จากกรณีงูเหลือมยาวกว่า 3 เมตร กัดอวัยวะเพศหนุ่มวัย 38 ปี ขณะกำลังนั่งส้วมภายในบ้านของตัวเอง โดยตะโกนเรียกภรรยาให้มาช่วย (งูเหลือมพุ่งจากส้วมนั่งยอง กัดเจ้าโลกหนุ่มใหญ่ เลือดสาด!) ล่าสุดแพทย์โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 ได้ผ่าตัดแผล เปิดเผยว่า ที่ผิวของอวัยวะเพศ มีรอยบาดเป็นแผลแต่ลึกไม่มากและไม่ถึงท่อปัสสาวะ ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อในท่อทางเดินปัสสาวะ ต้องนอนรอดูอาการ 3-7 วัน หากไม่มีอาการแทรกซ้อน ก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ต้องคอยทำความสะอาดแผลตลอดเวลา (หนุ่มงูฉกเจ้าโลกผวา! ขอนั่งกระโถนแทน แพทย์รอดูอาการ 3-7 วัน)
หลังจากข่าวนี้ถูกนำเสนอออกไป คงทำให้หลายคนเกิดอาการหวั่นใจไม่กล้านั่งส้วมยองอีก คิดเสมอว่าอาจจะเจองูเลื้อยมากัดก็เป็นได้...
ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายมนตรี สุมณฑา นักวิชาการเชี่ยวชาญด้านงู เกี่ยวกับพฤติกรรมของงูเหลือมและวิธีจับงูเหลือมอย่างถูกต้อง ว่า งูเหลือมทั่วไปจะไม่ทำร้ายคน เว้นแต่ได้รับการก่อกวนหรือรบกวน ลักษณะนิสัยของงูเหลือมขี้ระแวง ฉะนั้นการฉกของงูเหลือมไม่ใช่ต้องการกินเป็นอาหารเสมอไป แต่อาจเพื่อป้องกันตัว กรณีที่เป็นข่าวแพร่ออกไปคาดว่า งูตัวดังกล่าวอาจจะเข้ามาทางบ่อเกรอะ ที่เกิดจากดินทรุดตัว ทำให้มีช่องพอสำหรับให้หนูหรือสัตว์ชนิดอื่นๆ ลงไป เมื่อหาทางออกเดิมไม่เจอ จึงมาโผล่ในส้วมนั่งยอง นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เจอกันได้ปกติ เพียงแต่ก่อนหน้านี้งูอาจไม่ทำร้ายคน
...
วิธีการจับงูเหลือมที่ถูกต้อง แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ จับด้วยมือเปล่าและใช้เชือก กรณีจับด้วยมือเปล่า ขั้นตอนแรก ต้องมีสติ อย่าตกใจ กำคองูเหลือมให้แน่นที่สุด และให้ผู้อื่นช่วยจับบริเวณส่วนหางของงู พยายามคลายด้วยการแกะช่วงกลางตัว จากนั้นนำใส่กระสอบ โดยเอาส่วนหางเข้าไปก่อน ตามด้วยส่วนหัว แล้วรีบรวบปากมัดเป็นเกลียว หักคอกระสอบ มัดเชือกให้แน่น หากเป็นกรณีที่งูอยู่ตามซอกหรือที่เข้าถึงยากต้องใช้เชือกจับ โดยจะคล้องห่วงที่ปากงู จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการใช้มือจับงู โดยยังไม่ปล่อยเชือก ทั้งนี้ห่วงที่ใช้คล้องงู ห้ามผูกจนแน่นมาก งูต้องสามารถคลายตัวได้ เมื่อเข้าไปอยู่ในกระสอบ และควรแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยโดยเร็ว
ด้าน นายสัตวแพทย์ สมมโนรม ศรีหิรัญ เปิดเผยถึง ลักษณะบาดแผลที่เกิดจากงูฉกหรือกัด ว่า แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ งูที่มีพิษกัดและงูที่ไม่มีพิษกัด หากเป็นงูมีพิษ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นงูพิษชนิดไหน แบ่งย่อยเป็นพิษต่อระบบประสาทและพิษต่อระบบเลือด ส่วนงูไม่มีพิษ จะทำให้เกิดบาดแผลฉีกขาดตามเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อต่างๆ ซึ่งอาจติดเชื้อต่างๆ ตามมา เนื่องจากในช่องปากของงูประกอบไปด้วยเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด อาจทำให้เกิดการเน่าเปื่อยของเนื้อเยื่อ ฝีหนอง เนื้อตาย หรือถ้าร้ายแรงจะติดเชื้อในกระแสเลือดตามมา
ทั้งนี้ กรณีงูกัดบริเวณอวัยวะเพศ ในทางการแพทย์ถือว่าไม่ต่างกับการกัดส่วนอื่นๆ แต่ในภาวะปกติอวัยวะเพศเป็นเนื้อเยื่อที่อ่อนนุ่ม ทำให้เกิดการฉีกขาดและแผลฉกรรจ์ได้ง่ายกว่า
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากมั่นใจว่า เป็นงูไม่มีพิษ ให้ล้างแผลด้วยน้ำเกลือล้างแผล ทำการห้ามเลือด โดยอาจใช้ผ้าสะอาดกดไว้ แล้วรีบไปพบแพทย์ กรณีถูกกัดบริเวณอวัยวะเพศแล้วเกิดการฉีกขาด ให้นำส่วนที่ขาดใส่ถุงพลาสติกที่สะอาด ไม่ต้องล้างทำความสะอาดส่วนที่ขาด จากนั้นนำอวัยวะแช่ในกล่องน้ำแข็ง รีบนำไปพบแพทย์ ที่สำคัญควรถ่ายรูปของงูที่กัดไปให้แพทย์ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นงูประเภทใด เพื่อความสะดวกในการวินิจฉัยและรักษา
...
เชื่อว่า...หลายคนคงสงสัยว่า หากถูกงูกัดและเผลอทำร้ายงูจนได้รับบาดเจ็บหรือตาย ถือว่าผิดพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ "ข้อหาทารุณสัตว์" หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านงู ย้ำว่า หากเป็นกรณีดังกล่าว ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ นับเป็นการป้องกันตัว