ETDA ปิดฉากความสำเร็จ DGT 2024: Digital Momentum for the Future "รัฐ-เอกชน" ร่วมงานทะลุ 9,000 คน ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางแห่งเศรษฐกิจดิจิทัล
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 67 สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศความสำเร็จการจัดงานใหญ่ DGT 2024 (Digital Governance Thailand 2024) ภายใต้แนวคิด “Digital Momentum for the Future” ตลอด 2 วัน เมื่อวันที่ 29-30 พ.ค. 67 ภาครัฐ-เอกชน ร่วมงานทะลุเป้า ทั้งออนไซต์และออนไลน์ รวม 9,732 คน ขยายเครือข่ายความร่วมมือกว่า 120 หน่วยงานชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ปิดดีลเจรจาธุรกิจเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กว่า 300 คู่ ตอกย้ำความสำเร็จของงาน DGT 2024 สู่การเป็นแลนด์มาร์กศูนย์กลางแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อผู้ประกอบการ SMEs แห่งใหม่
นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า งาน DGT 2024 หรือ Digital Governance Thailand 2024 ในปีนี้ ทาง ETDA ได้จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “Digital Momentum for the Future” เมื่อวันที่ 29-30 พ.ค. 67 ถือเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ประจำปีของ ETDA ที่ได้ผนึกกำลังพาร์ตเนอร์ทั้งภาครัฐ เอกชน สมาพันธ์ สมาคม ตลอดจน Tech Company และ Service Provider ชั้นนำของไทยและต่างประเทศ รวมกว่า 120 หน่วยงาน มาร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นเพื่อเป็นแลนด์มาร์กแห่งอนาคตที่จะสร้างปรากฏการณ์ทางดิจิทัล พร้อมๆ กับการจุดประกายมุมมองและความคิดแก่คนไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ให้มีความพร้อมสามารถต่อยอดการทำงานและการทำธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพไปกับโซลูชัน เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ โดยงาน DGT 2024 ปีนี้ จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว ยังคงได้รับการตอบรับและความสนใจจากพาร์ตเนอร์ ผู้ประกอบการ SMEs ตลอดประชาชน นิสิต นักศึกษา ที่มาร่วมเรียนรู้ แลกเปลี่ยนและร่วมกำหนดอนาคตดิจิทัลทั้งแบบออนไซต์และผ่านทางออนไลน์ จากการรับชมสดทาง Facebook เพจ ETDA Thailand ทะลุเกินเป้า รวมทั้งสิ้น 9,732 คน
...
ซึ่งหนึ่งในความพิเศษของงานในปีนี้ได้มี Stage forum ที่ได้พาไปพบกับประเด็นร้อนระดับ Global ไม่ว่าจะเป็น AI for Sustainable Development ที่ได้รับเกียรติจากผู้บริหารจากทาง UNESCO ก่อนต่อด้วยทัพของ Speaker จากหน่วยงานชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 50 ท่าน เช่น Google, META, Microsoft, World Economic Forum (WEF), Lazada, Robinhood, SEA (Thailand) ฯลฯ มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง องค์ความรู้และประสบการณ์กันแบบใกล้ชิด ตั้งแต่มุมมองระดับ Policy level ไปจนถึง Lifestyle ของผู้บริโภค ตลอดจนทักษะที่คนไทยควรให้ความสำคัญในยุคดิจิทัล
นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยกิจกรรม Business Matching & Consulting ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและ SMEs ที่สนใจ มาปรึกษาและพูดคุยเพื่อหาโซลูชั่นใหม่ๆ ไปกับ Service Provider มืออาชีพจากกว่า 80 บริษัท ใน 9 Categories เช่น ด้านการบริหารจัดการด้านการเงินและการบัญชี, บริการด้าน Chat bot, บริการด้าน CRM และ Marketing, บริการด้าน Logistics และบริการสนับสนุนงาน HR เป็นต้น ที่ได้นำบริการเทคโนโลยีและโซลูชันมาให้ทดลองใช้ ซึ่งจาก 2 วันของการจัดงาน มีผู้ที่สนใจมาปรึกษาพร้อมจับคู่ทางธุรกิจไปแล้วกว่า 300 คู่ และในงานยังมี Showcase สินค้าชุมชนที่มีการขยายฐานลูกค้าให้กับผู้ประกอบการระดับชุมชนที่มาจากเครือข่ายในโครงการ ETDA Local Digital Coach (ELDC) ที่ ETDA ได้ผลักดันผ่านชุมชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขยายลูกค้าผ่านออนไลน์ ทั้งจากจังหวัดสกลนคร นครศรีธรรมราช และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสสู่การเพิ่มรายได้และต่อยอดฐานลูกค้าภายในงานด้วย นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของ DGT 2024 ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในการร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในระดับภูมิภาค สู่การสร้างกำลังพลด้านดิจิทัลที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ETDA พร้อมด้วย มหาวิทยาลัยบูรพา ยังได้ร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) ด้าน Digital Transformation เร่งเครื่องสร้างกำลังคนด้านดิจิทัลของไทย เพื่อต่อยอดความร่วมมือทั้งในมุมของการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยี รวมถึงกันส่งเสริมการ Transformation องค์กรเพื่อเข้าสู่การเป็น Smart Office และจัดตั้งศูนย์ประสานงานความร่วมมือ ส่งเสริมด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่ภาคตะวันออกด้วย
"ความสำเร็จของ DGT 2024 จากตัวเลขของผู้ร่วมงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยทุกอุตสาหกรรมต่างตื่นตัวและแสวงหาโอกาสในการได้เรียนรู้กับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการ ตลอดจนเพื่อเป็นแรงผลักดันสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub) ซึ่งงาน DGT 2024 ไม่เพียงเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมพาร์ตเนอร์จากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนผู้ใช้งานได้มาพบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่ง Momentum ที่สำคัญของประเทศที่จะเปิดพื้นที่โชว์เคส นวัตกรรมและความร่วมมือที่มาได้มองแค่ในปัจจุบันแต่ยังมองไปยังอนาคต ที่ช่วย enable ร่วมกันกำหนดทิศทางสร้างสรรค์อนาคตดิจิทัลให้กับเราทุกคนไปพร้อมกันได้อย่างยั่งยืนต่อไป" นายชัยชนะ กล่าวทิ้งท้าย.
...