เมื่อวันที่ 31 ก.ค.67 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการชำระหนี้การเดินรถให้กับ BTSC ว่า กทม.ต้องทำตามคำสั่งศาล โดยในวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมในเรื่องการใช้หนี้ ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า การไม่จ่ายเงินรถไฟฟ้าไม่ได้เริ่มในสมัยผู้บริหาร กทม.ชุดนี้ แต่เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ผู้บริหาร กทม.ในอดีต เมื่อผู้บริหารชุดนี้เข้ามาจะจ่ายเงินก็จ่ายไม่ได้ เพราะเรื่องอยู่ในขั้นตอนของศาล ซึ่งการจะจ่ายเงินนั้นมีขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อศาลสั่งมาแล้ว กทม.ก็เคารพ แต่เงินทุกบาทที่จะนำไปจ่าย จะต้องผ่านสภา กทม. ผู้บริหารไม่สามารถนำเงินไปจ่ายหนี้ได้ในทันที ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการของ กทม.ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 140 วัน แต่ กทม.จะรีบดำเนินการ เนื่องจากมีเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องคำนึงถึง
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ค่อนข้างหนักใจเพราะเป็นการใช้เงินจำนวนมหาศาล ทำให้ส่งผลกระทบต่อโครงการอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งโรงเรียน การศึกษา รวมถึงผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 8,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี จึงต้องหาเงินส่วนต่างถึง 6,000 ล้านบาท มาจ่ายสัญญาที่ทำไว้ในอนาคต จึงถือเป็นเรื่องที่หนักสำหรับ กทม. เนื่องจาก กทม.ได้รับงบประมาณเพียงปีละ 90,000 ล้านบาท ส่วนวิธีแก้ไขส่วนต่างที่เกิดขึ้น โดยการปรับขึ้นค่าโดยสาร ก็ไม่สามารถที่จะผลักภาระไปให้ประชาชนได้ จึงต้องพิจารณาให้ละเอียด
ต่อข้อถามการชำระหนี้เกือบ 40,000 ล้านบาท ตามที่เอกชนแถลง นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องว่าไปตามคำสั่งศาลคดีแรกก่อน ส่วนคดีที่ค้างอยู่ในศาลจะต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะมีการจ่ายหนี้อย่างไร โดยจะต้องดำเนินการทีละขั้นตอน และดูฐานะทางการเงินของ กทม.ประกอบด้วย ยืนยัน กทม. พยายามจะทำให้ดีที่สุด และที่ผ่านมา กทม. ได้จ่ายหนี้ค่า E&M จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาทไปแล้ว ดังนั้น เมื่อมีคำสั่งศาลมาจึงต้องดำเนินการหนี้ก้อนแรกก่อน ส่วนหนี้ก้อนอื่นๆจะต้องพิจารณาและจะทยอยจ่ายให้เอกชนต่อไป.
...
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่