สุดทึ่ง พระครูป่วยเป็นโรคท้าวแสนปมมากว่า 40 ปี แต่ไม่ย่อท้อ คงปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ ยอมรับช่วงแรกที่เป็นตุ่มตามเนื้อ ตัว ก็อยู่ลำบากคนไม่เข้าใจจะรังเกียจ แต่อาศัยทำใจให้ปล่อยวางจนชิน  วอนสังคมเข้าใจผู้ป่วย เป็นโรคจากพันธุกรรม ไม่ใช่โรคติดต่อ

ผู้สื่อ ข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ถึงเรื่องราวของพระที่ป่วยเป็นโรคผิวหนัง ร่างกายมีก้อนเนื้อขึ้นตะปุ่มตะป่ําเต็มทั้งตัว แต่ไม่ย่อท้อ ยังคงปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ ไม่หวั่นแม้คนจะมองด้วยสายตาแปลกๆ โดยล่าสุดยังได้เดินทางมาร่วมงานในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่มณฑลพิธีสนามหลวง กทม. ทำให้พุทธศาสนิกชนที่พบเห็นเกิดความสงสารร่วมทำบุญถวายปัจจัยช่วยเหลือเป็น ระยะ ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่าคือ พระครูปลัดธรสำอางค์ สุจิตตฺโต อายุ 83 ปี พระลูกวัดวัดสุทธาราม เขตคลองสาน กทม. ซึ่งเคยมีชื่อด้านปลุกเสกวัตถุมงคล กลืนตะปู เมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ปัจจุบันเก็บตัวเงียบเนื่องจากเป็นโรคท้าวแสนปม

เมื่อเดินทางไป ยังวัดสุทธาราม ก็พบพระครูปลัดธรสำอางค์ กำลังปฏิบัติศาสนกิจอยู่ภายในกุฏิ ซึ่งพระครูปลัดธรสำอางค์ กล่าวว่า อาตมาอุปสมบทเป็นพระเมื่ออายุ 23 ปี ในปี 2495 มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดอนงค์คาราม กทม. เป็นพระอุปัชฌาย์ ตอนนั้นอาตมามีร่างกายเหมือนคนปกติ กระทั่งปี 2512 มีตุ่มขึ้นบริเวณใบหน้า และลำตัวเพียงเล็กน้อย ภายใน 1 ปี ตุ่มขยายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไปปรึกษาแพทย์ รพ.พระมงกุฎเกล้า ทราบว่าเป็นโรคท้าวแสนปม ไม่มีทางรักษาหายขาด ทำได้เพียงทายาผิวหนัง และกินยาประคองอาการเท่านั้น เนื่องจากเป็นโรคผิวหนังที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม จากคุณแม่ของอาตมาที่เป็นโรคท้าวแสนปมเช่นกัน และภายใน 5 ปี เริ่มมีตุ่มขึ้นเป็นตะปุ่มตะป่ำขยายเต็มทั่วร่างกาย จนต้องทำใจยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่ เพื่อให้จิตใจสงบสุขดำรงชีวิตต่อไปให้ได้

พระครูปลัดธรสำอางค์กล่าว อีกว่า ตั้งแต่อาตมาเป็นโรคประหลาด ไม่เคยรู้สึกน้อยใจ คิดเพียงว่าทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ และภูมิใจที่ได้เกิดมาลืมตาดูโลกในเมืองไทย ส่วนการดำรงชีวิตช่วงแรกลำบากมาก แต่ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมความเป็นอยู่ใหม่ เพราะมีบางคนไม่เข้าใจจะรังเกียจร่างกายอันแปลกประหลาดนี้ จนอาตมาเกิดความเคยชินปล่อยวางหมดสิ้น แต่ในมุมมืดนั้นยังมีแสงสว่างแห่งความดีอยู่บ้าง เพราะคนส่วนใหญ่จะเข้ามาช่วยเหลืออาตมาตลอด แต่อย่างไรก็ตามคนเป็นโรคนี้มีอยู่มากในสังคม ไม่ใช่มีเพียงอาตมาเท่านั้น อยากให้สังคมเข้าใจ ไม่ควรรังเกียจคนเหล่านี้ เพราะการที่เขาเป็นโรคประหลาดช้ำใจพออยู่แล้ว แต่หากมีคนรังเกียจยิ่งเป็นการซ้ำเติมมากกว่าเดิม สังคมควรให้กำลังใจ เพื่อให้เขามีกำลังใจดำรงชีวิตต่อไป

ด้านพระพิศาลประชานาถ เจ้าอาวาสวัดสุทธาราม สำเหร่ กล่าวว่า พระสำอางค์ อุปสมบทก่อนเป็นโรคท้าวแสนปม และโรคดังกล่าวไม่ใช่โรคร้ายแรง หรือไม่เป็นโรคติดต่อ แต่เป็นเพียงโรคตามพันธุกรรม สามารถดำรงชีวิตตามปกติ และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ถือว่าไม่ผิดระเบียบทางสงฆ์ ทั้งนี้พระสำอางค์ เป็นพระอาวุโสชอบช่วยเหลือคนอื่น ท่านวางตัวปฏิบัติอยู่ในศีลธรรมของการเป็นพระสงฆ์อย่างดี มีลูกศิษย์เคารพมากมาย จึงอยากให้สังคม เข้าใจ ขณะที่ พระวิชิต วิชิโต พระลูกวัดสุทธาราม อายุ 85 ปี ก็กล่าวว่า รู้จักพระสำอางค์ มาตั้งแต่บวชใหม่ เมื่อ 60 ปีที่ผ่านมา ตามร่างกายเหมือนคนปกติ และมีหน้าตาหล่อพอสมควร จนตามผิวหนังร่างกายมีลักษณะตะปุ่มตะป่ํา ท่านเกรงว่าพระคนอื่นจะรังเกียจ จึงย้ายไปอยู่กุฏิเพียงลำพัง แต่ท่านเป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือทุกคนที่เดือดร้อน ทำให้ชาวบ้านรักและเคารพไม่มีใครรังเกียจ ทุกวันจะมีลูกศิษย์เข้ามาแวะเวียนเยี่ยมปรึกษาปัญหาบ่อยครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อสอบถามไปยัง นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เปิดเผยถึงโรคท้าวแสนปมว่า เกิดจากความผิดปกติถ่ายทอดพันธุกรรม แบ่งออก 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.เกิดตามผิวหนังตะปุ่มตะป่ำตามร่างกาย 2. นอกจากมีก้อนตะปุ่มตะป่ํา และระบบภายในร่างกายจะเกิดเส้นประสาทผิดปกติ กลุ่มนี้มีความรุนแรง มีผู้ป่วยเป็นน้อย ต้องรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ส่วนพระครูปลัดธรสำอางค์ จัดอยู่ในกลุ่มมีก้อนตะปุ่มตะป่ําตามผิวหนังเท่านั้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์ร่างกายแปลกประหลาด แต่โรคท้าวแสนปม เป็นโรคไม่ติดต่อ ถ่ายทอดกันทางพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูก และไม่สามารถป้องกันการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ส่วนการรักษาเป็นเพียงรักษาปลายเหตุ คือการผ่าตัดก้อนใหญ่มีผลต่อการดำรงชีวิต และไม่สามารถผ่าตัดทั้งตัวได้ แต่สิ่งที่ห่วงเกรงว่าก้อนเนื้อเหล่านี้ จะพัฒนากลายเป็นก้อนเนื้อมะเร็ง หากพบต้องผ่าตัดทันที

...