ผู้ป่วยมะเร็งไม่สนผลวิจัยยาหมอแสงยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ได้ ยังทยอยเดินทางมาลงประจำวันที่โรงพักขอรับยาสมุนไพรเชื่อกินยาแล้วดีขึ้น อยากให้มีการจ่ายยาต่อไป ผกก.เผยหลังมีการแจกยาต้นเดือนหน้า จะไม่รับลงประจำวันขอรับยาสมุนไพร แนะนำติดตามข้อมูลเฟซบุ๊ก “คนรักหมอแสง” หรือ “สภ.เมืองปราจีนบุรี” เผยหลังมีการแถลงผลวิจัยเรื่องยาหมอแสง ยังมีคนมาลงประจำวันอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม
ยังหาบทสรุปไม่ได้ว่าหมอแสง หรือนายแสงชัย แหเลิศตระกูล จะแจกยาสมุนไพรรักษามะเร็งหรือไม่ หลังหมอแสงบอกว่า อาจแจกยาต้นเดือนหน้าเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่พอใจ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ แถลงภายหลังมีการประชุมร่วมกับ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่ายาสมุนไพรดังกล่าวไม่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ มีผลเพียงบำรุงร่างกายเท่านั้น ขณะที่ผู้ป่วยยังเดินทางมาลงประจำวันขอรับยาที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี อย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่ากินยาแล้วอาการป่วยลดลง สภาพร่างกายดีขึ้น
ความคืบหน้าเรื่องการจ่ายยาหมอแสงเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ยังมีผู้ป่วยและญาติๆ ทยอยเดินทางมาลงประจำวันเพื่อขอรับยาหมอแสงในวันที่ 5 พ.ค.อย่างต่อเนื่อง ต่างยังคงเชื่อว่าสมุนไพรหมอแสงกินแล้วดีขึ้น อยากให้หมอแสงแจกยาต่อ โดยนายสยาม สวรรค์ อายุ 69 ปี ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก กล่าวว่า ตนรับการตรวจจากโรงพยาบาลพบว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ทางแพทย์นัดผ่าตัดแต่ตนปฏิเสธ หันมารับสมุนไพรจากหมอแสงนานกว่า 1 ปี ทำให้สุขภาพดีขึ้นและแข็งแรง ล่าสุดตรวจที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามะเร็งไม่แพร่กระจาย ต้องการให้หมอแสงแจกสมุนไพรต่อไป
...
เช่นเดียวกับนางนภาพรรณ เชียรพิบูลย์ อายุ 70 ปี อดีตพยาบาล กล่าวว่า เป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมด้านซ้ายมา 3 ปี ไปทำคีโมมา 1 ครั้ง ร่างกายรับไม่ได้ หันมารับยาสมุนไพรจากหมอแสง กินได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ร่างกายดีขึ้นมาก ส่วนที่มีข่าวหมอแสงจะไม่จ่ายยาอีก ตนก็ขอให้ทำต่อเพราะคนเป็นมะเร็งยังต้องการ
จากการตรวจสอบยอดผู้ป่วยที่มาลงบันทึกประจำวัน ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.-24 เม.ย. มีผู้ป่วยเก่า มาลงบันทึกประจำวัน 16,700 ราย ผู้ป่วยใหม่ 956 ราย รวมทั้งสิ้น 17,656 ราย ขณะนี้ยังคงมีผู้ป่วยเดินทางมาลงบันทึกประจำวันกันตลอดทั้งวัน โดยไม่สนใจผลการวิจัยแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์ ผกก สภ.เมือง ปราจีนบุรี กล่าวว่า เรื่องการรับลงประจำวันขอรับ สมุนไพรจากหมอแสง คงต้องรอความชัดเจนจากหมอแสงว่าจะมีแนวทางในการที่จะแบ่งปันให้กับผู้ป่วยหรือญาติที่มีความประสงค์มาขอรับสมุนไพรของท่านอย่างไร ในรอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมาเราเปิดให้ผู้ป่วยหรือญาติหลังจากที่รับสมุนไพรเรียบร้อยแล้วกลับมาลงประจำวันได้เลย แต่เดือนนี้หลังจากรับสมุนไพรวันที่ 5 พ.ค. ต่อเนื่องวันที่ 6 พ.ค. ทางโรงพักจะยังไม่เปิดให้ลงประจำวันขอรับสมุนไพร ขอให้ผู้ต้องการขอรับยาติดตามข่าวสารทางเฟซบุ๊ก “คนรักหมอแสง” หรือเฟซบุ๊กของ สภ.เมืองปราจีนบุรี
