ไฟไหม้ตลาดศรีสมรัตน์ หลังเจเจมอลล์ เผาโซนค้าสัตว์-วอด 118 ร้าน จนท.ใช้เวลาควบคุมเพลิงกว่า 1 ชม. พบซากสัตว์ถูกไฟคลอกตายเกลื่อน คาดไฟฟ้าลัดวงจร-ความเสียหายหลายล้านบาท สนง.เขตตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 11 มิ.ย. 67 ร.ต.ท.ณัฐพงศ์ ปิยนามวณิช รอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในตลาดศรีสมรัตน์ ด้านหลังตลาดเจเจมอลล์ ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิง 10 คัน
ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับตลาดนัดจตุจักร แบ่งเป็นล็อกขายสัตว์ต่างๆ จำนวน 118 ห้อง มีชั้นลอยสำหรับเก็บของและห้องพักของคนดูแลร้าน เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนไหม้เต็มพื้นที่ เจ้าหน้าที่ระดมใช้น้ำฉีดเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ เบื้องต้นเพลิงเผาวอดเสียหายทั้งหมด 118 ห้อง
จากการสอบสวน น.ส.หมีชา แลเชอ อายุ 36 ปี พนักงานขายของร้านเจ๊หนึ่ง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนนอนเฝ้านกแปลกและนกหายากอยู่บนชั้นลอยของร้าน ได้ยินเสียงดังของสัตว์เลี้ยงนานาชนิด มีกลุ่มควันปกคลุมเต็มพื้นที่จนหายใจไม่ออก ต้องปีนหน้าต่างกระโดดหนีตายลงมาจากชั้นบน ส่วนสัตว์เลี้ยงในร้านตายทั้งหมด นกที่มีราคาแพงที่สุดคือ นกกระตั้ว ตัวละ 3 หมื่นบาท ซึ่งตอนนี้เจ้าของร้านทราบเรื่องแล้วกำลังเดินทางมา
ด้าน นายศักดา บรรพจุลจินดา อายุ 54 ปี เจ้าของร้านทีเค ฟาร์ม กล่าวว่า ตนมีร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ ขายสัตว์แปลกนำเข้าจากต่างประเทศนานาชนิด ราคาตัวละตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน รวมมูลค่าในร้านนับสิบล้านบาท โชคดีที่ไม่ถูกไฟไหม้ ส่วนตลาดที่เกิดเหตุขายสินค้าประเภทสัตว์เช่นเดียวกัน เพลิงเกิดจากร้านหัวมุมถนนที่แต่ก่อนขายนก ชื่อร้านแองเจิ้ล เบิร์ด ช็อป ตอนนี้เปลี่ยนเป็นขายสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น พุดเดิ้ล ชิสุ และปอมฯ โดยเจ้าของร้านเลี้ยงและขายกันเอง ไม่มีลูกจ้าง กลางคืนก็จะเปิดพัดลมไว้ให้สุนัขทั้งคืน คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจรทำให้เกิดเหตุดังกล่าว สำหรับความเสียหายมีสัตว์เลี้ยงตายคาดว่านับพันตัว ประกอบด้วย ปลาสวยงาม แมว สุนัข สัตว์แปลก เช่น หงส์ นก ลิง ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ ราคาตัวละหลักหมื่นจนถึงหลักแสน มูลค่ารวมน่าจะหลายล้านบาท โดยบางร้านจะมีพนักงานนอนเฝ้าอยู่บนชั้นลอย บางร้านใช้เป็นที่เก็บของ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
...
เบื้องต้นเจ้าของร้านทุกร้านทราบเรื่องแล้ว ซึ่งทางสำนักงานเขตจตุจักร ได้ตั้งโต๊ะให้เจ้าของร้านมาลงทะเบียน และรวมมูลค่าความเสียหายของแต่ละร้านเพื่อหาทางช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งในช่วงสายจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาจุดเกิดเหตุและสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.