สาวขับเก๋ง ชนดะ 8 คัน กลางเมืองกรุงฯ ก่อนรถเกยฟุตปาธ ลงมาชักปืนจ่อนักท่องเที่ยวบนตุ๊กตุ๊ก โชคดีปืนไม่มีลูก ตรวจไม่พบสารเสพติดและแอลกอฮอล์ ญาติเผยต้องกินยาระงับประสาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ร.ต.อ.สุขสันต์ กันยาสนธิ์ รอง สว.จร.สน.ทุ่งมหาเมฆ กำลังอำนวยการจราจรอยู่บริเวณแยกเซนต์โยฯ ถนนสาทรเหนือ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสวนลุมฯว่า ให้สกัดจับรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 7361 กรุงเทพมหานคร ก่อเหตุเฉี่ยวชนรถยนต์หลายคันแล้วหลบหนี เหตุเกิดตั้งแต่บริเวณหน้าอาคารโครนอสสาทร ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ ยาวไปจนถึงแยกวิทยุ ถนนสาทรเหนือ จึงไปตรวจสอบพร้อม ส.ต.อ.ศวัสกร หนูรี ส.ต.ท.สถาพร พันธุ์งาม และ ส.ต.ท.ศุภวิชญ์ บัวเย็น ผบ.หมู่ จร. สน.ทุ่งมหาเมฆ เหตุเกิดกลางดึก วันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา
จากการติดตามรถคันดังกล่าว พบเกยบนฟุตปาธ ช่วงก่อนถึงแยกวิทยุประมาณ 20 เมตร สภาพมีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน และด้านขวายังเบียดกับด้านซ้ายของรถแท็กซี่โตโยต้า อัลทิส สีเหลือง ทะเบียน ทฬ 5952 กรุงเทพมหานคร ของ สหกรณ์มิตรแท้ จำกัด ได้รับความเสียหาย
...
ส่วนคนขับรถคันก่อเหตุลักษณะคล้ายสาวหล่อ ใส่เสื้อยืดลายทางขาวแดง กางเกงยีนส์ขาสามส่วน รอยสักเต็มตัว มีอาการคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืน วิ่งไล่ยิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 คน ที่นั่งอยู่บนรถสามล้อกับโชเฟอร์ จนนักท่องเที่ยวพากันหลบหนีจ้าละหวั่น ผู้คนแตกตื่นกันทั้งถนน โชคดีที่ปืนไม่มีลูก จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ร.ต.อ.สุขสันต์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย จึงได้ช่วยกันจับกุมตัวคนร้าย โดยช่วงชุลมุนคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนตบเข้าที่แก้มด้านซ้ายของ ส.ต.ท.สถาพร พันธุ์งาม ผบ.หมู่ จร. ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะจับกุมตัว น.ส.วิภานี (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ไว้ได้ พร้อมอาวุธปืนแบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. พร้อมแม็กกาซีน แต่ไม่มีลูกกระสุน ตรวจค้นในรถบริเวณใต้เบาะคนขับพบอาวุธมีดปลายแหลมพร้อมปลอก 1 เล่ม และเอกสารโอนลอยของอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จึงอายัดไว้เป็นของกลาง และแจ้งผู้เสียหายทั้งหมด 8 ราย ให้ไปพบกันที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
จากการสอบสวน น.ส.วิภานี ให้การคล้ายคนเมาว่า ตนมีอาชีพขับรถผ่านแอปฯ ออกจากบ้านย่านถนนราชพฤกษ์ ฝั่งธนฯ กำลังจะไปรับเพื่อนที่หัวลำโพง เมื่อมาถึงบริเวณหน้าอาคารโครนอส มีรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ที่ขับมาจากแยกวิทยุ แล้วมากลับรถหน้าอาคารโครนอส ตนขับมาหักหลบไม่ทัน จึงเฉี่ยวชนท้ายรถด้านซ้าย จากนั้นสติแตก รู้สึกเหมือนว่าถูกกดดัน จึงขับรถไล่ชนรถไปทั่ว กระทั่งรถปีนฟุตปาธไปต่อไม่ได้ รู้สึกเหมือนมีคนจ้องทำร้าย จึงถือปืนวิ่งออกไปยิงคนที่นั่งในรถสามล้อ แต่ปืนไม่มีลูก กระทั่งมาถูกจับกุมตัว ส่วนอาวุธปืน ตนเพิ่งซื้อมาได้ไม่กี่วันในราคา 2.5 หมื่น เจ้าของโอนลอยมา ยังไม่ได้ใส่ชื่อตนครอบครอง มีไว้ป้องกันตัวส่วนมีดก็เช่นกัน
ด้าน พ.ต.ท.กุลนันท์ อภินิตินันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า หลังจากรับตัวผู้ต้องหามาแล้ว ได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด และจับเป่าแอลกอฮอล์ ไม่พบทั้งสารเสพติดและแอลกอฮอล์ ส่วนที่มีญาติอ้างว่า ผู้ต้องหากินยาระงับประสาทก่อนออกจากบ้าน และมีประวัติการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยานั้น ต้องให้ญาตินำเอกสารมาแสดง ส่วนรถที่เสียหายในขณะนี้มีทั้งหมด 8 คัน
เบื้องต้นแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนข้อหาอื่นต้องรอสอบสวนผู้เสียหายว่าเข้าข่ายข้อหาใดอีกบ้าง
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บก็ต้องส่งตัวไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลตำรวจ ดูว่าเกิดจากอาวุธปืนหรือไม่ อาจต้องแจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และโชเฟอร์รถแท็กซี่ที่ได้รับบาดเจ็บคือ นายเกตุแก้ว โสนะโชติ อายุ 53 ปี ได้รับบาดเจ็บที่เท้าด้านซ้าย ส่งตัวไปรักษาบาดแผลเช่นกัน เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป.