แฉครูหื่นสอนดนตรีไทยโรงเรียนดังในพื้นที่สน.ทองหล่อ ก่อเหตุละเมิดทางเพศกับลูกศิษย์มาราธอน รวมทั้งหมด 105 ครั้ง พบหลักฐานเป็นคลิปและภาพนิ่งชัดเจนทั้งในห้องซ้อมดนตรีไทย ห้องพักครู โรงอาหาร เหตุเรื่องแดงเพราะเด็กเริ่มต่อต้านเลยถูกเตะจนไม่พอใจนำเรื่องมาเล่าให้แม่ฟัง เบื้องต้นยังพบเหยื่อเพียงรายเดียว ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่ม เตรียมคุมตัวไปฝากขังเวลา 10.30 น. วันที่ 27 มิ.ย.

เป็นเคสสั่นสะเทือนวงการศึกษาอีกครั้ง จากกรณีมารดาพาบุตรชายที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.3 ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ทองหล่อ เข้าขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกครูหนุ่มสอนดนตรีไทยกระทำอนาจารล่วงละเมิดทางเพศต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 2 ปีด้วยพฤติกรรมรุนแรง ก่อนตำรวจจะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมหลักฐานสำคัญ คลิปอนาจารเด็กชายจำนวนมากในโทรศัพท์มือถือของเจ้าตัว ทั้งหมดอยู่ระหว่างการขยายผล

เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.อัครพล ธนธรรม รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงความคืบหน้าว่า หลังจากที่เพจสายไหมต้องรอดพามารดาของนายนัท (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อให้ดำเนินคดีกับครูบุ๊ก-จ.ส.อ.ธรรณ์ธรรศ ดุริยาภิรมย์ อายุ 36 ปี ตำแหน่งครูชำนาญการ สอนดนตรีไทย ทางคณะพนักงานสอบสวน บก.น.5 ประกอบด้วย พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ธนาวุฒิ สงวนสุข ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.5 พ.ต.ท.หญิง สุพรรณา ต้นตระกูลรัตน์ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ทองหล่อ ร.ต.ท.อุนนุวา อิสอ รอง สว. (สอบสวน) สน.ทองหล่อ ร่วมกันสอบปากคำมารดาของเหยื่อครูหื่นรายนี้ได้ข้อสรุปเมื่อประมาณปลายเดือน พ.ค.66 ขณะที่นายนัท ผู้เสียหายอายุ 14 ปี ศึกษาอยู่ชั้น ม.2 ถูกผู้ต้องหาเป็นอาจารย์ประจำชั้นเรียกตัวไปที่ห้องดนตรีไทยของโรงเรียน ก่อนบังคับให้นายนัทใช้ปากอมอวัยวะเพศของผู้ต้องหา

...

จากนั้นนายนัทถูกเรียกตัวไปอมนกเขาของครูหื่นรายนี้ทุกวันที่เปิดเรียนและวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ที่เหยื่อต้องมาเรียนดนตรีไทยที่โรงเรียนรวมทั้งในช่วงปิดภาคเรียน รวมทั้งหมดประมาณ 103 ครั้งในลักษณะต่างฝ่ายต่างผลัดกันอม นอกจากนี้เหยื่อยังเคยถูกข่มขืนทางทวารหนัก 2 ครั้ง ในช่วงเดือน ต.ค.66 และ ก.พ.67 ต่อมาเมื่อผู้เสียหายมีอายุครบ 15 ปี ก็ยังถูกกระทำต่อเนื่องจนถึงวันที่ 24 พ.ค.67 เป็นครั้งสุดท้ายที่ถูกกระทำ จากนั้นนายนัทเริ่มต่อต้านไม่ยอมไปพบผู้ต้องหาเลยถูกเตะเข้าที่ลำตัว 1 ครั้ง เรื่องทั้งหมดเลยถูกเปิดโปงจากปากของเหยื่อ ก่อนมารดาจะเข้าขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด รวมแล้วเหยื่อรายนี้ถูกละเมิดทางเพศมากถึง 105 ครั้ง

