แม่พาเด็กชาย 14 เหยื่อ “หมอเหรียญทอง” ทำร้ายร่างกาย จับแก้ผ้าปล่อยกลับบ้าน ให้การพนักงานสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพแล้วทนายร้องดำเนินคดีอาญา 5 ข้อหา แม่ประกาศไม่ไกล่เกลี่ยจะดำเนินคดีถึงที่สุด ตำรวจรอผลตรวจร่างกายผู้เสียหาย พร้อมรวบรวมหลักฐานออกหมายเรียกมาดำเนินคดี ด้าน ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยอมรับผิด อ้างไม่รู้ว่าเป็นเยาวชนแค่ต้องการสั่งสอน ระหว่างแม่มารับทรัพย์สินลูกคืน ตะลึงพบผงสีขาวปริศนาในถุงซิปล็อก เจ้าตัวบุกพบตำรวจรับว่าเป็นเฮโรอีน ซื้อจากแถวบ้านราคา 50 บาท แต่ตำรวจยังส่ง พฐ.ตรวจยืนยัน ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีต่อไป
กรณี น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 31 ปี พาลูกชาย ด.ช.เอ วัย 14 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ หลายข้อหา หลัง ด.ช.เอ พาภรรยาวัย 17 ปี ไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลแล้วแอบไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำแผนกผู้ป่วยนอกจนกลิ่นควันเข้าไปในระบบ ผู้ป่วยที่รอการรักษาและญาติ ร้องเรียน หลังถูก รปภ.เข้าควบคุมตัวให้เสียค่าปรับ 5,000 บาท แต่ ด.ช.เอไม่มีให้แถมยังท้าทาย จึงรายงานหมอเหรียญทองเดินทางมาดุด่า แถมทำร้ายร่างกายตบหน้าหลายครั้ง ยึดโทรศัพท์มือถือและให้แก้ผ้าเดินออกจากโรงพยาบาลตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าจาก สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 15 พ.ค. นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ น.ส.น้อย มารดา ด.ช.เอ อายุ 14 ปี และภรรยาวัย 17 ปี เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนพร้อมสหวิชาชีพตามนัด นายรัชพลกล่าวว่า วันนี้ตนขอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบความผิดคู่กรณีทั้งหมด 5 ข้อหา ได้แก่ 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนทำให้เป็นเหตุให้เกิดการทำร้ายจิตใจ 2.ยักยอกทรัพย์ 3.ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือทำให้เกรงกลัวอันตรายและเสรีภาพ 4.กักขังหน่วงเหนี่ยว และ 5.กระทำอนาจาร ต้องรอพนักงานสอบสวนพิจารณาว่าเข้าข่ายหรือไม่
...
“ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลใช้อำนาจเกินขอบเขตดำเนินการกับผู้เสียหายในโรงพยาบาล เนื่องจากผู้เสียหายกระทำผิดกฎโรงพยาบาลนั้นควรต้องทำตามกฎหมาย กฎหมายมีบทลงโทษอยู่ไม่ควรตัดสินหรือลงโทษเอง และไม่ใช่เห็นว่าผู้เสียหายมารักษาฟรีแล้วจะทำอะไรก็ได้ การกระทำดังกล่าวนอกเหนือกฎหมาย ผมยอมรับว่าคู่กรณีมีความเป็นสุภาพบุรุษเพราะออกมายอมรับสิ่งที่ทำลงไป แต่ไม่ได้ติดต่อกับคู่กรณีเพราะอีกฝ่ายไม่อยากเจรจา ส่วนการตรวจร่างกายต้องรอผลอีกทีว่า จะออกมาเป็นอย่างไร ร้ายแรงแค่ไหน” ทนายรัชพลกล่าว
ด้าน น.ส.น้อยกล่าวว่า ขอโทษและยอมรับกับการที่ลูกไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำจริง แต่สิ่งที่คู่กรณีทำกับลูกเกินกว่าเหตุ ตนไม่เคยกระทำกับลูกเช่นนี้มาก่อน ทางคู่กรณียังไม่ได้ติดต่อมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่ยืนยันถึงขอโทษ คืนทรัพย์สิน หรือยกเลิกการจ่ายค่าปรับ ตนยังดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอยู่เช่นเดิม ลูกตนไม่ใช่คนดี สิ่งที่ทำผิดตนยอมรับ แต่สิ่งที่พวกคุณทำผิด ต้องยอมรับด้วยเช่นกัน
