พระพยอม เปิดใจจากวัดสวนแก้ว เผยมีทนายมาบอกให้ย้ายออกจากที่ดินที่ซื้อจากโยมคนหนึ่ง หลังถูกลูกๆ ของคนขายฟ้อง และศาลมีคำสั่งให้มูลนิธิวัดฯ คืนที่ดินให้กับทายาทเจ้าของที่ดิน เผย "ประเทศเราก็เป็นอย่างนี้" ปลงแล้ว  

เวลา 10.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีเรื่องที่ดินกับพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว

พระพยอม กล่าวว่า เรื่องที่ดินแปลงที่ทางมูลนิธิวัดสวนแก้วได้ซื้อมาจากโยมคนหนึ่งขายให้ราคา 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2547 ทางมูลนิธิฯ ได้ทำตามขั้นตอนกฎหมายอย่างถูกต้อง แต่ตอนหลังทางลูกๆ ของเจ้าของที่ดินทราบเรื่องได้ไปฟ้องต่อศาลเพื่อขอที่ดินคืน และทางศาลมีคำสั่งให้ทางมูลนิธิวัดสวนแก้วคืนที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับทายาทเจ้าของที่ดิน ทางวัดได้ปลูกห้องพักให้คนงานอยู่อาศัยแค่นั้น ตอนนี้ทางเจ้าของได้ทำรั้วสังกะสีปิดกั้นที่ดิน แต่เปิดช่องทางให้สามารถเดินเข้าออกได้

พระราชธรรมนิเทศ กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงต้นมิถุนายนที่ผ่านมา มีทนายและเจ้าของที่ดินได้เดินทางมาที่วัด แจ้งกับอาตมาว่า หมดเวลาแล้ว ศาลสั่งแล้ว ให้ทางวัดขนย้ายข้าวของออกจากพื้นที่ให้หมดภายในสิ้นเดือนนี้ และเมื่อวานนี้ทาง อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม เดินทางมาที่วัดสอบถามอาตมาว่า มีหมายไล่ หมายแปะ หรือหมายบังคับคดีมีหรือไม่ ซึ่งทาง อ.ปรเมศวร์ ก็บอกว่าถ้าเรื่องนี้เขารู้ก่อนหลวงพ่อจะไม่เสียเงินสักบาทเดียว

“เรื่องที่ดินนั้นอาตมาไม่ได้มีความอยากได้แล้ว แต่มีความรู้สึกแปลกมากว่าตัวละครทั้งหมด 5 คน คือ ทนาย เจ้าหน้าที่ออกโฉนด คนปั๊มโฉนด คนนำมาขาย ไม่ผิด แต่คนซื้อกลับมีความผิด ตอนนี้ไม่เป็นไรเพราะอาตมาปลงแล้ว จะให้ย้ายออกก็ย้าย เราถือว่ากฎหมายนี้บางทีก็ไม่ให้ความเป็นธรรม แต่กฎแห่งกรรมเราเชื่อว่ายังศักดิ์สิทธิ์ ประเทศไทยเราก็เป็นแบบนี้” พระพยอมกล่าวทิ้งท้าย.

...