ตำรวจจับครูสาวโรงเรียนสตรีชื่อดัง ลักโน้ตบุ๊กของโรงเรียนไปจำนำ สารภาพนำเงินมาหมุนใช้หนี้หวย หลังถูกจับตาหนีเข้าห้องน้ำ ขังตัวเองพยายามฆ่าตัวตาย แต่ช่วยเหลือทัน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 9 มี.ค. ที่ สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน และ ร.ต.ท.สายชล ทรงเดช รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.สดใส ชาประดิษฐ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 ถนนริมคลองด่าน แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม.พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อเดล จำนวน 5 เครื่อง และ ตั๋วจำนำ 39 ใบ โดยจับกุมตัวได้ในห้องพักครูของโรงเรียน
พ.ต.ท.ไกรวิทย์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 มี.ค. มีผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าวเข้าแจ้งความกับฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียนว่า จะมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการเข้ามาตรวจสอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของหลวงซึ่ง ทางโรงเรียนเบิกจากคลังมาเพื่อใช้ในการเรียนการสอนและให้บรรดาอาจารย์ยืมใช้ แต่ปรากฏว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ทั้งหมด 40 เครื่อง ได้สูญหายไปโดยสงสัยว่า น.ส.สดใส ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นข้าราชการครูฝ่ายมัลติมีเดียและมีส่วนรับผิดชอบใน การเบิกจ่ายน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สน.บางขุนเทียน จึงสั่งการให้นำกำลังไปตรวจสอบที่โรงเรียนและเรียกตัว น.ส.สดใส จากในห้องพักครูมาสอบสวน
...
พ.ต.ท.ไกรวิทย์ กล่าวว่า ระหว่างที่ น.ส.สดใส พบกับตำรวจก็เกิดอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำครู ไปขังตัวเองแล้วซดน้ำยาล้างห้องน้ำ จนเกิดอาการอาเจียนทำให้บรรดาเพื่อนครูอาจารย์ต้องรีบเข้าทำการปฐมพยาบาล ด้วยการให้ทานไข่ขาวเพื่อขับพิษออกมาในเบื้องต้น จากนั้นตำรวจจึงช่วยนำตัวส่ง รพ.ทหารเรือ ให้แพทย์ทำการล้างท้องช่วยชีวิตเอาไว้อย่างปลอดภัย
สอบสวน น.ส.สดใส ยอมรับว่า แอบขโมยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของหลวงไปจำนำจริง โดยเอาไปจำนำไว้ตามโรงรับจำนำย่านจอมทอง และบางปะแก้ว ทีละ 1-2 เครื่อง ทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 เพื่อหาเงินไปจ่ายค่าหวยใต้ดิน
“ที่ผ่านมาพอผู้ต้องหาเอาไปจำนำ ตามปกติก็จะหาเงิน 3,000-8,000 บาท ไปไถ่ถอนออกมาเก็บคืนตู้เซฟทางโรงเรียนเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่ระยะหลังหมุนเงินไม่ทันจึงแอบเอาไปจำนำทิ้งจนเกลี้ยงตู้ กว่า 40 เครื่อง จังหวะที่ทางราชการส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบสภาพคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จึงไม่มีเครื่องให้ตรวจสอบเรื่องก็แดงขึ้น เบื้องต้นชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์เบียดบังทรัพย์ไป โดยทุจริต ก่อนพาตัวส่งพนักงานสอบสวนและพาไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนที่ไม่นำตัวผู้ต้องหามาทำการแถลงข่าว เนื่องจากเกรงว่าหลังจากนี้จะเกิดอาการเครียดจนกลับไปคิดสั้นฆ่าตัวตายอีก” พ.ต.ท.ไกรวิทย์ กล่าว