ส่วน ด.ช.เอกล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าการสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลเป็นเรื่องผิด หลังถูกไล่ออกมาจากโรงพยาบาล เดินไปขอความช่วยเหลือจากประชาชนแถวนั้นให้ติดต่อแม่ นั่งรถแท็กซี่มารับที่โรงพยาบาล ส่วนที่คู่กรณีออกมาโพสต์ว่า ตนยกพวกขี่รถ จยย.ไปก่อกวนที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ
ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ เวลา 11.00 น. พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เผยว่า กรณีเยาวชนชายอายุ 14 ปี มาสูบบุหรี่ที่แผนกผู้ป่วยนอกชั้น 1 อาคาร 3 เป็นอาคารใหม่ส่งกลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศคละคลุ้งทั่วพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ป่วยที่รอตรวจ รู้กันดีอยู่แล้วว่าการสูดควันบุหรี่เป็นสารก่อมะเร็งปอด อันตรายแค่ไหน ทั้งที่ รพ.มงกุฎวัฒนะประกาศจัดการผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดรุนแรง มีประกาศเสียงตามสายทุก 2 ชม.แต่ยังฝ่าฝืน ตนจึงจัดการเยาวชนรายนี้อย่างดุเดือดรุนแรง ตบไป 3-4 ครั้ง เตะไป 1 ครั้ง และสั่งให้แก้ผ้าออกไปจากโรงพยาบาล ตนยอมรับผิดในส่วนนี้และตั้งใจอนาจารเพื่อสั่งสอน แต่หลังจากนั้นมีแก๊ง จยย.ขี่มาข่มขู่เสียงดังหน้า รพ. 6-7 คัน
“ต้องบอกว่าการสูบบุหรี่ไม่ใช่แค่อันตรายต่อสุขภาพ แต่สร้างความสุ่มเสี่ยงต่ออัคคีภัย สุ่มเสี่ยงเกิดโศกนาฏกรรม เพราะเคยเกิดอัคคีภัยที่ รพ.มงกุฎวัฒนะมาแล้วถึง 2 ครั้ง ปี 2558 และ 2564 ผมต้องเป็นคนรับผิดชอบ แต่คนก่อเหตุไม่โดนอะไรเลยทางโรงพยาบาลประกาศต่อสาธารณะมาเสมอว่า เราไม่ง้อ ไม่สนผู้ใช้บริการที่เป็นกุ๊ยอันธพาล เกเร คิดจะฝ่าฝืนสูบบุหรี่เกเรอวดเบ่งกับบุคลากรทางการแพทย์ ทำอะไรตามอำเภอใจขอเชิญไป รพ.อื่น ผมทำแบบนี้กับทุกคนไม่ใช่แค่เยาวชนรายนี้ ไม่สนว่ากระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่เพราะคิดว่าเหมาะสม และไม่ทราบว่าเค้าเป็นเยาวชน ยอมรับผิดในส่วนนี้ ถ้าจะโดนจับก็พร้อม แต่ต้องสมเหตุสมผล” หมอเหรียญทองกล่าว
หมอเหรียญทองกล่าวด้วยว่า ขอประกาศว่า รพ.มงกุฎวัฒนะเป็นเขตปลอดบุหรี่ รวมถึงปลอดกุ๊ยจากอันธพาลเกเรด้วย และเปลี่ยนจากค่าปรับ 5,000 บาท เป็น 500,000 บาท อย่างไรก็ตาม ตอนนี้โทรศัพท์มือถือและเสื้อผ้าของเยาวชนรายดังกล่าวยังอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าแม่เด็กจะมารับคืนสามารถมาได้เลย ไม่คิดค่าปรับสักบาท
ต่อมาเวลา 15.00 น. น.ส.น้อย นายชยพล สท้อนดี สส.พรรคก้าวไกล น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส.พรรคก้าวไกล และเจ้าหน้าที่มูลนิธิวินวิน เดินทางมาที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อจ่ายค่าปรับและรับเสื้อผ้า โทรศัพท์ และทรัพย์สินของ ด.ช.เอ คืน ทันทีที่เดินทางถึงเจ้าหน้าที่เชิญขึ้นไปที่สำนักงานชั้น 8 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคลิปภาพขณะเปิดถุงเสื้อผ้าของ ด.ช.เอ พบว่า พอเปิดถุงพลาสติกสีฟ้า นอกจากเสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ รองเท้า ยังพบถุงซิปล็อกขนาดเล็กด้านในบรรจุผงสีขาว 1 ถุง หลอดขนาดเล็ก 1 อัน และไฟแช็ก ไม่ทราบว่าผงสีขาวคืออะไร ทำให้ทุกคนที่ขึ้นไปต่างตกใจสอบถามว่าเป็นของใคร แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป รพ.จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เดินทางมาเก็บทรัพย์สินทั้งหมดโดยเฉพาะผงสีขาวในถุงซิปล็อกไปตรวจสอบ
...
