‘แม่น้องบีม’ ร่ำไห้ฝากถามทนายความโกงเงิน 5 ล้านบาท ‘มาหลอกกันทำไม’ พร้อมเซ็นคำร้องแต่งตั้งทนายความอาสา ฟ้องแพ่งและอาญา และดำเนินการมรรยาททนายความ
วันที่ 4 ก.ค. นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ แม่ของ เด็กหญิง ภัทรดา แก้วผ่อง หรือน้องบีม เด็กหญิงพิการ ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถพ่วง 18 ล้อ ในพื้นที่ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2548 เป็นเหตุให้พ่อน้องบีมเสียชีวิต นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ แม่ บาดเจ็บสาหัส ส่วนน้องบีมต้องถูกตัดขากลายเป็นคนพิการตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ซึ่งทางบริษัทเจ้าของรถพ่วงคู่กรณีได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ 5 ล้านบาท แต่ถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความที่รับว่าความฉ้อโกงเงิน เดินทางเข้าพบนายถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ เพื่อเซ็นใบแต่งตั้งทนายความและใบคำร้องลงโทษทางมรรยาททนายความ
...
นายถวัลย์ นายกสภาทนายความ ระบุว่า ทางสภาทนายความได้ร่วมกับเนติบัณฑิตยสภาและกระทรวงยุติธรรม แต่งตั้งทนายความเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา จึงต้องเชิญผู้เสียหายมา เพื่อเซ็นใบแต่งตั้งทนายความในวันนี้ เนื่องจากตามระเบียบผู้ร้องจะต้องเป็นผู้มายื่นเอกสารเอง ส่วนคดีแพ่งขณะนี้สามารถดำเนินการได้ทันที และฝากถึงนายพิสิษฐ์ ให้มาพบเจ้าหน้าที่หรือมาที่สภาทนายความเพื่อพูดคุยและช่วยเหลือผู้เสียหาย และฝากถึงประชาชนในการเซ็นเอกสารต่างๆ แม้จะเป็นทนายความต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน และถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ นายถวัลย์ นายกสภาทนายความ ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียหาย เบื้องต้นจำนวน 5 พันบาท ด้วย และจะรวบรวมเงินช่วยเหลือต่อไป
ด้าน นายสรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องดังกล่าวได้ส่งหนังสือถึงสภามรรยาททนายความ ซึ่งสภามรรยาทได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการทางวินัย ซึ่งผู้เสียหายจะต้องลงลายมือชื่อเป็นผู้ร้องและให้ข้อมูลกับสภามรรยาทด้วย และหากทางสภามรรยาท มีความเห็นว่านายพิสิษฐ์ผิดจริง ถือเป็นการทำผิดร้ายแรงกับลูกความจะถูกลงโทษลบชื่อทันทีไม่สามารถประกอบอาชีพทนายความได้ 5 ปี หากครบ 5 ปี แล้วมาขอขึ้นทะเบียนใหม่ก็ต้องผ่านการพิจารณาอีกขั้นตอนหนึ่งด้วย ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายสรัลชา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางสภาทนายความก็ลงโทษทนายความหลายคนที่กระทำความผิดปีละกว่า 10 คน แต่ทนายความขณะนี้มีมากกว่า 8 หมื่นคน ย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดี หากประชาชนสงสัยให้มาขอตรวจสอบประวัติที่สภาทนายความก่อน ส่วนนายพิสิษฐ์ ทนายความผู้ถูกกล่าวหา ทางสภาทนายความยืนยันว่าไม่ใช่ทนายความอาสาของสภาทนายความแน่นอน
ว่าที่พันตรี สมบัติ วงศ์กำแหง อุปนายกฝ่ายบริหาร สภาทนายความ ระบุว่าทนายความที่ลงพื้นที่ไปติดต่อกับประชาชน จะไม่ใช่ทนายความอาสาของสภาทนายความ ประชาชนจะต้องมาติดต่อที่สภาทนายความ หรือเนติบัณฑิตยสภาเท่านั้น และการใช้ทนายความอาสา จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และขณะนี้ทางทนายความได้จัดทำร่างฟ้องคดีแพ่งเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด โดยคาดว่าจะสามารถยื่นฟ้องแพ่งนายพิสิษฐ์ ผู้ถูกกล่าวหาได้ในวันพฤหัสบดีนี้และหากมีผู้ได้รับความเสียหายจากนายพิสิษฐ์ หรือทนายความคนอื่น สามารถร้องเรียนได้ที่สภาทนายความทันที
ด้าน นางสาวพรทิพย์ แม่ของ เด็กหญิงภัทรดา หรือน้องบีม กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังร้องทุกข์มาอย่างยาวนาน จากเดิมจะล้มเลิกแล้ว แต่วันนี้ที่สื่อมวลชนมาช่วยทำข่าวแล้วก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น และมีความหวังว่าจะได้เงินคืนเพื่อมารักษาดูแลน้องบีม
นอกจากนี้นางสาวพรทิพย์ ยังน้ำตานองฝากถึงนายพิสิษฐ์ ว่าหากพบกันก็อยากถามว่ามาหลอกกันทำไม และอยากให้นำเงินมาคืน เพราะทุกวันนี้เหนื่อยมาก ต่อสู้มานานต้องอุ้มลูกตั้งแต่ตัวเล็ก จนตอนนี้อุ้มลูกไม่ไหวแล้ว ถ้าใครเป็นแม่ก็คงเข้าใจความเป็นแม่ แต่ขณะนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว