ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องกระดาษ ย่าน อ.ลาดหลุมแก้ว เพลิงเผาเสียหายกว่า 300 ล้านบาท ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พนักงาน 200 คน ไม่มีบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ร.ต.อ.ชาญชัย แสงพยับ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายใน บริษัท เอส เอ็ม เปเปอร์ บ๊อกซ์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 33/3 ถนนเลียบคลองชลประทาน (วัดสุทธาวาส) หมู่ 5 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.ลาดหลุมแก้ว และดับเพลิงในเขตพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 40 คัน เข้าช่วยเหลือระงับเหตุ เนื่องจากบริษัทฯ ดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตกล่องกระดาษ จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.ท.จุมพล สังขะเกตุ สวป.ฯ นายสุริยะ ภิรมย์พร้อม นายก อบต.ลาดหลุมแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า เพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในตัวอาคารของโรงงานซึ่งมี 2 อาคาร โดยไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องเร่งระดมกำลังเข้าฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมแรงและเพลิงโหมไหม้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งโรงงานดังกล่าวภายในตัวอาคารและโดยรอบมีเชื้อเพลิงที่ส่วนใหญ่เป็นกระดาษ จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้จนลุกลามไหม้วอดทั้งหมด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ซึ่งขณะเกิดเหตุมีพนักงานทำงานอยู่ร่วม 200 คน จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

...

จากการสอบถาม น.ส.กัลปังหา เฟอร์เรีย ผจก.บริษัทฯ กล่าวว่า บริษัทฯ แห่งนี้สร้างในเนื้อที่ทั้งหมด 36 ไร่ มีนายสามารถ อมรวรสิน เป็นเจ้าของบริษัท และได้มีการสร้างเป็นโรงงานรับผลิตทำกล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์ต่างๆ โดยมีการสร้างเป็นตัวอาคารจำนวน 2 หลัง โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ยังมีพนักงานร่วม 200 คน ทำงานกันตามปกติ และตนก็นั่งทำงานอยู่บนออฟฟิศชั้นลอยของอาคาร


จากนั้นจู่ๆ ก็มีพนักงานตะโกนร้องว่าไฟไหม้ๆ ตนจึงชะโงกไปดูก็พบว่าที่บริเวณหลังโกดังอาคาร 2 เก็บลังกระดาษ จึงให้พนักงานพยายามช่วยกันนำถังดับเพลิงมาฉีดเพื่อดับไฟ แต่ก็ไม่สามารถดับไฟได้ เนื่องจากช่วงนั้นมีลมกระโชกแรง จึงต้องให้พนักงานทุกคนวิ่งหนีออกมาจากภายในตัวอาคารทั้งสองหลัง ก่อนจะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นพบว่าทรัพย์สินภายใน ทั้งกระดาษและเครื่องจักรกลจำนวนหลายสิบตัวเสียหายทั้งหมด คาดว่าค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท


ด้านนายแรม เพิ้งจันทร์ อายุ 66 ปี ชาว จ.สุโขทัย ที่ขับรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-1706 สุโขทัย ที่ขับรถฝ่าเปลวเพลิงหนีรอดออกมาได้หวุดหวิด แต่รถก็ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายฝั่งคนขับ กล่าวว่า ขณะที่ตนจอดรถเพื่อรอขึ้นกล่องกระดาษอยู่บริเวณด้านข้างอาคาร ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จากนั้นก็มีเสียงคนตะโกนว่าไฟไหม้ ตนจึงได้ตัดสินใจรีบขับรถฝ่าออกมา แต่ก็ถูกไฟโหมเข้ามาที่รถจนไฟไหม้ด้านข้างฝั่งคนขับเสียหาย รวมทั้งเบาะคนขับก็ถูกไฟไหม้ แต่ตนไม่มีบาดแผลหรือถูกไฟไหม้แต่อย่างใด

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนทราบว่า บริษัทดังกล่าวได้ทำประกันภัยไว้กับ บริษัท ประกันวินาศภัย กรุงเทพประกันภัย และ บริษัท สหนิรภัย อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อมาตรวจสอบ และจะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น เพื่อหาต้นเพลิงที่เกิดเหตุดังกล่าว.