดอื่นโดยประการทั้งปวง".

...