ต่อมา น.ส.น้อยลงจากอาคารมาเผยว่า ตนตกใจที่เห็นถุงซิปล็อกที่มีผงสีขาวอยู่ในถุงเสื้อผ้าลูก ตอนแรกยังไม่เห็น แต่พอเทถุงแล้วเจอยังไม่รู้ว่าคืออะไร ตอนนี้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับลูกชาย ถ้าหลังจากนี้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นยาเสพติด หรือของลูกชายจริงจะพาไปตรวจหาสารเสพติดและยอมรับในส่วนนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าลูกชายเคยมีประวัติเสพสารเสพติดหรือไม่ น.ส.น้อยตอบว่า ไม่รู้ ถ้าผลตรวจออกมาว่าลูกเสพสารเสพติดจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เบื้องต้นผู้สื่อข่าวโทร.สอบถาม ด.ช.เอกล่าวว่า ผงสีขาวดังกล่าวคือแป้ง ตนพกไว้ดม
น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ยังคงยืนยันว่าไม่มีใครสมควรโดนทำร้ายร่างกาย อยากให้แยกประเด็น มันคนละเรื่อง เรื่องสูบบุหรี่ผิดจริง แต่ไม่ควรทำแบบนี้ ส่วนที่พบซองบรรจุผงสีขาวต้องตรวจสอบต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า วันนี้นัดเด็กมาสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมสหวิชาชีพแล้ว ในคดีที่ว่าเด็กสูบบุหรี่ในห้องน้ำผิดกฎหมายจริง แต่ผู้ต้องหาเป็นเยาวชนต้องส่งเรื่องไปให้ศาลพิจารณา ให้ศาลสั่ง ขณะนี้ประสานไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุมาแล้ว ทางหมอเหรียญทองให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และจะสอบสวนพยานแวดล้อมทั้งหมด ก่อนออกหมายเรียกหมอเหรียญทองมาสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป
ค่ำวันเดียวกัน ด.ช.เอเดินทางมาที่ สน.ทุ่งสองห้อง พบ พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้องให้การยอมรับว่า ผงสีขาวที่พบคือเฮโรอีน ซื้อยามาแถวบ้านราคา 50 บาทเพื่อเสพ รายละเอียดอย่างอื่นยังไม่เปิดเผยก่อนเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวกลับไปก่อน พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ เผยว่า เบื้องต้นให้พนักงานสอบสวนนำหลักฐานเสื้อผ้าที่สวมใส่ ทรัพย์สิน และซองพลาสติกต้องสงสัยมาตรวจสอบเบื้องต้น และส่งซองดังกล่าวให้กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบว่าเป็นสารเสพติดประเภทใดและ ของผู้ใด เนื่องจากเสื้อผ้าถูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยึดไว้ตั้งแต่คืนเกิดเหตุ ส่วนเรื่องที่เด็กให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ซื้อเฮโรอีนดังกล่าวราคา 50 บาท พรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะเชิญแม่และเด็กมาสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพ ส่วนซองพลาสติกต้องสงสัยหากเด็กรับกับตำรวจว่าเป็นยาเสพติดของตนจริง จะนำคำให้การไปรวบรวมกับผลตรวจสอบซองพลาสติกของ พฐ. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
...
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่