"ทีมกู้ชีพ" ปรับแผนค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม คาดเริ่มตัด ยกเหล็กจากด้านบน หวังให้มีปาฏิหาริย์ ลั่นไม่หนีกลับจนกว่าร่างสุดท้ายจะออกมา
เวลา 18.30 น. วันที่ 31 มี.ค. 68 นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ หรือ น้ายอด นคร45 ทีมกู้ภัยที่ร่วมค้นหาร่างผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่ม ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากเลยเวลา 72 ชั่วโมง คืนนี้หลัง 19.00 น. เราจะมีการประชุมกันเพื่อเริ่มใช้เครื่องมือหนัก และหวังว่าเราจะได้พบผู้ประสบภัยเป็นระยะมากกว่าเดิม
เมื่อถามว่าส่วนไหนที่เป็นอุปสรรคในการทำงานมากที่สุด เนื่องจากมีการแบ่งโซนกัน นายอัญวุฒิ ระบุว่า คืนนี้เราจะเริ่มปฏิบัติการใช้เครื่องมือหนัก จะต้องวางแผนให้พร้อมและให้ทุกหน่วยเข้าใจกัน เนื่องจากหากทุกคนไม่เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน อาจเกิดอันตรายกับผู้ปฏิบัติงาน คืนนี้หลังการประชุมร่วมกันการปฏิบัติการจะออกมาแบบไหน ทุกทีมจะต้องเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน แต่เท่าที่มองหน้างานขณะนี้ยังคงทำงานร่วมกันเหมือนเดิม เครื่องมือหนักจะเข้าไปเคลื่อนย้ายวัสดุ โดยจะเริ่มตัด ยก ย้าย ชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเยอะจากด้านบนก่อน เพื่อจะถ่ายน้ำหนักออกให้เร็วที่สุด คาดว่าจะเริ่มปูพรมที่โซน A และโซน D ก่อน
...
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพที่เป็นห้องโถงนั้น นายอัญวุฒิ ระบุว่า จริงๆ จุดนั้นหากทำไปแล้วไม่มีอันตราย จะมีทีมที่เข้าไปทำค้ำยัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถส่องกล้องหรืออุปกรณ์อื่นใดเข้าไปได้ลึกมากกว่าเดิม ต้องทำควบคู่กันไป แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังสำหรับผู้ปฏิบัติการทางด้านบนและด้านล่าง
เมื่อถามว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เคสในลักษณะแบบนี้ใช้ระยะเวลานานที่สุดเท่าไหร่ นายอัญวุฒิ เผยว่า เคสที่โรงแรมรอยัลพลาซ่า หลังจาก 72 ชั่วโมงเราก็ใช้เครื่องมือหนักแบบนี้ แต่พวกตนเป็นทีมที่มุดเข้าไปช่วยตัดเจาะ ระหว่างที่เครื่องมือใหญ่กำลังทำงานอยู่ไม่ได้ยินเสียงอะไร แต่เมื่อเครื่องมือหนักหยุดก็ได้ยินเสียง ซึ่งวันนั้นก็เป็นวันที่ 4 โดยตนได้ยินเสียงเคาะกระจก เจอตะโกนขอความร่วมมือให้ทุกคนเงียบและให้เสียงนั้นเคาะกระจกไปเรื่อยๆ อีกคนก็มุดหรือลงไปเป็นรูปตัว L พบข่าวดี ในเหตุการณ์แบบนี้เราอยากให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีก
นายอัญวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ณ ตอนนี้ 18.00 น. ทีมสามารถนำร่างผู้ประสบภัยออกมาได้อีก 1 ราย เป็นเพศหญิง จากโซน D โดยขณะนี้รอทีมเข้าไปก่อนนำส่งนิติเวช ซึ่งเป็นรายที่ 13 ของเหตุการณ์นี้