ต่อข้อถามถึงจำนวนคนมาขอรับยาสมุนไพรหลังมีการแถลงถึงผลวิจัยยาหมอแสงไม่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ว่ามีเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี กล่าวว่า โดยเฉลี่ยจะมีประชาชนมาลงประจำวันเพื่อขอรับยาสมุนไพรวันละ 200-300 คน หลังจากที่มีการแถลงข่าวมีผู้มาลงประจำวันอย่างต่อเนื่องไม่แตกต่างกัน เมื่อวานทั้งคนเก่าและคนใหม่อยู่ที่ประมาณ 280 คน เช้านี้ก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเวลา 15.30 น. ผู้แทนศูนย์วุฒิอาสา ธนาคารสมอง จ.นนทบุรี นำโดย น.ส.รัตนลักษณ์ มนัสวานิช กรรมการศูนย์ฯ และนายวิจิตร สุวรรณมาตร์ ประธานคณะอนุกรรมการด้านคมนาคมและขนส่ง ศูนย์ฯ และผู้แทนประมาณ 10 คน เดินทางมายังกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อร้องขอความรับผิดชอบภายหลังมีการประกาศผลตรวจสอบสมุนไพรของหมอแสงไม่สามารถยับยั้งมะเร็ง โดยนายวิจิตรกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวส่งผลต่อจิตใจผู้ป่วยมาก เหมือนหมดความหวังในการรับสมุนไพรตัวนี้เลย
นายวิจิตรกล่าวต่อว่า ตนป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก รักษาด้วยสมุนไพรหมอแสง ช่วยลดการทรมานมาก มีความสุขกับการได้รับยา ถามว่าไปรักษาหมอแผนปัจจุบันก็ไม่หายเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ป่วยระยะสุดท้ายแล้ว ตนอยากให้ สธ.เปิดเผยผลการตรวจให้ชัดเจน ไม่ใช่ออกมาพูดแบบนี้ ควรมีพยานออกมาพูด มีหลักฐาน มีผลออกมาชัดเจนมากกว่านี้ ที่สำคัญตรงนี้เป็นแพทย์แผนไทย เป็นภูมิปัญญาของไทย ทำไมถึงไม่สนับสนุน แบบนี้ เหมือนไปทำลายภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้านของเรา
นพ.วินัย วิริยกิจจา อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานกรรมการศูนย์วุฒิอาสาธนาคารสมอง กล่าวว่า เรื่องแพทย์แผนไทย สมุนไพรต่างๆ ถือเป็นความหวัง และหลายอย่างเป็นภูมิปัญญาที่ช่วยคนไทยมานาน การพิจารณาขึ้นทะเบียนต่างๆ ควรแยกออกจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เนื่องจากดูแต่แพทย์แผนปัจจุบัน ไม่ได้ดูเรื่องนี้ เรื่องนี้ควรให้คณะกรรมการเฉพาะดูแล
นางเกื้อกูล ปิยะจอมขวัญ รองผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มเฟซบุ๊ก “หมอแสง ปราจีนบุรี” โพสต์ใบรับรองใบหนึ่ง ระบุข้อความว่า “มีใบรับรองผลการวิจัยจากไบโอเทคชัดเจนว่าเห็ดกระถินพิมานที่เป็นส่วนผสมของยาหมอแสงสามารถฆ่าเชื้อมะเร็งได้ผลชัดเจน..” ว่า เอกสารดังกล่าว ไม่ใช่ใบรับรอง เป็นเพียงรายงานผลการทดสอบเท่านั้น ทั้งนี้ไบโอเทค สวทช. ไม่ได้มีงานวิจัยเรื่องเห็ดกระถินพิมาน ร่วมกับคฐาฟาร์ม แต่เป็นการให้บริการวิเคราะห์ ทดสอบเท่านั้น ผลการทดสอบดังกล่าวเป็นแค่การตรวจสอบเบื้องต้นในหลอดทดลอง ที่แสดงว่า สารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ยับยั้งทั้งเซลล์มะเร็ง และเซลล์ที่ไม่ใช่เซลล์มะเร็ง แต่ข้อมูลที่ได้ยังไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าสารสกัดดังกล่าวสามารถใช้เป็นยาได้
...
ที่สำนักงานศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร หมอสมุนไพรชื่อดัง ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เดินทางพร้อมทนายความ เข้ายื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลปกครอง ภายหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับศาลปกครองกลางให้รับคำฟ้อง คดีที่นายชัยรัตน์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กระทรวงสาธารณสุขกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีทำการตรวจรักษาผู้ป่วยเอดส์ โดยให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 5,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่ที่ศาลนัดฟ้อง