"พล.ต.อ.จักรทิพย์" ผบ.ตร. สั่ง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เร่งรัดคดี "ทายาทกระทิงแดง" ชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต พร้อมเผยผลตรวจสารเสพติด "เจนภพ" พบมีสารออกฤทธิ์ทางประสาทในร่างกาย แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารประเภทไหน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 มี.ค. 59 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีคดีความ นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา อายุ 31 ปี ทายาทธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ที่ขับรถเฟอร์รารี่พุ่งชนดาบตำรวจ สายตรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต บริเวณ ถ.สุขุมวิท 47 เมื่อกลางดึก วันที่ 3 ก.ย. 55 ว่า เรื่องนี้ผมไม่ทราบเพราะคดีเกิดขึ้นมานานและไม่ได้อยู่ในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่อย่างไรก็ตามตนก็จะตรวจสอบให้ และขอบคุณที่ช่วยเร่งรัดทางอ้อม

ส่วนกรณีที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด เปิดเผยถึงการดำเนินคดีนี้ว่ามีความล่าช้า เนื่องจากพนักงานสอบสวนส่งสำนวนล่าช้า พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ทุกอย่างมีระเบียบอยู่แล้วต้องดูว่าล่าช้าตรงไหนต้องดูตามขั้นตอนกระบวนการ ถ้าช้าเมื่อไปถึงที่อัยการก็ว่ากันไป ถ้าช้าในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเร่งรัด ขอบคุณที่ช่วยกันตรวจสอบ ตำรวจใช้ภาษีของสังคมสามารถให้ประชาชนตรวจสอบได้อยู่แล้ว ยืนยันไม่ได้ปล่อยปละละเลย ยังไงก็ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้สั่งให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) ให้เร่งรัดคดีอยู่

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนผลการตรวจสารเสพติดของนายเจนภพ วีรพร เบื้องต้นพบสารที่ออกฤทธิ์ทางประสาท (ยากล่อมประสาท) แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารประเภทไหน ทางโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาแจ้งมาแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาจะใช้ช่องทางนี้ในการสู้คดีหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า สามารถสู้คดีได้เนื่องจากเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ซึ่งต้องสู้ตามข้อกฎหมาย ทั้งนี้ตำรวจไม่กังวล แต่อย่าไปมองว่าตำรวจช่วยเหลือผู้ต้องหา ทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย ตำรวจไม่สามารถไปลดโทษใครได้ บางครั้งเราสั่งฟ้องไปถึงศาล ศาลอาจจะสั่งยกฟ้องก็ได้ ซึ่งกรณีแบบนี้เกิดขึ้นจำนวนมาก

...

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเช็กประวัติการรักษาของผู้ต้องหาหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในสำนวน ผมไม่ทราบลึกขนาดนั้น ส่วนเรื่องข้อกฎหมายการปฏิเสธการตรวจแอลกอฮอล์ของผู้ต้องหา ถ้าผู้ต้องหาปฏิเสธก็ให้สันนิษฐานว่าเมา

ด้าน พ.ต.อ.ณฐพล สามเสน รองผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 (รอง ผบก.ศพฐ.) กล่าวว่า จากการตรวจพิสูจน์หลักฐานของ ศพฐ.1 เบื้องต้นยังไม่ยืนยันความเร็วของรถเบนซ์ที่นายเจนภพ วีรพร ขับชนนักศึกษาปริญญาโทจนเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน จึงจะสามารถตรวจพิสูจน์ได้ ส่วนกรณีที่ข่าวปรากฏตามสื่อออนไลน์ว่า ใช้ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น ตนไม่ทราบและไม่เคยให้สัมภาษณ์กับใคร ซึ่งไม่รู้ว่าข่าวนี้มีที่มาจากไหน.