เมื่อวันที่ 30 ก.ค.67 ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ BTSC แถลงข่าวกรณีศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้ กทม. และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด KT ร่วมกันชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่-บางหว้า และช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง (เดือน พ.ค.62-พ.ค.64) และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (เดือน เม.ย.60-พ.ค.64) จำนวน 11,755 ล้านบาท ว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันที่รอคอยนานแสนนาน ศาลปกครองสูงสุดตัดสินว่าสัญญาถูกต้อง การจัดซื้อจัดจ้างถูกต้อง ให้ กทม. และเคที จ่ายเงินต้น พร้อมดอกเบี้ย ฉะนั้นสิ่งที่เราทำมา ทำในสิ่งที่ถูกต้องตลอดเวลา หวังว่า กทม. และเคทีจะเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของเอกชนอย่างเรา ที่ไม่เคยหยุดให้เดินรถ จะเตรียมเจรจาการชำระหนี้ก้อนนี้อย่างไร บริษัทพร้อมเจรจาเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาทั้งสองฝ่าย

ประธาน BTSC กล่าวว่า คำพิพากษาเกี่ยวกับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงของศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้ จะเป็นแนวทางในการพิจารณาคดีในหนี้ส่วนที่เหลือต่อไป โดยหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงสิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ค.67 มีจำนวน 39,402 ล้านบาท แบ่งเป็น

1.ยอดหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.67 ที่ให้ กทม. และ KT ร่วมกันชำระให้กับบีทีเอสเป็นเงิน 1,755 ล้านบาท

2.ยอดหนี้ที่บีทีเอสได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 ให้ กทม. และ KT ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงให้กับบีทีเอสของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 (ตั้งแต่เดือน มิ.ย.64 ถึง ต.ค.65) เป็นเงิน 11,811 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง

...

3.ยอดหนี้ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน พ.ย.65 ถึง มิ.ย.67 ที่ยังค้างชำระ เป็นเงินจำนวน 13,513 ล้านบาท

4. ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ในอนาคต ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงสิ้นสุดสัมปทาน ปี พ.ศ.2585

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เป็นคดีตั้งแต่ก่อนเข้ามา ตั้งแต่ปี 64 ที่คนเก่าไม่จ่ายหนี้ เข้าใจว่ามีมูลเหตุมาจากคำสั่ง ม.44 ที่จะเอามูลหนี้ไปรวม เพื่อจะต่อสัญญา ซึ่งคำสั่งศาลออกมาชัดเจนและละเอียดมาก ทั้งนี้ กทม.ต้องทำตามคำสั่งศาล แต่ค่อนข้างกังวล เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก ขั้นตอนจากนี้จะต้องแจ้ง ครม. และแจ้งให้สภา กทม.ทราบก่อนว่า กทม.จะปฏิบัติตามคำสั่งศาล.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่