คดี "แตงโม" ถูกฆ่า หรือตายเอง? "อ.ปานเทพ" เผยพิรุธ บาดแผลที่ขา อาจไม่สอดคล้องกับคำให้การของคนบนเรือ วอนอัยการรื้อคดี

วันที่ 20 ธ.ค. 67 ที่บ้านพระอาทิตย์ อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทยแผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นไม่ใช่มีเหตุอื่นใด แต่เพราะคำพิพากษาศาลอาญา คดีหมายเลขดำและแดง ที่ศาลอาญา ลงวันที่ 31 ต.ค.2567 ระหว่างพนักงานอัยการ กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และพวก สืบเนื่องมาจากตำรวจ 21 คน ฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาท กับ 3 บุคคลนี้ และศาลยกฟ้อง ทำให้ในฐานะสื่อต้องมาสนใจในเนื้อหาแห่งคดีนี้ ซึ่งแม้จะมีหลายประเด็น แต่จะให้ความสำคัญกับกรณีความผิดปกติในเรื่องของบาดแผล และนิติเวชเป็นหลัก ซึ่งสาเหตุที่ศาลพิพากษา ไม่ได้ระบุว่ามีการฆาตกรรม เพียงแต่ระบุว่า นายอัจฉริยะและพวก วิพากษ์วิจารณ์สุจริต เพราะมีเหตุอันควร เชื่อได้ว่ามีการทำที่ผิดปกติในกระบวนการที่เกิดขึ้น 

นอกจากนี้ ตนได้เจอกับ นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านแผล อุบัติเหตุ ยังได้คุยกับแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ด้วย และมีการพูดคุยเบื้องลึกกันบางประการ ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยในตอนนี้ได้ ซึ่งเป็นความผิดปกติของบาดแผล 

...

อาจารย์ปานเทพ ยังได้เปิดภาพส่วนประกอบเรือยนต์ เพื่อชี้ให้เห็นองค์ประกอบในใบพัด พร้อมระบุว่า เรือลำที่เกิดเหตุมีใบพัดเดียว ไม่ใช่ใบพัดคู่ ซึ่งหากดูจะเห็นว่า ขาหรือใครจะเข้าใกล้ใบพัดไม่ใช่เรื่องง่าย และสิ่งที่สำคัญคือชนิดของใบพัด ซึ่งหมายถึงใน 1 วงรอบของใบพัดที่หมุน บอกได้ว่าเรือแล่นไปได้กี่นิ้ว ข้อมูลเหล่านี้จะพิสูจน์ได้ว่าบาดแผลแตงโมเกิดขึ้นจากใบพัดหรือไม่

การแถลงครั้งนี้มองว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นกับดาราสาวไม่สอดคล้องกับคำให้การ และยังมีบาดแผลอีกจุดหนึ่งบริเวณหน้าขาด้านขวา เป็นรอยกรีดยาวลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็นของมีคม เรียบ หากเป็นใบพัดจริง ขาซ้ายจะต้องมีบาดแผลด้วย พร้อมบอกอีกว่าบาดแผลแตงโมย้อนแย้ง ทั้งบาดแผลแนวยาว และบาดแผลซ้ายขวาที่ยังไม่สอดคล้องกับใบพัด

นอกจากเรื่องการปัสสาวะที่ไม่น่าเป็นไปได้แล้ว จึงทำให้ต้องมีการหาข้อสมมติฐานว่าเกิดอะไรขึ้น หากไม่ได้ตกท้ายเรือ ไม่ได้ปัสสาวะ และแผลที่เกิดขึ้นเหล่านั้นอาจไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ซึ่งพบว่ายังมีความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งภาพที่ถ่ายคู่กับคนในเรือ คลื่นน้ำขัดแย้งกัน เรื่องของเวลาภาพถ่ายต่างๆ ทำให้เห็นว่าจากกรณีศพทวนน้ำ บาดแผลไม่ตรงกับใบพัด โดยการตั้งข้อสงสัยจากหมอธวัชชัย ว่าจุดที่สงสัยภาพไม่มีแตงโม ตั้งแต่ 20.36 น. เป็นต้นไป จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าแตงโมย้ายเรือไปอีกลำหนึ่ง หลัง 20.36 น. 

และยังมีพิรุธอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ได้แถลงในวันนี้ เพียงแต่ที่มาแถลง เพื่อต้องการจะบอกว่าหลังจากได้พูดคุยกับหมอธวัชชัยหลายครั้ง รวมถึงพูดคุยกับหมอพรทิพย์ ซึ่งหมอพรทิพย์พบแผลสำคัญที่เกิดความผิดปกติในคดีนี้ แต่ยังไม่ได้บอกตอนนี้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร แต่ยังค้างคาในใจ จนกว่าจะขึ้นศาล มิฉะนั้นอาจจะถูกทำลายพยานหลักฐาน ซึ่งตนได้เห็นแล้วอาจจะมีพิรุธและเงื่อนงำจริง บวกกับคำให้การที่เกิดขึ้นกับคำพิพากษาฉบับนี้ หากถอดรหัสละเอียดแล้วเข้าใจว่าทำไมนายอัจฉริยะ ถึงชนะคดีหมิ่นประมาทนี้ ทั้งที่ตำรวจรุมฟ้องอัจฉริยะ เหตุเมื่อถึงจุดที่ต้องเชิญหมอนิติเวชมา แต่หมอนิติเวชไม่มาให้การ ทำให้ศาลยกฟ้อง

จากพยานหลักฐานในคดีนี้ หมอธวัชชัย ก็ถูกตัดออกจากพยานคดีหลักเมื่อ ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนขึ้นให้การต่อศาล 5 วันเท่านั้น จึงมีพิรุธไปใหญ่ ว่าทำไมถึงตัดพยานสำคัญที่ชนะในคดีสำคัญ แล้วใครจะนำเสนอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, GPS ที่หมอจะอธิบายความเป็นไปของเรื่องที่เกิดขึ้น

จึงสนับสนุน ให้อัยการสูงสุด ผู้มีอำนาจชี้ขาด เป็นผู้ตัดสินใจเพื่อที่จะรื้อฟื้นคดี เพราะพยานและหลักฐานที่ถูกเรียกในตอนนี้ ไม่สอดคล้องกับคดีนายอัจฉริยะชนะคดีหมิ่นประมาทไป และถูกตัดออกด้วย