วอนชาวเน็ตยุติว่อนข้อความ กรณีจีนวิจารณ์การศึกษาไทย ล่าสุดทางสถานทูตจีนประจำประเทศไทยขอยืนยันว่า สิ่งที่กล่าวหาในบทความนี้ ไม่มีมูลความเป็นจริง...
วันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีข้อความว่อนทั่วโลกสังคมออนไลน์ จีนวิจารณ์การศึกษาไทยสุดห่วยนั้น ได้แพร่กระจายทั่วโซเชียลมีเดียของไทย โดยบทความแพร่ออกมาว่า ฝ่ายจีนวิพากษ์วิจารณ์การศึกษาของไทย และกลายเป็นที่สนใจของหลายๆ คน
สำหรับเนื้อหาข้อความดังกล่าวมีใจความว่า ช่วยอ่านและวิจารณ์หน่อย...การศึกษาไทยน่ะ สุดจะห่วยสุดๆ ตั้งแต่มัธยมจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
1. สถานทูตจีน เขียนรายงาน (เป็นภาษาจีน) ระบุการศึกษาบ้านเราเน้นแต่ด้านศิลปศาสตร์ นิติฯ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การตลาด บริหารธุรกิจ ซึ่งจบมาแล้วไม่มีงานทำ ความรู้กระจอก สักแต่ให้มีปริญญา ไม่ได้สร้าง value-added ใดๆ นักวิทยาศาสตร์การวิจัยแทบจะเป็นศูนย์ Guanmu อดีตเอกอัครรทูตจีน บอกว่า 25 ปีที่ผ่านมา ไทยยังผลิตยางยังไงก็ยังทำแบบนั้น สร้างมูลค่าเพิ่มทำเป็นยางรถยนต์อะไรเองไม่เป็น สร้างคิดอะไรเองไม่ได้
2. มหาวิทยาลัยไทย รวมไปถึงธรรมศาสตร์จุฬาฯ กิจกรรมเน้นเต้นลีดโชว์หล่อสวย ไม่มีการฝึกงานอะไรที่เป็นประโยชน์ ขอเงินพ่อแม่เที่ยวกลางคืนเย้วไปวันๆ โชว์วัตถุนิยมว่ารถยี่ห้ออะไร สังคมมันวัดกันแค่นี้ (เห็นมากับตัว) พวกดีๆ ก็มีแต่มันน้อย เอาจริงๆ นะผมว่ามีแค่ 10% ในขณะที่เด็กสหรัฐฯ พวก MIT Stanford หรือเด็กจีนชิงหัวปิดเทอมพยายามหางานทำ ฝึกงาน UN World Bank JP Morgan หรือมาค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในไทย
3. จ่ายครบจบแน่ ปริญญาเต็มบ้าน คือหางานไรทำไม่ได้ มีแต่อยากจะรวย "ผมจะทำธุรกิจ" คือคิดไรไม่ออก นอกจากขายของ นอกจากนี้ยังทุจริตผันงบกระทรวงศึกษาให้ทุนกู้ยืมมหาวิทยาลัยเอกชน (ที่มีนักการเมืองเป็นเจ้าของ) สุดท้ายหนี้ศูนย์ เพราะเด็กบ้านนอกได้มาเข้ากรุง สักว่าจบปริญญาประดับบ้านแต่หางานทำไม่ได้ ปึหนี่งหมดเงินภาษีปชช. ไปหลายหมื่นล้าน เรื่องแบบนี้ไม่เคยถูกตรวจสอบ
...
4. ภาษาอังกฤษห่วยแตกขั้นเทพจริง อจ.จุฬาฯ ส่วนใหญ่ก็ลอกบทความฝรั่งมาแปลๆ ไม่มีความคิดอะไรใหม่ หาน้อยคนที่จบระดับโลก ไปดูCVเอาเองได้จบมหาลัยห้องแถว B-classทั้งนั้น งานวิจัย copy/paste เด็มไปหมด ครูมัธยมเอาแค่โรงเรียนในกรุงเทพฯ ผมเคยถูกเชิญไปพูด ยังออกเสียงสะกดศัพท์ไม่ถูกเลยจะสอนเด็กให้ถูกอย่างไร แล้วโรงเรียนใน อ.ปัว จ.น่าน มันจะห่วยแตกขนาดไหน
5.ความรู้ใหม่ๆ หรือเทคโนโลยี มันหมุนเวียนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งคนไทยรู้แต่ภาษาไทยตัวเอง ไม่มีความสามารถแข่งขันอะไรในระดับโลก โลกทรรศน์สุดจะแคบ สำนักข่าวไทยรายงานแต่เรื่องไม่ได้สร้างคุณค่าความรู้อะไร คนนั้นท้องกับคนนี้ ตำรวจตั้งด่านไถตังค์ไปวันๆ ไปทำงานมาหลายประเทศฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บอกเลยนักเรียนไทยจะขี้เกียจไม่รู้ปีหนึ่งอ่านหนังสือกันกี่เล่ม
ช่วยอ่านและวิจารณ์หน่อย...
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดว่า ทางสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ขอยืนยันว่า สิ่งที่กล่าวหาในบทความนี้ ไม่มีมูลเป็นจริง สถานทูตจีนมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือฉันมิตรด้านวัฒนธรรมและการศึกษาระหว่างจีนกับไทยมาตลอด ไม่เคยเขียนรายงานวิพากษ์วิจารณ์การศึกษาไทย ขอให้เพื่อนมิตรคนไทยทั้งหลายจงอย่าหลงเชื่อและเกิดความเข้าใจผิดกับข้อความดังกล่าว