พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกพยาบาลสอบปม “กางเกงใน” น้องหญิงหาย ทั้งที่ ตอนแรกพยาบาลอ้างส่งมอบให้ญาติไปแล้ว แต่ญาติยืนยันมีแต่กางเกงธรรมดากับเสื้อไม่มีกางเกงใน แต่พอทนายไปถามกลับรับสารภาพสั่งให้แม่บ้านของโรงพยาบาลนำไปเผาทิ้งแล้ว ญาติสงสัยทำไมต้องเผาทำลายทั้งที่ เป็นหลักฐานสำคัญของคดี
กรณีการเสียชีวิตมีเงื่อนงำของ น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือน้องหญิง อายุ 19 ปี พนักงานบัญชีร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งมีการจับกุมนายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ อายุ 23 ปี คนขับรถเทรเลอร์ ในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ภายหลังได้แจ้งเพิ่มในข้อหาฆ่าคนตายแต่นายสุรพลปฏิเสธอ้างว่าน้องหญิงกระโดดลงจากรถเอง ส่วน น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ หรือเป็ด อายุ 18 ปี คนชวนน้องหญิงไปเที่ยว ถูกแจ้งข้อหาสนับสนุนหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ต่อมาวันที่ 4 ส.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า สำหรับเรื่องกางเกงในน้องหญิง ซึ่งพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้ยอมรับกับตนว่าได้นำกางเกงในน้องหญิงไปเผาแล้ว โดยเขายอมรับว่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ได้โกหกว่าได้มอบกางเกงในให้กับญาติของน้องหญิงไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมพยาบาล ต้องโกหกว่าคืนกางเกงในให้ญาติน้องหญิงไปแล้ว แต่เรื่องจริงกลับนำไปให้แม่บ้านนำไปเผาทำลายแล้ว ตนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
ขณะที่ น.ส.ภานิษา ยาวิราช อาของน้องหญิง กล่าวว่า เรื่องนี้สงสัยมากว่าทำไมต้องเอากางเกงในไปเผา ตอนแรกญาติได้แต่กางเกง ไม่มีกางเกงในซึ่งพยาบาลบอกว่าให้มาพร้อมกับกางเกงแต่ที่จริงแล้วไม่มี “สงสัยว่าทำไมพยาบาลต้องโกหกทั้งๆที่เป็นของคนไข้ที่จะต้องเก็บเอาไว้ให้ญาติ หากเขาไม่ได้ตั้งใจอาจเอาไปทิ้งเฉยๆ แต่นี่เอาไปเผาด้วย ทำไมต้องเผา ไม่รู้เจตนา” น.ส.ภานิษากล่าว
...
ด้านพนักงานสอบสวนชุดใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมาแทนทีมพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่โดนคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ ศปภ.1 กำลังเตรียมเอกสารหลักฐานในการเรียกตัวพยาบาลสาวของ รพ.แห่งแรกที่นายอ๊อฟขับรถเทรเลอร์พาน้องหญิงไปส่งเพื่อรักษาตัว เนื่องจากได้ข้อมูลแล้วว่ากางเกงในของผู้ตายที่หายไปนั้น เป็นฝีมือของพยาบาลที่ถอดออกตอนเข้ารับการรักษาแต่ภายหลังได้หายไป
รายงานจากโรงพยาบาลดังกล่าวระบุว่า วันแรกพยาบาลได้รับข้อมูลจากนายอ๊อฟว่าน้องหญิงประสบอุบัติเหตุตกลงมาจากรถเทรเลอร์ พยาบาลไม่ได้สงสัยอะไร ก่อนจะถอดเสื้อผ้าทั้งข้างนอกและข้างในออกเพื่อให้แพทย์รักษาได้สะดวก กระทั่งรักษาผ่านไปประมาณ 2 ชม. จึงส่งต่อไปที่ รพ.ปทุมธานี ซึ่งเสื้อผ้าอย่างอื่นถูกนำส่งให้ญาติน้องหญิงหมดเหลือแต่กางเกงในเท่านั้นที่ไม่ได้คืน โดยหารู้ไม่ว่ากางเกงใน ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญในคดีการตายปริศนาของน้องหญิงทำให้พนักงานสอบสวนจำเป็นต้องเรียกตัวมาสอบปากคำต่อไป