แม่ขอดีเอสไอ เป็น‘คดีพิเศษ’

แม่เหยื่อคดีฉาวค้ามนุษย์เข้ายื่นดีเอสไอ ร้องขอเป็นคดีพิเศษพร้อมคุ้มครองพยาน ส่วนดาบตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน และพวกแม่เล้า ตำรวจ บก.ปคม.คุมตัวสอบเครียด ยังให้การปฏิเสธ เตรียมจ่อหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก ส่วน ผบ.ตร.เผยไม่กระทบเรื่องเทียร์ 3 ขณะที่ “บิ๊กป๊อก” จี้ผลสอบ ผวจ.แม่ฮ่องสอนเอี่ยวซื้อกามเด็ก รายงานผลสัปดาห์หน้า

จากคดีฉาวนางพิม (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียลว่า ลูกสาวและหลานสาวถูกดาบตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน บังคับให้ขายค้ากาม ล่อลวงด้วยยาเสพติด ถ่ายรูปแบล็กเมล์ นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการระดับสูงและนายตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อบริการเด็ก ต่อมาศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ปิยวรรณ หรือเมย์ สุขมา อายุ 26 ปี น.ส.ปิยทัสน์ หรือฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ อายุ 28 ปี และ ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ ผบ.หมู่ ป.สภ.น้ำเพียงดิน ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ล่าสุดตำรวจจับกุม ด.ต.ยุทธชัยและพวกแล้วส่งตัวให้ตำรวจ บก.ปคม.ดำเนินคดี ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ด.ต.ยุทธชัยและมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางพิมพร้อมด้วยนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ และ พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาการ ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปราม 1 ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ดีเอสไอ เพื่อนำเสนอให้เจ้าหน้าที่รับเป็นคดีพิเศษ

...

นายเกิดผลกล่าวว่า ผู้เสียหายเดินทางมาให้ข้อมูลกับดีเอสไอ เพื่อให้พิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หลังจากเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ตำรวจออกหมายเรียกและหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องบางส่วนเรียบร้อยแล้ว แต่ยังรู้สึกกังวลในส่วนของคดี เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องมีทั้งตำรวจและข้าราชการระดับสูง อยากให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองพยานด้วย

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รับเรื่องในส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมดำเนินการตามกระบวนการสืบสวนของกฎหมายคดีพิเศษตามมาตรา 21 เกี่ยวกับคดียุ่งยากซับซ้อนและผู้มีอิทธิพล หากพบว่ามีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้องก็เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้ ดีเอสไอจะเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลให้กับตำรวจก่อน และคาดว่าใช้เวลาพิจารณาไม่นาน หากรับเป็นคดีพิเศษก็จะรับเรื่องต่อจากตำรวจ ส่วนการคุ้มครองพยานหากผู้เสียหายไม่ปลอดภัยก็จะเร่งดำเนินการทันที

ต่อมาเวลา 11.00 น.ที่ บก.ปคม. พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม.กล่าวว่า ตำรวจสอบปากคำ ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ น.ส.ปิยวรรณ หรือเมย์ สุขมา และ น.ส.ปิยทัสน์ หรือฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของผู้เสียหายว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ผู้ต้องหาทั้ง 3 ระบุว่าไม่รู้จักกับผู้เสียหายจริงหรือไม่ ส่วนข้อมูลที่แม่ของผู้เสียหายให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ทั้งเรื่องที่มีข้าราชการระดับสูง รวมไปถึงมีตำรวจตำแหน่งรอง ผกก. รอง สว.และสิบเวร ร่วมซื้อบริการผู้เสียหายด้วยนั้น ถือเป็นข้อมูลใหม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ผบก.ปคม.กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ตำรวจก็ว่ากันไปตามหลักฐานและข้อเท็จจริง ทั้งนี้แจ้งข้อหาไปแล้ว 6-7 ข้อหา ข้อหาหลักคือร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปค้ามนุษย์โดยกระทำกับเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยใช้การขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย และข้อหาพรากผู้เยาว์อายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีอีก 1 ข้อหากับทั้ง 3 คน ส่วนประเด็นพาดพิง ผวจ.แม่ฮ่องสอนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อบริการเด็กนั้น ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ยืนยันว่าหากมีพยานหลักฐานถึงใคร ตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะนี้จะออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้เพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนเสียก่อน

ด้าน พ.ต.อ.มนตรี เบ้าทอง ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปคม.กล่าวว่า ในส่วนของพยานหลักฐานทางเจ้าหน้าที่มั่นใจไปขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน จะต้องสอบปากคำผู้เสียหายซึ่งเป็นเยาวชนเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าขณะนี้อายุของผู้เสียหายอาจจะเกินอายุเยาวชน แต่หากการกระทำความผิดเกิดขึ้นตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน สามารถดำเนินคดีย้อนหลังกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ หากโยงไปถึงบุคคลใดเพิ่มเติมจะต้องพิสูจน์ทราบ และหากพบว่าผิดจริงสามารถยื่นขอศาลออกหมายจับได้เพิ่มเติม

