สารพัดเรื่องเล่าเก่าๆในนิยายสามก๊กที่พวกเราคุ้น แต่เมื่อ บุญศักดิ์ แสงระวี เอามาเล่าอีกในหนังสือกลศึกพิสดารสามก๊ก (สำนักพิมพ์แสงดาว พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2567) เช่นเรื่องต่อไปนี้ลองอ่านกันดู มีอะไรใหม่ๆหรือไม่?

กลอุบาย จริงในจริง เท็จในเท็จ จริงในเท็จ เท็จในจริง แม่ทัพสามก๊กใช้กันบ่อยๆ กลนี้บอกชื่อแปลกใหม่ กลเท็จในเท็จ น่าจะเป็นกลเดียวที่คนอื่นใช้ไม่ได้ นอกจากขงเบ้ง

ตอนที่ขงเบ้งยกทัพมาตีวุยก๊กครั้งแรก ม้าเจ๊กตั้งทัพผิดแผนเสียเกเต๋งประเดิมให้สุมาอี้

การศึกเป็นเช่นนี้ เริ่มด้วยการเสียหนึ่ง ก็มักทำให้เสียสอง การเสียเกเต๋งทำให้เส้นทางลำเลียงเสบียงอาหารต้องขาดสะบั้น ขงเบ้งไม่มีทางเลือก ต้องถอยทัพกลับฮันต๋ง จัดการให้แม่ทัพนายกอง นำทหารถอยนำหน้าไปแล้ว

ขงเบ้งรั้งท้ายอยู่ในเมืองเสเสีย เมืองเล็กๆมีทหารอยู่เพียง 2,500 คน

ทันทีม้าเร็วก็ส่งข่าว สุมาอี้คู่ศึกนำทหารสิบห้าหมื่นมุ่งตรงมา

ขงเบ้งตกใจ ทหารที่อยู่ด้วยกันก็ใจเสียหน้าซีดปากสั่น ทหาร 2,500 คน สู้กับสุมาอี้สิบห้าหมื่นได้แบบไหน?

ความจริงแม่ทัพระดับขงเบ้งก็วิตก แต่เมื่อคิดได้ แม้จะนำทหารหนีตอนนี้ ก็หนีไปไม่ได้ไกล เสร็จสุมาอี้อยู่ดี

อุบายเท็จในเท็จมีความเสี่ยงสูง แต่ไม่มีทางเลือกแล้ว จำเป็นต้องใช้

ขงเบ้งสั่งทหารเก็บธงทิวที่ปักบนเชิงเทินเมืองเสเสียออก สั่งทหารเข้าไปหลบซ่อนเงียบอยู่ในบ้าน

เปิดประตูเมืองไว้ทั้งสี่ทิศ แต่ละประตูจัดชาวบ้าน 20 คน ตั้งหน้ากวาดพื้นทำความสะอาด

ขงเบ้งแต่งกายใหม่ในชุดโอ่อ่าภูมิฐาน สั่งเด็กรับใช้สองคนนำพิณ ขึ้นไปบนเชิงเทิน ประตูทิศที่ทัพสุมาอี้กำลังตรงเข้ามา สั่งตั้งกระถางธูปจุดให้มีควัน สั่งเด็กคนหนึ่งยืนถือกระบี่ เด็กอีกคนยืนถือแส้ขนาบสองข้าง

...

แล้วตัวสุมาอี้ก็นั่งดีดพิณเล่นด้วยท่วงทีเบิกบาน

ทหารสุมาอี้เดินทัพเร็วรี่มาถึง โห่ร้องข่มขวัญท่ามกลางฝุ่นฟุ้ง พอเห็นภาพตรงหน้าประตูเมืองเปิดกว้าง มีชาวบ้านกวาดพื้นไม่กี่คน บนเชิงเทินมีเสียงพิณ เสียงกังวานหวานหู เห็นขงเบ้งสงบนิ่งไม่สะทกสะท้าน

เสียงโห่ร้องหยุด...ความเงียบของเมืองเสเสีย สะกดทหารสุมาอี้ตะลึง

สุมาอี้ได้รับรายงานหัวเราะร่า “ขงเบ้งรู้ว่าเรายกทัพมาสิบห้าหมื่น จะบังอาจถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?”

แล้วก็ขี่ม้าเข้ามาดูใกล้ๆ เห็นขงเบ้งหน้าตาแช่มชื่น ท่วงทำนองเสียงพิณก็แว่วกังวานเป็นจังหวะจะโคน

สุมาอี้ขงเบ้ง เคยรบทัพจับศึกกันหลายครั้ง รู้เชิงกันดี คิดถึงตรงนี้ สุมาอี้ก็สะดุ้งเฮือกเย็นเยือกเข้าหัวใจ สั่งให้ทัพหน้าเป็นทัพหลังทัพหลังเป็นทัพหน้า ตัวเองหันม้ากลับ ขับม้าทะยานหนีแบบไม่คิดชีวิต

สุมาเจียว บุตรชายไม่รู้อีโหน่อีเหน่ พ่อหนีอะไรกะทันหันปานนั้น ก็ควบม้าตามมา

พอทันก็ยึดม้าสุมาอี้ ถาม “พ่อหนีอะไร กลัวกลลวงง่ายๆขงเบ้งนี้ ได้ยังไง?”

“เจ้ายังอ่อนเยาว์นัก” สุมาอี้บอก “ยังไม่สันทัดกลศึกขงเบ้ง คนอย่างขงเบ้ง จะทำการสิ่งใดก็สุขุมรอบคอบได้ผล ขืนเจ้าทำตามสิ่งที่เห็น ก็คงเจอกลลวงขงเบ้ง พากันตายเสียสิ้น”

อุบายเท็จในเท็จ ที่บุญศักดิ์ แสงระวี เล่าใหม่ ก็คือกลเมืองว่าง ที่เราอ่านกันมาแล้ว

กลเท็จในเท็จ ใช่ว่าจะไม่มีในบ้านเมือง กระบวนการเลือกตั้ง สว.พิสดาร ที่กำลังกล่าวขานกัน...คิดบ้างไหม? เป็นความตั้งใจ

ใครจะคิดแค่ว่างานนี้อนุทินพลิกเกมสูสีทักษิณก็คิดไป แต่ผมคิดว่า สว.ใหม่ชุดนี้มีทิศทางเชื่อมโยงอำนาจเก่า ยังไงๆก็ดีกว่ามีทหารขี่รถถังออกถนน

ทุกเรื่องในโลกนี้มีมุมดีๆให้เลือกมอง ทำใจได้ไม่ยากนัก หากจะมองว่า สว.ชุดนี้มีมากู้บ้านเมือง.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม