ชาวสุพรรณบุรีกว่าครึ่งร้อย แห่แจ้งความถูก สาววัย 25 ปี เปิดเพจตั้งวงแชร์ "แม่พิมพ์พารวย" ชวนร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ อ้างว่าได้ผลตอบแทน 60% ก่อนเชิดหนี เสียหาย 2-3 ร้อยล้าน

เวลา 09.00 น. วันที่ 4 พ.ย. ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจากการโดนโกงแชร์ลักษณะเดียวกับวงแชร์ "แม่มณี" ที่กำลังโด่งดัง ประมาณ 60 ราย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล หรือเจ๊มิ้ง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 8 ต.วัดโบสถ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี โดยใช้ชื่อวงแชร์ในเฟซบุ๊กว่า "น้องพิมพ์พารวย" ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยหลอกให้ร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ อ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 60

ผู้เสียหายทั้งหมดได้นำสำเนาเอกสารการโอนเงิน สำเนาเอกสารการแชตคุยในไลน์และเฟซบุ๊กระหว่างผู้เสียหายกับ น.ส.วิจิตรา มาเป็นหลักฐาน โดย ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้เปิดห้องประชุม สปก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมนำแบบฟอร์มการแจ้งความเสียหายและความเป็นมาของพฤติการณ์ ให้ผู้เสียหายทั้งหมดกรอกข้อมูล แล้วจัดพนักงานสอบสวนจำนวน 4 ชุดสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด โดยระหว่างการสอบปากคำก็ได้มีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

...

พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เผยว่า ที่กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันมาแจ้งความ เนื่องจากมีการฉ้อโกงประชาชนในลักษณะหลอกลวงลงทุน ให้เล่นแชร์และมีผลตอบแทนได้อัตราดอกเบี้ยสูงประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีประชาชนผู้เสียหายจำนวนมาก บางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้ สุดท้ายผู้ต้องหาคือ น.ส.วิจิตรา ได้หลบหนีไป กลุ่มผู้เสียหายจึงมีความประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ต้องหาคือ น.ส.วิจิตรา ซึ่งเป็นเท้าแชร์ ภายในวันนี้

"หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานและสอบผู้เสียหายเสร็จ จะขออนุมัติออกหมายจับทันที ส่วนจะเกี่ยวหรือเชื่อมโยงกับแชร์แม่มณีหรือไม่ ล่าสุดเท่าที่สอบปากคำยังไม่มีผู้เสียหายให้การพาดพิงถึงแม่มณี ก็ต้องมีการสืบสวนต่อไป"

ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวต่อว่า กรณีวงแชร์ของ น.ส.วิจิตรา หรือน้องพิมพ์พารวย ส่วนใหญ่ผู้เสียหายเป็นคนที่รู้จักสนิทสนมกับ น.ส.วิจิตรา การดำเนินการของ น.ส.วิจิตรามีวิธีการที่คล้ายกันกับแม่มณี ส่วนเงินที่นำไปลงทุนมีผู้เสียหายตั้งแต่หลักหมื่น หลักแสน ไปจนถึงหลักหลายล้าน ทางพนักงานสอบสวนต้องมีการรวบรวมทั้งหมดอีกครั้ง เพราะทราบว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากนับร้อยราย ทยอยมาแจ้งความอยู่เรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จ ตำรวจจะขออนุมัติหมายจับ และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้ พอทราบเบาะแสและเกาะติดอยู่ จึงฝากเตือนประชาชนทั่วไป อย่าได้หลงเชื่อกลโกงลักษณะแบบนี้ อะไรที่ลงร้อยได้เก้า หรือได้ต่ำกว่าร้อยนิดหน่อยนั้นเป็นไปไม่ได้ ให้พึงระลึกว่าอย่าโลภ ครั้งนี้ให้ถือว่าเป็นบทเรียน

ด้านนายสุริยา พันธ์แตง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 218 หมู่ 6 ต.ดอนกำยาน อ.เมือง จ. สุพรรณบุรี หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองโดนฉ้อโกงในการลงทุนครั้งนี้ประมาณ 6 ล้านบาท โดยตนเป็นตัวแทนของ น.ส.วิจิตรา ด้วย สูญเงินส่วนตัวไปประมาณ 7 แสนบาท ที่เหลือเป็นเงินของคนที่มาฝากอีกที ยอดทั้งหมดยังไม่ได้ทำการชนสลิป แต่ก็มีเงินสดที่ตนนำไปฝากส่วนตัวกับ น.ส.วิจิตรา อยู่ประมาณ 2 ล้านบาท เงินจำนวนนี้ไม่มีสลิป ไม่มีหลักฐานอะไร แต่เงินส่วนที่เหลือประมาณ 4 ล้านบาท มีหลักฐานทั้งหมด

นายสุริยา กล่าวอีกว่า วิธีการ คือ จะเริ่มเปิดเป็นบ้านแชร์ในเฟซบุ๊ก ชื่อบ้าน แชร์น้องพิมพ์พารวย ส่วนตัวนั้นสนิทกับ น.ส.วิจิตรา มานานแล้วก่อนที่จะมาทำบ้านแชร์ ก็เลยมีการปรึกษาว่าอยากเป็นเท้าแชร์บ้าง แลได้เปิดบ้านแชร์ในส่วนของตัวเอง ไม่เกี่ยวกับการออมเงิน แต่ตอนหลัง น.ส.วิจิตรา ได้เชิญชวนให้ไปออมเงินด้วยกัน

ต่อมา พอมีคนฝากออมมากขึ้น น.ส.วิจิตรา เลยแนะนำว่าให้มีตัวแทน โดยอ้างว่าอยากให้ตัวแทนมีรายได้ด้วย ตอนนั้นไม่รู้ว่า น.ส.วิจิตรา คิดอะไรอยู่ แต่ด้วยความที่ตนอยากได้เงินก็เลยเปิดรับออมขึ้นมา น.ส.วิจิตราเลยตั้งกลุ่มตัวแทนแยกไป และให้ในส่วนที่เป็นเปอร์เซ็นต์แก่ตน พร้อมกำหนดยอดตัวแทน เช่น วันละสองแสน

กระทั่งวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.วิจิตรา บอกว่าให้อัดยอดได้ 4 แสนบาท โดย น.ส.วิจิตรา อ้างว่าจะนำเงินไปปั่นดอกให้ เรียกง่ายๆ ว่าจะให้ดอกเพิ่ม ตนจึงอัดเงินไปอีก 4 แสน ภายในวันเดียวหลังจากนั้นไม่เกิน 2 ชั่วโมง เลขาที่ทำบัญชีของ น.ส.วิจิตรา แจ้งว่าแชร์บ้านนี้ล้มแล้ว ตนจึงรีบไปที่บ้านร้านโทรศัพท์ของ น.ส.วิจิตรา ที่หน้าโรงเรียนหรรษาสุจิตต์วิทยา 1 ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี แต่ไม่เจอตัวแล้ว ส่วนค่าเสียหายทั้งหมด คาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท เนื่องจากทราบว่ามีผู้เสียหายประมาณ 400 ราย ที่จะทอยเดินทางมาแจ้งความ