ต่อมาเวลา 13.40 น. นางพิมกับทนายความ เดินทางมาที่ บก.ปคม. เข้าพบ พ.ต.อ.มนตรี เบ้าทอง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม นางพิมเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ 26 เม.ย. มีข้าราชการด้านความมั่นคง โทรศัพท์เข้าหาตนเข้าใจผิดว่าเป็นแม่เล้าจะให้ความช่วยเหลือ ตนอัดเสียงไว้เป็นหลักฐานส่งให้ตำรวจแล้ว ส่วนเรื่องนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้ซื้อบริการทางเพศกับลูกสาวตนนั้น เรื่องนี้ลูกบอกว่า นายสืบศักดิ์ซื้อบริการ ที่ผ่านมาตนทำงานเป็นสายลับให้กับตำรวจแม่ฮ่องสอน ไม่เคยอยู่บ้าน ต้องอยู่เซฟเฮาส์ตลอด ไม่สามารถบอกได้มากกว่านี้ ส่วนข้อมูลแม่เล้า 11 ซุ้มใน จ.แม่ฮ่องสอน ให้ข้อมูลกับตำรวจ บก.ปคม.ไปหมดแล้ว

มีรายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์แถลงการณ์ในเฟซบุ๊ก “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” ระบุว่า ทางชมรมไม่ได้มีการเรียกร้องค่าใช้จ่ายตามที่ถูกนางพิมกล่าวหา แต่เป็นการเสนอค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือในการเดินทางเท่านั้น

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากเป็นข่าวมอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ลงไปตรวจสอบ คดีนี้ถ้ามีพยานหลักฐานไปถึงใครจะดำเนินการไปตามกระบวนกฎหมาย แต่จะดำเนินการต่อไปอย่างไรต้องดูที่พยานหลักฐาน เพราะการกล่าวอ้างถึงใครสามารถกล่าวอ้างกันได้อยู่แล้ว กรณีนี้เป็นการกระทำความผิดของตัวบุคคล เมื่อทำตัวไม่ดี มีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว เชื่อว่าในพื้นที่มีข้อมูลบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ดังนั้น ในพื้นที่อื่นถ้ามีการกระทำความผิดในลักษณะอย่างนี้ ตนไม่ปกป้อง ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงตำรวจบางนายที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างการสืบสวน ประเด็นที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง หรือกระทบถึงเรื่องเทียร์ 3 การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เพราะเทียร์ 3 เป็นเรื่องความตั้งใจ จริงใจ ในการแก้กฎหมายมากกว่า

...

ส่วน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า กรณีที่มีการกล่าวพาดพิงถึงข้าราชการตำรวจอีก 3 นายเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีนี้ สั่งการให้ ผบช.ภ.5 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย คงต้องรอให้ทางพื้นที่สืบสวนสอบสวนดำเนินการต่อไป เรื่องของตำรวจทั้ง 3 นายมีพยานบุคคลอยู่แล้ว ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องในสำนวน อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงของทาง บช.ภ.5 ถ้าหลักฐานชัดเจนก็ขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป

ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ผวจ.แม่ฮ่องสอนถูกกล่าวหาพัวพันการค้าบริการเด็กว่า นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว มีนายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ใช้เวลาดำเนินการสอบให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ทราบว่าขณะนี้นายประยูรลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและสั่งการไปว่าให้คณะกรรมการดำเนินการสอบ และต้องมีความชัดเจน ให้รายงานผลการตรวจสอบมาให้ตนทราบเบื้องต้นภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ หากผลการสอบสวนพบว่ามีข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยรายใดเข้าไปมีส่วนพัวพันและเกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ไม่มีการละเว้น และจะลงโทษขั้นสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อถามว่าขณะนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีจังหวัดอื่นพัวพันกับการค้าบริการในลักษณะนี้อีกหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า ถ้ามีในจังหวัดอื่นอีก ก็เอาไว้ไม่ได้ พวกที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และยาเสพติด

ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม.เปิดเผยว่า กรณีหญิง อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าร้องเรียนสื่อมวลชนถึงบุตรสาววัย 19 ปี ถูกบังคับให้ค้าประเวณีในจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่กองต่อต้านการค้ามนุษย์ พร้อมด้วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง เร่งให้ความช่วยเหลือและเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมอบเงินค่าครองชีพจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 3,000 บาท รับปีละ 3 ครั้ง ครั้งละ 3,000 บาท และเงินค่าเครื่องอุปโภคบริโภค 3,000 บาท ทั้งนี้ หลังจากฟื้นฟูสภาพจิตใจแล้ว ในระยะยาวจะมีการฝึกอาชีพให้ผู้เสียหาย เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพและกลับสู่สังคมอย่างปกติสุขต่อไป

...

ต่อมาเวลา 17.20 น. รายการถามตรงๆกับจอมขวัญในไทยรัฐทีวี สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และน้องบี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เหยื่อถูกบังคับค้ากาม เล่าเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 1 ปีที่ผ่านมาว่า มีตำรวจเข้ามาซื้อบริการที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน แต่เมื่อเข้าไปในห้องด้วยกันมีผู้ชายทั้งหมด 5 คน เข้ามารุมบีบจับตัว ลวนลามทำรุนแรงแล้วโยนเงินให้ก่อนออกไปจากห้อง และเคยให้บริการข้าราชการในสังกัดอื่นๆหลายคน รวมถึงเคยเข้าไปให้บริการในบ้านพักของข้าราชการด้วย ทั้งในเวลาราชการและนอกเวลาราชการด้วย