เมื่อถามต่อว่านอกจาก 13 รายแล้ว ยังมีรายอื่นอีกหรือไม่ที่ค้นหาเจอ นายอัญวุฒิ กล่าวว่า มีหลายจุด ทั้งค้นหาด้วยอุปกรณ์และส่งสุนัขเข้าไปค้นหาซ้ำ แต่เป็นจุดที่อยู่ลึก และมีอุปสรรคคือเมื่อเราขุดแล้วทีมยกวัสดุออกไปมันกลับเทลงมา ใช้เครื่องมือหนักเมื่อไรจะเป็นอันตราย โดยหลังจากนี้ไปจุดที่เป็นอันตรายแบบนั้นต้องมีการวางแผนให้รัดกุมที่สุด หลังจากนี้เมื่อมีการใช้เครื่องมือหนักอาจเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ก่อนหน้านี้ที่เรายังไม่ใช้เครื่องมือหนักเกรงว่าจะเกิดผลกระทบกับผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่
เมื่อถามว่าโซน C มีคอนกรีตขนาดใหญ่ห้อยอยู่นั้นเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติการหรือไม่ นายอัญวุฒิ เผยว่า ทุกช่วงเวลาที่ทางหัวหน้าทีมวิศวะเข้าไปตรวจสอบประเมินให้นั้นปลอดภัย มีการค้ำเอาไว้ให้ปลอดภัย เพราะหากมีการเคลื่อนตัวเจ้าหน้าที่จะส่งสัญญาณให้เพื่อให้เราหยุดทำงาน ขณะนี้ทุกทีมยังคงอยู่ครบ และจะเห็นภาพของทีมกู้ภัยจากต่างประเทศที่มีความชำนาญเกี่ยวกับเรื่องโครงสร้างพังถล่มเช่นนี้ มีอุปกรณ์คล้ายเราแต่มีการใช้งานมากกว่าเรา และมีความทันสมัยมากกว่าในอดีต โดยการช่วยเหลือปลอดภัยระวังอย่างเดียวขอให้ผู้ประสบภัยที่ยังอยู่ข้างในเข้มแข็ง อดทน พวกเราคนไทยทุกคนรวมใจส่งให้อยู่และเราจะไม่กลับ ไม่หนีไปไหนจนกว่าจะเอาคนสุดท้ายออกจากที่นี่ให้ได้
...
สำหรับกรณีในโซนลิฟต์ที่ผู้ว่าฯ บอกว่า จะมีผู้รอดชีวิตอยู่ตรงนั้นจำนวนมาก นายอัญวุฒิ เผยว่า ตรงนั้นมีทีมเข้าไปแล้ว แต่ทุกจุดที่ทีมได้ค้นหามีสัญญาณบ่งบอกว่าเจอมนุษย์หมดเลย ทั้งจากสุนัขค้นหา เครื่องมือเอกซเรย์ที่ส่งเข้าไป โดยวันแรกๆ ที่มีการช่วยเหลือได้เยอะ เนื่องจากอยู่ไม่ลึกและมีการตอบโต้กับเราได้
เมื่อถามว่าเครื่องจักรใหญ่จะสามารถใช้ได้เลยหรือไม่ นายอัญวุฒิ ระบุว่า หลัง 19.00 น. วันนี้ที่จะมีการประชุมใหญ่ แต่ขณะนี้เรามีการเริ่มใช้แล้ว
เมื่อถามต่อว่าสัญญาณชีพที่แสดงอยู่จะมีความเสี่ยงขนาดไหน นายอัญวุฒิ กล่าวว่า เท่าที่ประเมินการทำงานคงเป็นการตัดชิ้นส่วนขนาดใหญ่จากด้านบน ค่อยๆ ทยอยเอาออก
นายอัญวุฒิ ย้ำว่า คืนนี้ทุกหน่วยทั้งกองทัพไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมกู้ภัยและทีมจิตอาสาที่มีเครื่องมือมาร่วมค้นหาจะมีการประชุมกัน แต่ระหว่างประชุมทีมค้นหายังคงทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะในทีมปฏิบัติการเราให้เวลาทีมละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งใน 1 ทีม ประกอบด้วยทั้งกู้ชีพและกู้ภัย โดยทีมหนึ่งเกือบ 20 คนเนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้ามาช่วยด้วย บางโซนต้องมีการขุดเจาะ โยกย้าย ตัด จะมีการประสานอุปกรณ์ก่อนเข้าไป