สองหนุ่มพี่น้องร่วมกงสี ร้านขายส่งที่นครปฐม ฆ่ากันเอง หลังพี่ตามด่าน้องไม่เลิก เรื่องที่เล่นกับหลานรุนแรง หยิกจนเขียวช้ำ น้องเลยชัก 11 มม.ยิงพรุน 6 นัดดับคาโกดัง เมียวิ่งมาห้ามโดนลูกหลงเจ็บด้วย
เวลา 11.00 น. วันที่ 4 เม.ย. พ.ต.ท.สามารถ จงประเสริฐ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งมีคนถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดที่ร้านขายของชำ เฮียน้อยพาณิชย์ ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดตั้งเซียฮวด ตั้งอยู่เลขที่ 128 ถ.ทวาราวดี ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม หลังรับแจ้งได้รายงานให้ พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครปฐม ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม กองพิสูจน์หลักฐาน 7 ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายส่งขนาดใหญ่ หน้าร้านเปิดขายสินค้าส่วนด้านหลังเป็นโกดังเก็บสินค้าชั้นเดียว ที่ด้านหน้าร้านพบศพ นายอโนทัย หรือ เอ จั่นเศรณี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/1 หมู่ 7 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม เป็นบุตรชายเจ้าของร้าน และเป็นผู้ดูแลร้านค้า สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงขาสั้นสีฟ้า มีบาดแผลถูกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ยิงเข้าที่อกซ้าย 3 นัด อกขวา 1 นัด แขนซ้าย 1 นัด และแขนขวา 1 นัด รวม 6 นัด
...
ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. 9 ปลอก ตกอยู่ที่พื้นใกล้ศพที่นอนตาย ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และยังทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้อีก 1 คน คือ น.ส.นันทภัค หรือหมวย แก้วดิษฐ์ อายุ 40 ปี ภรรยาของนายอโนทัย ผู้ตาย ถูกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นำตัวส่ง รพ.นครปฐม แพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดช่วยเหลือชีวิต
จากการสอบถามพนักงานภายในร้านค้าทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือนายรุ่งอรุณ หรือลี่ จั่นเศรณี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/257 หมู่ 2 ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม ซึ่งเป็นน้องชายของนายอโนทัย ผู้ตาย ซึ่งทำงานช่วยอยู่ในร้านค้า เป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิง นายอโนทัย พี่ชาย หลังก่อเหตุได้ขี่รถ จยย.ฮอนด้าคลิกสีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป ตำรวจได้วิทยุสกัดจับทั่วเมืองแต่ไร้วี่แวว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ภายในโกดังร้านค้า พบว่าเครื่องบันทึกภาพเสีย ไม่สามารถบันทึกภาพได้ ภายในบ้านยังพบ พ่อ แม่ผู้ตาย ลูกชายผู้ตาย 2 คน อายุ 16 ปีกับ 9 ขวบ และภรรยาของนายรุ่งอรุณ ผู้ต้องหา อยู่ในอาการตกใจ
สอบสวนคนงานทราบว่า ที่ร้านเป็นโกดังเก็บสินค้าโชห่วย และขายสินค้าที่หน้าร้าน เปิดขายมาเป็นสิบปีแล้วโดยปกติในร้าน มี พ่อ แม่ รวมถึงผู้ตายซึ่งเป็นลูกคนโต และภรรยา คอยดูแลร้านและทำบัญชีโดยนำเอาลูกชาย 2 คน มาที่โกดังด้วย โดยมีนายรุ่งอรุณ น้องชาย และภรรยาก็มาช่วยดูแลร้านอยู่ด้วย เป็นกงสีกัน พอตอนค่ำก็ปิดร้านแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนพ่อแม่นอนอยู่ที่โกดัง
ก่อนเกิดเหตุ ในตอนเช้านายอโนทัย ผู้ตาย พร้อมภรรยา และลูก 2 คน ได้มาเปิดร้าน ส่วนนายรุ่งอรุณ ผู้ต้องหา ขี่จยย.มากับภรรยา คอยช่วยเพราะช่วงเช้ามีลูกค้าเยอะ และมักจะมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้งเพราะนายรุ่งอรุณ ผู้ตองหา ชอบไปแหย่และเล่นแรงกับ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ และชอบหยิก จนบางครั้งเขียวช้ำจน ด.ช.เอ ไปฟ้องนายอโนทัย ผู้เป็นพ่อ นายอโนทัยเมื่อลูกมาฟ้องก็จะไปต่อว่าน้องชายทุกครั้ง
ก่อนเกิดเหตุ นายรุ่งอรุณ ถูกพี่ชายด่าเรื่องเล่นกับหลานรุนแรง จนนายรุ่งอรุณ ต้องขี่รถจยย.ออกจากร้านไป สักพักได้เข้ามาที่ร้านใหม่ พอจอดรถ จยย.นายอโนทัยเห็นจึงเดินมาต่อว่าด่าทออีก จนนายอโนทัยต้องเดินหนีไปจัดของที่ชั้นโชว์สินค้า แต่นายอโนทัยก็ยังเดินตามมาด่าอีก นายรุ่งอรุณ เดินหนีไปที่รถ จยย.เพื่อขี่ออกไปสงบสติอารมณ์ แต่ก็ยังถูกเดินตามมาด่าจนมาถึงหน้าร้านด้วยความโมโหจึงหยิบปืนที่เหน็บเอวอยู่ขึ้นมายิงรัวไม่ยั้ง น.ส.นันทภัค ได้ยินเสียงปืนวิ่งออกมาเห็นสามีถูกยิงเลยวิ่งเข้าไปห้ามเลยถูกลูกหลงเข้าที่แขนบาดเจ็บ ก่อนที่นายรุ่งอรุณ มือปืน วิ่งขึ้นไปคร่อมรถจยย.ขี่หนีหายไป ตำรวจจึงบันทึกปากคำไว้
ด้านพล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยว่าได้สั่งให้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์ พ่อ แม่ ภรรยามือปืนที่ก่อเหตุ รวมถึงคนงานในร้านค้า รวมถึงเดินทางไปสอบสวนภรรยาของผู้ตายที่บาดเจ็บที่ รพ.นครปฐม เพื่อสอบหาข้อเท็จจริงของสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งตำรวจสงสัยว่าน่าจะมีเรื่องอื่น เช่นเรื่องมรดกและทรัพย์สินหรือไม่ สำหรับอาวุธปืน จากการสอบถามภรรยาของมือปืนทราบว่าเป็นปืนซื้อมาถูกต้อง ที่ผู้ตายนำมาพกไว้ตลอดตอนมาร้าน เพราะระยะหลังมีเหตุการณ์ปล้นจี้กันในหลายจังหวัดมีข่าวมาตลอด สามีเลยกลัวว่าอาจจะมีคนร้ายเข้ามาจี้ปล้นเลยนำมาเพื่อป้องกันตัว ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับตัวนายรุ่งอรุณ มือปืน มาดำเนินคดีต่อไป