ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดี อดีต 3 บิ๊กขรก.กรมควบคุมมลพิษ ‘ปกิต-ศิริธัญญ์-ยุวรี’ ถูกฟ้องใช้อำนาจหน้าที่แสวงประโยชน์โดยทุจริต ในการจัดซื้อจัดจ้าง กรณี ‘คลองด่าน’ สั่งลงโทษจำคุกคนละ 20 ปี จำเลยยื่น 2 ล้านขอประกันตัว...

ที่ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปกิต กิระวานิช อายุ 79 ปี อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ อายุ 64 ปี อดีตรองอธิบดี นางยุวรี อินนา 54 ปี อดีตนักวิชาการ 7 เป็นจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานมีส่วนได้เสีย ในการจัดซื้อจัดจ้าง กรณีทุจริตโครงการบำบัดน้ำเสียที่ จ.สมุทรปราการ หรือคดีคลองด่าน

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างปี 2538 ถึงปี 46 พวกจำเลยร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่แสวงประโยชน์เพื่อตนโดยทุจริต ข้อเท็จจริงฟังว่า โครงการออกแบบระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย จ.สมุทรปราการต้องใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้าง มีกรมควบคุมมลพิษเป็นผู้ดำเนินการ มีจำเลยเป็นกรรมการคัดเลือกผู้เข้าประกวดราคา จำเลยทุจริตโดยละเว้นไม่ตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัท น. กับบริษัท ณ. ให้ชัดเจน ทั้งที่บริษัททั้งสองไม่มีคุณสมบัติตามการประกวดราคา ทั้งยังประกาศเชิญชวนให้ประกวดราคาก็ติดไว้ห่างจุดโครงการ 20 กม.

ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ที่ดินของบริษัท ป. ที่ถูกเชิดขึ้นมามีคุณสมบัติตามที่กำหนด เพื่อจะได้ขายที่ดินให้โครงการได้ จากนั้นได้มีการแก้ไขรายละเอียดโครงการทำให้ผู้เสนอราคารายอื่นขาดคุณสมบัติ มีการเพิ่มวงเงินงบประมาณเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าประกวดราคารายหนึ่ง มีการปกปิดรูปแบบการประกวดราคา ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ แล้วไม่นำเสนอโครงการให้คณะรัฐมนตรีทราบ ส่งผลให้ ครม.เห็นชอบในเรื่องการขออนุมัติขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ไม่มีผลรองรับการประกวดราคาโครงการ และเป็นการฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรี

...

พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า มีกลุ่มบริษัทเอกชนร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในการดำเนินการแต่ละขั้นตอนโดยทุจริตแล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐ กับรัฐมนตรีที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ปฏิบัติหน้าที่ ดำเนินการแต่ละขั้นตอนในทางที่ขัดต่อระเบียบราชการ อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทที่เข้าประกวดราคาจนเป็นผลสำเร็จ และเป็นผลให้สัญญาระหว่างกรมควบคุมมลพิษกับบริษัทกิจการร่วมค้า เป็นสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้รัฐเสียหาย การกระทำของจำเลยจึงผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการ จัดซื้อ ทุจริตต่อหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ลงโทษจำคุกคนละ 20 ปี หลังมีคำพิพากษา จำเลยได้ยื่นขอปล่อยตัวในชั้นอุทธรณ์ และได้ประกันไปคนละ 2 ล้านบาท.