“หลังทราบเรื่อง พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า รอง ผบก.น.5 และผมสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปคุมตัวผู้ต้องหามาจากโรงเรียน ก่อนตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องและแฟลชไดรฟ์ 1 อันเป็นของผู้ต้องหา เบื้องต้นพบภาพลามกระหว่างผู้ต้องหากับผู้เสียหายอย่างชัดเจน รวมทั้งมีภาพอนาจารของบุคคลอื่นอีกจำนวนมาก แจ้งข้อหาฐานมีสื่อลามกอนาจารเด็กไว้ในความครอบครอง รวมทั้งข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอน อาทิ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช้ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร คดีนี้ความผิดส่วนใหญ่เกิดในห้องซ้อมดนตรีไทย ห้องพักครูโรงอาหาร ขณะนี้ยังพบเหยื่อเพียงรายเดียวแต่ยังอยู่ระหว่างขยายผล ขณะที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ถ่ายคลิปไว้ดูเอง ไม่ได้เผยแพร่หรือจำหน่ายจ่ายแจกอย่างใด” พ.ต.อ.พันษากล่าว

มีรายงานว่า ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตร.เพื่อหาร่องรอยการล่วงละเมิด พร้อมทำหนังสือถึง ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุเพื่อขอตรวจสอบประวัติครูผู้ต้องหารวมทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังจนถึงปัจจุบัน เพื่อนำมาประกอบในสำนวนและในวันที่ 27 มิ.ย. เวลา 10.30 น.พนักงานสอบสวนเตรียมนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ทำหนังสือคัดค้านการประกันตัวเพราะเป็นการกระทำอุกอาจและเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ต่อมาเวลา 14.30 น. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาฯ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาฯ กพฐ. นายอนันต์ศักดิ์ ภูพลผัน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพฯเขต 2 นายสมศักดิ์ สนกนก ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา มท.1 และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ประชุมหารือถึงเรื่องนี้

หลังประชุมร่วมนานกว่า 1 ชั่วโมง ว่าที่ร้อยตรีธนุเปิดเผยว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ต้องรายงานผลภายใน 7 วัน เบื้องต้นให้ครูคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนและให้มีผลทันทีพร้อมพิจารณาพักใช้ใบอนุญาต สั่งกำชับไปยังทุกโรงเรียนในสังกัด สพฐ. หากมีกิจกรรมหลังเลิกเรียนหรือครูต้องอยู่ลำพังกับลูกศิษย์ ต้องมีผู้ควบคุมเข้ามาสังเกตการณ์ห้ามปล่อยให้อยู่ตามลำพัง นอกจากนี้ที่ประชุมตกลงร่วมกันว่าจะเยียวยาสภาพจิตใจผู้เสียหาย ประสานนักจิตวิทยาจากกรมสุขภาพจิตเข้ามาดูแล ทั้งนี้ ผู้เสียหายยืนยันจะศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ต่อไป

เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ นำกำลังควบคุมตัวครูบุ๊ก-จ.ส.อ.ธรรณ์ธรรศ ดุริยาภิรมย์ ผู้ก่อเหตุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุภายในห้องพักครูที่อยู่ในห้องเรียนดนตรีไทยของโรงเรียนและที่โรงอาหารจุดที่เหยื่อถูกทำร้ายร่างกายใช้เวลาทำแผน 2 จุด นานประมาณ 15 นาที ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมขณะชี้จุดทำแผนฯ ทั้งนี้ ระหว่างการทำแผนฯมีบุคลากรในโรงเรียนและญาติเหยื่อตะโกนด่าผู้ต้องหา จากนั้นตำรวจคุมตัวผู้ต้องหากลับไปสอบปากคำต่อที่ สน.ทองหล่อ

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่