ผอ.สำนักงานชลประทานที่12 เผย พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง วอนขอความร่วมมือเกษตรกรที่กำลังจะทำการปลูกข้าวต่อเนื่อง ให้งดออกไปก่อน เพื่อสงวนน้ำไว้ใช้ในยามจำเป็น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ส.ค. 2562 นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า ขณะนี้ สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะเขื่อนเจ้าพระยาที่ได้รับน้ำจากเขื่อนใหญ่ทั้ง เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีการระบายน้ำลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขื่อนภูมิพล มีการระบายน้ำอยู่ที่ 7 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เขื่อนสิริกิติ์ มีการระบายน้ำอยู่ที่ 4 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีการระบายน้ำอยู่ที่ 1 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

ขณะนี้ ต้องยอมรับว่า สถานการณ์น้ำในปัจจุบันเปลี่ยนไป ต้องมีการใช้น้ำอย่างประหยัด และปัจจัยอีกหนึ่งอย่างที่มองเห็นก็คือพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่12 ได้มีการเพาะปลูกข้าวไปแล้ว กว่า 2 ล้านไร่เศษ ซึ่งเข้าเป็นเดือนที่ 4 แล้ว ใกล้ที่จะทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วการใช้น้ำก็จะลดลงในด้านของภาคเกษตร แต่ในส่วนของภาคของการอุปโภค-บริโภค หรือภาคของการรักษาระบบนิเวศ และด้านการประปาก็ยังคงอยู่ต้องไม่ให้ขาดแคลน

...

ส่วนของแม่น้ำเจ้าพระยาเอง เนื่องจากได้รับอิทธิพลมีฝนตกชุกในภาคเหนือ โดยเฉพาะลุ่มน้ำยม จะสังเกตเห็นว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มมีปริมาณสูงขึ้น ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีระดับน้ำอยู่ที่ 14.01 เมตร รทก. ปัจจุบันมีน้ำอยู่ที่ 15 เมตร รทก. โดยระดับน้ำดังกล่าวจะคงอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ลดระดับลง หากไม่มีฝนตกลงมาอีก สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้น้ำได้รับทราบ และได้เน้นย้ำเรื่องของการทำนาต่อเนื่องนั้น ขอให้เกษตรกรงดการทำนาออกไปก่อน เพื่อเป็นการสงวนน้ำไว้ใช้เรื่องของการอุปโภค-บริโภค การรักษาระบบนิเวศ เป็นสำคัญไว้ก่อน

ส่วนเรื่องสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาในเมื่อฝนไม่ตกติดต่อกันมานานเป็นเดือน และค่าฝนเฉลี่ยประมาณ 30% ของบางพื้นที่ สิ่งที่เห็นอยู่คือระดับน้ำค่อนข้างจะต่ำ บางจุดไม่สามารถจะส่งน้ำได้ตามธรรมชาติ ทางกรมชลประทานก็ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเป็นการช่วยเหลือ ซึ่งทางสำนักงานชลประทานที่ 12 ได้มีการกระจายเครื่องสูบน้ำ จำนวน 100 เครื่อง ไปตามโครงการชลประทานทั้ง 17 แห่ง ที่รับผิดชอบ เพื่อสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือคลองต่างๆ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงนี้
และสุดท้ายอยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนผู้ใช้น้ำให้ทราบว่าพื้นที่ใด ใกล้ที่จะทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ก็ขอให้สงวนน้ำเอาไว้ แบ่งให้เกษตรกรที่ข้าวตั้งท้อง และขอให้งดทำนาต่อเนื่องโดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันการเสียหายต่อผลผลิตที่อาจจะเกิดขึ้น.