ปราชญ์ชาวบ้านเล่าเรื่อง “ทองบางสะพาน” ทองนพคุณที่นอกจากมีมูลค่าราคาสูงแล้ว ยังมีความเชื่อความศรัทธาที่ผู้ครอบครองทองคำนี้เชื่อเป็นการส่วนบุคคล แม้มีเงิน แต่ไม่มีบารมีก็ใช่ว่าจะได้ครอบครอง

นายกฤษดา หมวดน้อย ปราชญ์ชาวบ้านวัย 65 ปี ผู้ที่ศึกษา ค้นคว้า ติดตาม เรื่องทองบางสะพานมาทั้งชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์เกี่ยวกับขุมทองที่บางสะพาน ที่ยังมีขุดพบอย่างต่อเนื่องว่า เนื่องจากสภาพโดยทั่วไปของตำบลร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น ในอดีตเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยทองคำ จึงเป็นที่ใฝ่ฝันของบรรดานักเสี่ยงโชคทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง และในปัจจุบันทองคำในพื้นที่ยังคงมีหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะภายหลังน้ำท่วมในพื้นที่ น้ำจะชะล้างตะกอนดินขึ้นมา จึงถือเป็นช่วงเวลาพิเศษที่คนมักจะแบกพลั่วออกร่อนทอง

ผู้ประกอบอาชีพร่อนทองส่วนใหญ่ จะใช้วิธีขุดค้นหาแร่ทองคำตามวิธีที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน 

นายกฤษดาเล่าว่า ตนเองก็มักเป็นคนแรกๆ ที่มีโอกาสสัมผัสทองเม็ดใหญ่ที่พบที่บางสะพานเกือบทุกเม็ด แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ อาจเป็นเพราะเชื่อว่าไม่มีบารมีพอที่จะครอบครองทองเม็ดใหญ่ ถ้าจะให้พูดถีงความพิเศษหรือความวิเศษของทองบางสะพานนั้น ยากจะหาคำบรรยายใดๆ มาเปรียบเปรยได้ แต่สรุปเรื่องความเชื่อของแต่ละบุคคลได้ว่า

...

ประการแรก คุณสมบัติเฉพาะตัวของทองบางสะพานเป็นทองนพคุณ ที่มีเนื้อดี เหลืองอร่าม สุกปลั่ง ยิ่งใช้ยิ่งสุก เป็นทองที่ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการถลุงแร่เหมือนแหล่งอื่นๆ ในประเทศ อีกประการหนึ่ง คือ หากผู้ใดมีไว้ในครอบครองเชื่อว่าจะช่วยเสริมบารมี ปกป้องคุ้มครอง ทำให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง โดยหลายคนมีความเชื่อในเรื่องของพุทธคุณในตัวเอง ดุจดังพระเครื่อง เชื่อว่าหากเก็บไว้บนหิ้งพระก็จะช่วยปกป้องทรัพย์สินและคนในครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุข ถ้าเป็นเครื่องประดับติดตัวก็จะทำให้บุคคลที่เป็นเจ้าของมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง รู้สึกอุ่นใจปลอดภัยยามเดินทาง นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมมอบให้กับบุคคลอันเป็นที่รัก

ทองบางสะพานที่พบ มีลักษณะทั้งเป็น ผง เม็ด เกล็ด และก้อน ขึ้นอยู่กับประติมากรรมของธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่มีเงินแล้วจะหาซื้อได้จากท้องตลาด แต่ต้องหาซื้อจากแหล่งร่อนทองในพื้นที่เท่านั้น เหตุผลที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถซื้อขายทองก้อนใหญ่ ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นในเรื่องของบุญบารมีของผู้ที่จะได้ครอบครอง จังหวะและราคา เป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยไม่ได้อ้างอิงจากราคาทองตามท้องตลาด ขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งทองบางสะพานที่เป็นลักษณะทองก้อนในปัจจุบันนี้ล้วนตกไปอยู่ในครอบครองของคหบดีผู้มีชื่อเสียงต่างๆ ทั่วประเทศ แต่เจ้าของเหล่านี้มักไม่เปิดเผยตัวตน แต่เป็นที่รู้กันในผู้ที่เป็นนักสะสมทองบางสะพานว่าไปอยู่กับผู้ใดและเป็นมรดกตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

“นอกจากการมองทองบางสะพานในมุมของความเป็นวัตถุที่มีค่า มีราคา อยากให้มองย้อนกลับไปถึงวิถีการดำรงชีวิตของชาวร่อนทอง วัฒนธรรมในการร่อนทองที่เป็นอัตลักษณ์และเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าของชาว ต.ร่อนทอง ให้เป็นสมบัติของชาติสืบไป ซึ่งเชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ มีค่ายิ่งเหนือสิ่งอื่นใด” นายกฤษดา กล่าว

แหล่งแร่ทองคำที่มีชื่อเสียง นอกจากที่อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์  แล้วยังมีที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส