หากจะกล่าวถึงการทำเกษตรอินทรีย์ที่ได้คุณภาพและมีมาตรฐานนั้นเกษตรกรต้องปรับเปลี่ยนการทำเกษตรเคมี และหันมาทำเกษตรอินทรีย์อย่างเต็มรูปแบบ
โดยพื้นที่ของนายสุพร ไทยสนธิ หมอดินอาสาประจำหมู่บ้านหนองครก ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นับเป็นอีกพื้นที่แห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับการยอมรับแล้วว่าสามารถทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถานีพัฒนาที่ดินราชบุรี และเกษตรกรรายอื่นสามารถเข้ามาเรียนรู้วิธีการทำเกษตรอินทรีย์อย่างครบวงจร ตลอดจนการพัฒนาการปรับปรุงบำรุงดินให้เหมาะสมพร้อมใช้งานสำหรับการเพาะปลูกพืช รวมถึงวิธีการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ เชื้อจุลินทรีย์สารเร่งพด.ต่างๆ ของกรมพัฒนาที่ดิน จากวัสดุเหลือใช้ในการเกษตร
นายสุพร กล่าวว่า ตนมีพื้นที่ทำการเกษตรอยู่ 8 ไร่ เมื่อก่อนทำการเกษตรและใช้สารเคมี รวมถึงเลี้ยงวัว ตนทำการเกษตรเคมีจนร่างกายเริ่มย่ำแย่ มีสารพิษตกค้างในร่างกาย จึงได้หันมาปรับเปลี่ยนการทำเกษตรอินทรีย์ โดยเริ่มต้นจากการเข้าไปเป็นหมอดินของกรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินราชบุรี และนำความรู้ที่ได้จากการเป็นหมอดินอาสามาปรับทำเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ของตนเองก่อน เริ่มทำเกษตรอินทรีย์มาเมื่อปี 2558 เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี โดยทางสถานีพัฒนาที่ดินราชบุรี ได้มาขุดบ่อจิ๋วให้ เพื่อให้มีน้ำไว้ใช้ในการเกษตร สนับสนุนในเรื่องของการทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมักชีวภาพ ซุปเปอร์ พด.ต่างของกรมพัฒนาที่ดิน ส่งเสริมปูนโดโลไมท์ ส่งเสริมการใช้พืชปุ๋ยสดในการปรับปรุงบำรุงดิน คอยเป็นพี่เลี้ยงพาเกษตรกรในพื้นที่อบรมการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งหลังจากได้ปรับเปลี่ยนมาทำการเกษตรอินทรีย์แล้วนั้น ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังลดต้นทุนการผลิต ทำให้สามารถขายผลผลิตทางการเกษตร และนำผลผลิตที่ได้ไปขายยังตลาดศรีเมือง ซึ่งเป็นตลาดกลางสินค้าเกษตรของจังหวัดราชบุรี สร้างรายได้ รายวัน งรายเดือน และรายปีได้เป็นอย่างดี
...
ด้าน นางสาวดามร หนูรักษ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สถานีพัฒนาที่ดินราชบุรี กล่าวว่า สถานีพัฒนาที่ดินราชบุรี ได้ลงพื้นที่อบรมและส่งเสริมหมอดินอาสา ซึ่งหมอดินอาสาก็จะสามารถลงพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังได้จัดตั้งกลุ่มธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ให้แก่เกษตรกร ซึ่งในขณะนี้เกษตรกรให้ความสนใจเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์เป็นอย่างมาก และขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกในการทำธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อร่วมด้วยช่วยกันภายในกลุ่ม ทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ และสารไล่แมลง และเมื่อเกษตรกรใช้ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ในพื้นที่ทำการเกษตรเป็นจำนวนครั้งที่มากยิ่งขึ้นก็จะทำให้ดินดีขึ้น สามารถปลูกพืชผลทางการเกษตรได้อย่างหลากหลาย
"สำหรับพื้นที่ของนายสุพร หมอดินอาสาประจำหมู่บ้านหนองครก จะไม่ประสบความสำเร็จเลย หากขาดการส่งเสริมและสนับสนุนจากสถานีพัฒนาที่ดินราชบุรี ที่ได้เข้ามาให้ความรู้ ฝึกอบรมการปรับปรุงบำรุงดินในรูปแบบต่างๆ หรือการเข้ามาสอนวิธีการทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมักชีวภาพ และที่สำคัญยังได้แนะนำการปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ให้สามารถปลูกพืชผักที่ปลอดภัย ได้คุณภาพ ขายออกสู่ท้องตลาดได้ราคาที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมขยายผลการทำเกษตรอินทรีย์ ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตได้อย่างมีคุณภาพ ส่งผลให้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง".