พสกนิกรปลื้มปีติ ในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงห่วงใยในการเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพและแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่บริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง โดยพระราชทานอาหาร จัดหน่วยแพทย์ดูแล ขณะที่ทุกฝ่ายพร้อมในการรองรับคลื่นประชาชนจำนวนมาก เดินทางเข้ามาถวายบังคมพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันที่ 29 ต.ค. เป็นวันแรก โดยการใช้บัตรคิวเท่านั้น กอร.รส.ยันไม่มีโควตาพิเศษแก่ใครหรือกลุ่มใด เปิดให้กราบพระบรมศพวันละ 1 หมื่นคน เผยเหตุต้องจำกัดจำนวน เพราะมีพิธีการอื่น กระทรวงมหาดไทยห้าม อปท.คัดเลือกญาติตัวเองเดินทางมาเคารพพระบรมศพ ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมกัน รองแม่ทัพภาคที่ 1 จวกคนมาสนามหลวงให้รู้จักกาลเทศะ เพราะไม่ใช่งานอีเวนต์ ที่จะมาแสดงความไม่เหมาะสมหรือบันเทิงเริงรื่นกัน ย้ำแจกอาหารได้แค่ 2 ทุ่ม “ปนัดดา” แจกข้าวสารประชาชนที่ระลึกมากราบพระบรมศพ
วันที่ 28 ต.ค. นับเป็นวันที่ 15 ของพระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และวันที่ 2 ของพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร เนื่องในครบรอบวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครบ 15 วัน มีหน่วยงานภาครัฐร่วมบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลกันอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่บรรยากาศที่ท้องสนามหลวงยังคลาคล่ำไปด้วยพสกนิกรที่หลั่งไหลเดินทางมาลงนาม โดยบางส่วนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดไร้ที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ พากันนอนค้าง ที่ท้องสนามหลวง จนต้องมีการจัดระเบียบเพื่อความเรียบร้อยของพื้นที่
พระเทพฯเสด็จฯบำเพ็ญพระกุศลเช้า
ทั้งนี้เมื่อเวลา 06.56 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงเช้า ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระ บรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร เป็นพระพุทธรูปประทับยืนแบบสมภังค์ แสดงปางห้ามญาติ หรืออภัยมุทรา ด้วยพระหัตถ์ขวาเพียงข้างเดียว ที่หน้าพระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร พระพิธีธรรม 8 รูป จาก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร สวดพระอภิธรรม จากนั้น ถวายภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม ก่อนเสด็จกลับ
...
พระบรมฯทรงบำเพ็ญพระกุศลปัณรสมวาร
เวลา 11.05 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ บำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวารพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะตุลาการ คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติ และ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าละอองธุลีพระบาทเฝ้าฯ รับเสด็จ
พระพรหมมุนีแสดงพระธรรมเทศนา
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะกราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป ที่สวด พระพุทธมนต์แต่วันก่อน สวดถวายพรพระจบ ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นสดับปกรณ์ถวาย อนุโมทนา เจ้าพนักงานนิมนต์พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ขึ้นนั่งยังอาสนะ ทรงจุดธูปเทียน เครื่องทรงธรรม สมเด็จพระราชาคณะถวายศีล
ให้คนไทยรำลึกถึงและเจริญรอยตาม
พระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ถวายพระธรรมเทศนา แสดงพระธรรมเทศนา “พุทธคุณกถา” ถวายวิชนา ความสรุปว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคตล่วงลับไป เกิดความอ้างว้างในใจของมหาชนทั่วหน้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงบริบูรณ์ด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระกรุณาธิคุณ พระราชกิจที่ทรงบำเพ็ญให้เป็นไปนั้น ปราศจากมลพิษ ทรงมุ่งหมายประโยชน์ใหญ่ของส่วนรวมเป็นสำคัญ มิใช่เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ สุขของส่วนพระองค์ ทรงยอมสละทุกสิ่งทุกอย่างได้เพียงประโยชน์สุขของพสกนิกร แม้เสด็จสวรรคตล่วงลับไป แต่พระราชคุณูปการย่อมยังปรากฏยั่งยืนอยู่ให้พสกนิกรได้รำลึกถึงและเจริญรอยตาม จึงควรที่ชาวไทยจักสำแดงความภักดี รู้รักสามัคคี พากเพียรบำเพ็ญกิจตามหน้าที่ของตน เพื่อยังประโยชน์สุขให้บังเกิดทั่วราชอาณาจักร
พระบรมฯทอดผ้าไตรพระสงฆ์ 89 รูป
ภายหลังพระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร แสดงพระธรรมเทศนา ถวายพระธรรมเทศนาจบ พระสงฆ์ 4 รูป สวดธรรมคาถา ต่อมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนจตุปัจจัยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา แล้วทรงทอดผ้าไตรพระสงฆ์อีก 89 รูป เท่าพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินกลับ
นายกฯเวียดนามวางพวงมาลา
ส่วนบุคคลสำคัญที่เดินทางมาแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ณ ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรม มหาราชวัง มีนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เดินทางมาวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ จากนั้นไปลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ตามด้วยนายราตู เอเปลี ไนลาติเกา อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐฟิจิ เดินทางมาลงนามแสดงความอาลัยด้วยเช่นกัน
3 เหล่าทัพบำเพ็ญกุศล “ปัณรสมวาร”
ในส่วนของหน่วยงานราชการที่ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช เมื่อเช้าวันที่ 28 ต.ค. มีที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทหารสูงสุด เป็นประธาน นอกจากนี้ยังมีการบริจาคโลหิต, การสวดมนต์, การฟังพระธรรมเทศนา และการฟังบรรยายพิเศษ “ชีวิตนี้ เพื่อพ่อ” รวมทั้งที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ตามด้วยที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. เป็นประธาน ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ดร.บุษบา ชัยจินดา นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจเป็นประธานในพิธี
...
ปลื้มปีติพระบรมวงศานุวงศ์ทรงห่วงใย
ขณะที่เหล่าพสกนิกรชาวไทยที่เดินทางลงนามแสดงความอาลัยและถวายสักการะพระบรมศพ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ต่างปลาบปลื้มปีติใจ เมื่อได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงห่วงใยผู้เดินทางมาและรับสั่งให้ เจ้าหน้าที่กองงานส่วนพระองค์ นำอาหารมาพระราชทาน ประทาน พร้อมเสด็จมาทรงร่วมแจกจ่าย ปรุงอาหาร ให้กับพสกนิกรที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ
โดยเมื่อเช้าวันเดียวกัน ที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รับสั่งให้หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และกองงานส่วนพระองค์นำอาหาร น้ำดื่ม และหน่วย แพทย์มาให้บริการประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 สำหรับเมนูอาหารที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร พระราชทานในวันที่ 28 ต.ค. มื้อเช้า ข้าวเหนียว หมูปิ้ง นมกล่อง มื้อเที่ยง ข้าวเป็ดพะโล้ ก๋วยเตี๋ยวบะหมี่ปลา มื้อเย็น ผัดไทย อาหารว่างมื้อบ่าย ขนมไทย จากร้านสวัสดิการข้าราชบริพารในพระองค์
พระราชทานอาหารเพิ่ม-จัดแพทย์ดูแล
นายทหารระดับสูงประจำกองงานส่วนพระองค์ เผยว่า วันที่ 29 ต.ค. ที่พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงห่วงใยในสภาวะจิตใจของผู้ที่เดินทางมา โดยเฉพาะช่วงหลังเสร็จจากการถวายสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท หลายคนอาจมีอาการเศร้าหมอง ประกอบกับต้องต่อแถวรอเป็นเวลานาน ร่างกายอาจอ่อนเพลีย จึงทรงมีรับสั่งให้แผนกแพทย์ในพระองค์ฯ จัดแพทย์เข้าไปสมทบกับกองแพทย์หลวง สวนจิตรลดา ไปตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลประชาชนที่เจ็บป่วย บริเวณกองพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง รองรับประชาชนลงมาจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วต้องออกทางประตูสุวรรณบริบาล ประตูวิมานเทเวศร์ ในส่วนของกองงานในพระองค์ จะเพิ่มจำนวนอาหารที่มาแจกจ่ายประชาชนในวันดังกล่าวในมื้อกลางวัน กับมื้อเย็น สำหรับเมนูวันที่ 29 ต.ค. ประกอบด้วย กระเพาะปลาเส้นหมี่ มื้อกลางวัน ขนมจีบ ซาลาเปา ผัดไทยกุ้งสด มื้อเย็นเป็นข้าวราดพะแนงไก่-เนื้อ
...
ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์พระราชทานแพทย์
อีกด้านหนึ่งที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ เต็นท์หมายเลขที่ 11 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬา ภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ พระราชทานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จาก รพ.จุฬาภรณ์ ที่ประกอบไปด้วยแพทย์ พยาบาลและบุคลากรการแพทย์ ราว 15 คน มาเปิดให้บริการทางการแพทย์กับประชาชนที่เจ็บป่วย อ่อนเพลีย จากการเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ โดยให้ตรวจอาการเบื้องต้น หากเจ็บป่วยมากก็จะมีรถพยาบาลส่งต่อไปโรงพยาบาลใกล้เคียง นอกจากนี้ยังพระราชทานอาหาร และน้ำผลไม้ มาแจกจ่ายพสกนิกร อาทิ ข้าวหมูทอดกระเทียม ทอดมันปลากราย และน้ำผลไม้กล่อง
ทูตจีนเผยชาวจีนก็เศร้าไม่แพ้คนไทย
ที่เต็นท์ของสถานทูตจีน ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เช้าวันเดียวกัน นายหนิง ฟู่ ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศ ไทย และนางชู ชิ่ง หลิง ภรรยา พร้อมเจ้าหน้าที่นำอาหารกล่องเป็นแซนด์วิชกับน้ำผลไม้ จำนวน 5,000 กล่อง รวมทั้งน้ำดื่ม แจกแก่ผู้ที่มาร่วมแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นายหนิง ฟู่ ขุย กล่าวผ่านล่ามว่า ประชาชนชาวจีนเมื่อทราบข่าวการเสด็จสวรรคต ต่างก็มีความโศกเศร้าไม่แพ้ประชาชนชาวไทย เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่เป็นที่นับถือของทั้งชาวไทยและจีน สถานทูตจีนซึ่งมีตนเป็นตัวแทนของชาวจีน ขอแสดงความเสียใจกับประชาชนชาวไทยทุกคน เราจะจับมือกันไว้ ก้าวผ่านไปให้ได้และจะคอยให้กำลังใจเสมอ
SCG ทำห้องน้ำสนามหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมาแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก ทำให้ห้องน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับบริษัท SCG ได้จัดทำ “ห้องน้ำเพื่อประชาชน” แบบเร่งด่วนที่สนามหลวง เพื่อบริการผู้ที่มาถวายสักการะพระบรมศพ โดยห้องน้ำดังกล่าว เป็นแบบน็อกดาวน์กึ่งถาวร ขนาด 6 × 4 เมตร แต่ละชุดแยกห้องนํ้าหญิง จำนวน 4 ห้อง ห้องน้ำชาย 2 ห้อง และโถปัสสาวะ 10 ชุด พร้อมกับมีห้องน้ำสำหรับคนพิการอีก 1 ห้อง ทั้งนี้ ได้ติดตั้งจุดแรกที่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ให้บริการได้ในวันที่ 29 ต.ค. อีก 2 จุด จะติดตั้งที่ บริเวณสวนสันติพร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คาดว่าส่วนที่เหลือจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.นี้
...
นร.จิตรลดา จิตอาสาร่วมเก็บขยะ
ส่วนที่เต็นท์กองอำนวยการร่วมกรุงเทพมหานคร สนามหลวง นักเรียนจากโรงเรียนจิตรลดา ชั้นเด็กเล็ก ประมาณ 50 คน มาเป็นจิตอาสาเก็บขยะ รอบสนามหลวง พร้อมกับแจกลูกอม ยาดม และพัดที่นักเรียนได้จัดทำขึ้นมาเอง โดย ด.ช.ภูมิ เทียนทำนูล อายุ 8 ขวบ ชั้น ป.3 กล่าวว่า รักและเทิดทูนในหลวง พระองค์ท่านทรงงานเพื่อประชาชน วันนี้ครูได้พาเพื่อนๆมาร่วมทำจิตอาสา อาจจะเหนื่อยและร้อน แต่พวกเรามาทำด้วยใจและมีความสุขดี ที่สำคัญเทียบไม่ได้กับที่พระองค์ท่านทรงงาน ด้าน ด.ญ.นรากร ประวิตร ณ อยุธยา อายุ 9 ขวบ กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ตั้งใจมาทำ รักในหลวงมาก เพราะพระองค์รักประชาชน
“ซิโก้-นวลพรรณ” นำทีมชาติร่วมอาลัย
ที่เต็นท์ 46 ฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มณฑล พิธีท้องสนามหลวง นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือโค้ชซิโก้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พร้อมนักเตะทีมชาติไทยทั้งชายและหญิง ได้รวมตัวยืนหันหน้าไปทางพระบรมมหาราชวังแล้วก้มลงกราบลงที่พื้นหญ้า เป็นการแสดงความอาลัย หลังจากนั้นนักเตะทีมชาติไทยทั้งชายและหญิง ร่วมกับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ แจกข้าวเหนียวหมูทอด ขนมและน้ำดื่ม ให้กับผู้ที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ซิโก้ลั่นจะทดแทนคุณแผ่นดินให้ดีที่สุด
ซิโก้-เกียรติศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ได้ร่วมกับผู้สนับสนุนต่างๆ และสมาคมฟุตบอลฯมาแจกของเป็นการทำความดี ส่วนตัวมีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระองค์ท่าน ในช่วงเป็นนักฟุตบอล ในกีฬาเอเชียนเกมส์จัดขึ้นที่ประเทศไทยรู้สึกประทับใจและสิ่งที่ทุกคนทราบมาโดยตลอดว่า พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชน อยากบอกน้องๆนักฟุตบอลและประชาชนทั่วไปให้น้อมนำคำสอนของพระองค์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ตนจะทำหน้าที่นำทีมฟุตบอลทดแทนคุณแผ่นดินให้ดีที่สุด