หมอหนุ่มสำลักควันไฟดับสลด หลังคว้าถังเคมีดับเพลิงขึ้นไปดับไฟไหม้ในห้องเก็บของชั้นบนบ้านพักผู้พิพากษาที่อาศัยอยู่กับภรรยา ทำให้ห้องอับอากาศขาดออกซิเจน ควันไฟหนาแน่นถอยออกมาสูดอากาศแต่เกิดวูบหมดสติเสียก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปถึงช้า เพราะถนนปิดจัดงานกาชาดวันสุดท้ายคนมาเที่ยวงานจำนวนมาก หลังดับเพลิงนำหมอหนุ่มส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ช่วยเหลือแต่ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้

ไฟไหม้บ้านพักผู้พิพากษา หมอหนุ่มสามีเจ้าของบ้านพักคว้าถังดับเพลิงขึ้นไปดับไฟเกิด สำลักควันสังเวยชีวิตอย่างน่าสลดใจรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 3 ธ.ค. พ.ต.ท.ชูเชิด อนันต์สลุง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสระบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านพักผู้พิพากษาศาลสระบุรี เลขที่ 488/6 ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ต.ปากเพรียว ตรงข้ามที่ว่าการ อ.เมืองสระบุรี นำกำลังพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองสระบุรี 10 คัน ไประงับเหตุโดยว่าที่ ร.ต.ศรัณยวัชร พูลสวัสดิ์ นายอำเภอเมือง สระบุรี นายภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ร่วมอำนวยการดับเพลิง

เมื่อไปถึงพบว่ามีการปิดถนนจัดงานกาชาดวันสุดท้าย บริเวณสนามหญ้าอำเภอ จัดงานของดีสระบุรี มีประชาชนมาเที่ยวชมงานจำนวนมาก กว่ารถดับเพลิงและรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเข้าไปถึงที่เกิดเหตุใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง พบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น จุดเกิดเหตุเป็นห้องนอนชั้นบนอยู่ปีกซ้ายด้านหลังของตัวบ้าน มีไฟลุกโชนอยู่ในห้อง กลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจำนวนมาก และพบนางวันทิมา โสมานันท์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านพักดังกล่าว แจ้งว่าไฟไหม้ห้องเก็บของชั้นบน และมีคนติดอยู่ 1 คน

เจ้าหน้าที่รีบเข้าไปในบ้านฉีดน้ำสกัด 20 นาทีเพลิงสงบ แต่ข้าวของในห้องถูกเพลิงเผาผลาญเสียหายเกือบทั้งหมด ส่วนตัวบ้านเสียหายเฉพาะกระจกหน้าต่างกับฝ้าเพดานในห้องต้นเพลิงเท่านั้น และพบร่าง นพ.รุจม์ ไชยชิต อายุ 49 ปี สามีนางวันทิมา เป็นแพทย์ รพ.เกษมราษฏ์สระบุรี นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นห้องติดกัน มีถังดับเพลิงวางอยู่ข้างตัว รีบช่วยเหลือทำซีพีอาร์ก่อนส่งไปต่อ รพ.สระบุรีให้แพทย์ยื้อชีวิต แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา คาดสาเหตุจากสำลักควัน

...

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นพ.รุจน์ ผู้ตาย และนางวันทิมาอยู่ชั้นล่างของบ้าน ได้กลิ่นเหม็นไหม้จากชั้นบนวิ่งขึ้นไปดู เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากห้องเก็บของ นพ.รุจน์บอกให้ภรรยาออกไปรอนอกบ้านแล้วคว้าถังเคมีดับเพลิงขึ้นไปดับไฟในห้องต้นเพลิงแต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ คาดว่าหลังฉีดเคมีดับไฟทำให้ห้องอับอากาศ ออกซิเจนมีไม่เพียงพอ ประกอบกับกลุ่มควันไฟยิ่งหนาแน่นมากขึ้นทำให้หายใจไม่ออก นพ.รุจน์พยายามออกไปสูดอากาศแต่เกิดวูบหมดสติเสียก่อน เป็นเหตุให้สังเวยชีวิตอย่างน่าสลดใจ ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป