น่าชื่นชม! น้องมาวิน - น้องมาริช 2 พี่น้อง เด็กไทยสัญชาติอเมริกัน ดีดเปียโน สีไวโอลิน เพลงพระราชนิพนธ์ "สายฝน" เป็นตัวแทนครอบครัวซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐคอนเนตทิคัต แสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ภายหลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.52 นาฬิกา ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช การสวรรคตของพระองค์ยังความโศกเศร้าต่อประชาชนชาวไทยทั่วโลก คนไทยในต่างแดนได้ออกมารวมตัวแสดงความอาลัย ร่วมจุดเทียนและสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ขณะที่ประชาชนคนไทยที่อาศัยอยู่ 50 มลรัฐ ในประเทศสหรัฐอเมริกา (United States of America) ได้รวมตัวจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
ขณะเดียวกัน คุณลูลู คูสงวนชัย คนไทยที่ปักหลักสร้างครอบครัวอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐคอนเนตทิคัต (Connecticut) พร้อมกับครอบครัว ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมแสดงความอาลัย ณ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา และในวันนี้ ด.ช.มาวิน สัมฤทธิเวช (อายุ 14 ปี) และ ด.ช.มาริช สัมฤทธิเวช (อายุ 12 ปี) ลูกชายทั้งสองคนของคุณลูลู ที่ถือกำเนิดในประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้ร่วมบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ "สายฝน" ด้วยเครื่องดนตรีเปียโน และสีไวโอลิน ถ่ายคลิปวิดีโอโพสต์ลงเฟชบุ๊กไว้อย่างไพเราะ น่าประทับใจ
...
ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้ต่อสายตรงไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อพูดคุยกับ คุณลูลู คูสงวนชัย ถึงความเป็นมาเกี่ยวกับครอบครัว รวมถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
คุณลูลู เปิดเผยว่า ตัวเธอเอง หลังจากจบปริญญาตรีคณะวิทยาการจัดการจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น จากนั้นมาเรียนต่อปริญญาโท (MBA) ที่ California State University of Sacramento เมื่อเรียนจบ ได้แต่งงานที่สหรัฐอเมริกากับสามีคือ นายก้องฟ้า สัมฤทธิเวช ซึ่งจบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมาต่อปริญญาโท ที่ Pennsylvania State University เธอจึงอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่นั้นมาเรื่อยจนถึงวันนี้ โดยที่สามีทำงานเป็น Telecommunication Engineer (วิศวกรสื่อสาร) กับบริษัท IBM ส่วนตัวเธอเป็นแม่บ้านเลี้ยงดูเด็กๆ
"เด็กๆ ทั้งสองคนเกิดและเติบโตที่สหรัฐอเมริกาพูดภาษาไทยได้บ้างไม่เยอะค่ะ ขณะนี้เขาเรียนอยู่ที่ Kingswood Oxford School ในมลรัฐ Connecticut น้องมาวิน เรียนอยู่ Form 3 (เทียบเท่า ม.3) ส่วนน้องมาริช เรียนอยู่ Form 1 (เทียบเท่า ม.1) นอกจากเรียนหนังสือ เด็กๆ ก็เล่นกีฬาทั่วๆ ไป เช่น ว่ายน้ำ ฟุตบอล (soccer) เทนนิส เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ที่สำคัญคือเด็กๆ ชอบเล่นดนตรีมาก โดยเฉพาะเปียโนและไวโอลิน มาวินและมาริช ยังได้ร่วมอยู่ในวง orchestra ของโรงเรียน Kingswood Oxford นอกจากนี้ยังส่งเขาไปโรงเรียนดนตรีเพิ่มเติมที่ Hartt Community Division"
...
คุณลูลู เล่าต่อว่า เด็กๆ รู้จักในหลวง ร.9 ตั้งแต่ยังเล็กๆ เลย เรียกได้ว่า เมื่อลูกจำความได้ ก็รู้จักในหลวงเลย ทราบว่าพระองค์ทรงเป็นที่รักเคารพของปวงชนชาวไทย เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานเพื่อประชาชนของพระองค์โดยไม่ได้คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อย ช่วยเหลือคนไทยทั่วทุกภาค ครอบครัวเราติดตามการเข้ารักษาพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลศิริราชมาโดยตลอด และภาวนาให้พระองค์ทรงมีพระอาการดีขึ้น ทุกครั้งที่คุณปู่ คุณย่า หรือคุณตา คุณยาย มาเยี่ยม ก็จะเอาปฏิทินจากเมืองไทยมาฝากและมีรูปในหลวง เด็กๆ จะพากันถามตั้งแต่เล็กๆ ว่าคนนี้คือใคร ซึ่งก็ได้เล่าให้ลูกๆ ฟังตลอด เขาซึมซับและรักพระองค์เหมือนเด็กที่เติบโตในประเทศไทย
"หลังจากทราบว่า พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ดิฉันและครอบครัวรู้สึกสูญเสียและเสียใจค่ะ" แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มตั้งสติคิดได้ว่าเราคงจะมัวเสียใจไม่ได้ แต่ควรจะนำคำสอนและตัวอย่างที่ดีที่พระองค์ท่านได้ทรงทำไว้ให้เราดูมาปฏิบัติตามเป็นแบบอย่าง ประพฤติตัวเป็นคนดี สอนลูกให้เป็นคนดีมีศีลธรรม ถึงแม้ว่าจะเติบโตต่างบ้านต่างเมือง แต่หลักเศรษฐกิจพอเพียงหรือแนวคิดวิธีต่างๆ ที่พระองค์มีพระราชดำรัส ทรงแนะนำประชาชนคนไทย ดิฉันนำมาสอนลูกตั้งแต่เล็กจนโต"
...
คุณลูลู เล่าถึง ที่มาการเล่นดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ ว่า เลือกเล่นเพลงพระราชนิพนธ์สายฝน เพราะลูกๆ ชอบเพลงนี้มาก เป็นเพลงที่ร่วมสมัย ดนตรีมีจังหวะน่าฟัง ที่สำคัญครอบครัวของเรา อยากจะแสดงความอาลัยถวายแด่พระองค์ท่าน แม้ลูกชายจะร้องไม่ได้ เพราะสำเนียงไทยยังพูดไม่ชัด แต่มีความรักภักดีอยู่เต็มหัวใจ
"ถ้ามีโอกาส อยากจะพาครอบครัวกลับไป กราบพระบรมศพ แต่เมื่อเราอยู่ไกล ครอบครัวเราก็ไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมพระบรมศพของพระองค์ท่านที่ทางวัดนวมินทราชูทิศ ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ได้จัดขึ้น เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาค่ะ ดิฉันและครอบครัวขอร่วมแสดงความอาลัยผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ของลูกๆ ทั้งสองด้วยนะคะ" เธอกล่าวทิ้งท้าย