อ.ส.ค.แรงดีไม่มีตก คว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น 5 ปีซ้อน โดยปี 62 คว้ารางวัล "องค์กรดีเด่นด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล" พร้อมประกาศเดินหน้าเสริมเขี้ยวเล็บองค์กรให้มีประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมก้าวสู่องค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรมนมไทย และผู้นำอุตสาหกรรมนมในอาเซียน
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.63 ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาและเสริมสร้างการบริหารจัดการ และวัฒนธรรมการทํางานก้าวสู่องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูงด้วยหลักธรรมาภิบาล โดยมุ่งเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในอาชีพโคนม และอุตสาหกรรมนมไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาความสามารถบุคลากรทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารสายอำนวยการสายกิจการโคนมและสายอุตสาหกรรมนม ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการเลี้ยงโคนมที่ได้คุณภาพมาตรฐาน และจัดการความรู้ให้บุคลากรเพื่อมุ่งสู่องค์กรนวัตกรรม (Knowledge Management) เพื่อผลักดัน อ.ส.ค.ก้าวสู่วิสัยทัศน์ "นมแห่งชาติภายในปี 2564 ด้วยการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ทันสมัย มีความโปร่งใส" และยุทธศาสตร์ อ.ส.ค.ระยะ 20 ปี และการก้าวสู่การเป็น "องค์กรที่เป็นศูนย์กลางการบริหารอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ" และการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลยุคใหม่ ที่เน้นความทันสมัยและความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล ด้วยการพัฒนาระบบทรัพยากรบุคคลให้มีความทันสมัย และมีมาตรฐานและมีขีดสมรรถนะสูงพร้อมเข้าสู่ยุค 4.0 จนทำสามารถคว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประเภท "รางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่นด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล" ประจำปี 2562 จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในงานประกาศรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นหรือ SOE Award ประจำปี 2562 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "พลังรัฐวิสาหกิจไทยสู่มิติใหม่ด้วยดิจิทัล HONOR THROUGH DIGITAL TRANSFORMATION" ในช่วงค่ำวันที่ 23 ธันวาคม 2562 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ที่ผ่านมา
...
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา อ.ส.ค.ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นด้านการบริหารจัดการสารสนเทศ 2 ปีซ้อนมาแล้ว คือ ในปี 2558 และปี 2559 และจากการเดินหน้าพัฒนาองค์กรมาอย่างต่อเนื่องทำให้ปีที่ 2560 ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นด้านพัฒนาองค์กรดีเด่นในภาพรวม และ 2561 รางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่น ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และรางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาดีเด่น ด้านการยกระดับการบริหารจัดการ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 ที่ อ.ส.ค.สามารถคว้ารางวัลอันมีเกียรติดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ
"รางวัลดังกล่าวถือเป็นความภาคภูมิใจของพนักงาน อ.ส.ค.เป็นอย่างมาก และถือเป็นขวัญกำลังใจสำคัญในการที่ อ.ส.ค.จะเดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาองค์กรให้แข่งแกร่งทางด้านธุรกิจ ควบคู่กับการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนม การพัฒนาอุตสาหกรรมนมไทยให้เป็นที่ยอมรับและเป็นอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนคู่สังคมไทย โดยเฉพาะการทำหน้าที่ในการส่งเสริมและสืบสานโคนมอาชีพพระราชปณิธานให้คงอยู่กับคนไทยตลอดกาล" ดร.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าว
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา อ.ส.ค.ได้มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สายกิจการโคนม ผลิตภัณฑ์นม โรงงานเพื่อสร้างแบรนด์และการสื่อสารแบรนด์ให้เข้าในชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสืบสานโคนมอาชีพพระราชทานให้เข้มแข็ง มั่นคง และสามารถสร้างแบรนด์นมไทย-เดนมาร์ค ให้เป็นที่ยอมรับและครองใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการบริหารจัดการองค์กร ให้เป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง (HPO) ด้วยหลักธรรมาภิบาล เพื่อเตรียมในการก้าวสู่ผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมของประเทศ และกำลังก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมนมของอาเซียนในอนาคต อาทิ การปั้นนักส่งเสริมมืออาชีพหรือสมาร์ทออฟฟิศเซอร์ (Smart Officer) ให้มีความเป็นเลิศและสามารถปฏิบัติงานส่งเสริมการเลี้ยงโคนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีศักยภาพในการให้ความรู้ด้านระบบการจัดการฟาร์มสมัยใหม่แก่ผู้เลี้ยงโคนม ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ด้านการบริหารความเสี่ยงที่ดี ต้องให้คนในองค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ ตรวจสอบ ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับองค์กรอยู่เสมอ อีกทั้งร่วมกันวางแผนป้องกันและควบคุมให้เหมาะสมกับภารกิจ เพื่อลดสภาพปัญหาหรือหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ที่อาจสร้างความเสียหายหรือความสูญเสียให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่สุด พร้อมดำเนินการวิจัยและพัฒนานำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งยังมุ่งสร้างความสามารถการแข่งขัน เพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ เช่น ฟาร์มโคนมออร์แกนิก, ศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนม, ศูนย์วิจัย, โรงงานผลิตภัณฑ์นมมาตรฐานสูง, ตลาดจำหน่ายสินค้า เป็นต้น