นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผอ.ขสมก.เปิดเผยว่า ตามที่ ขสมก.ได้ถอนรถโดยสารออกจากเส้นทาง เพื่อส่งต่อให้เอกชนเดินรถแทน ตามแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทาง ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ทำให้ ขสมก.ได้รถโดยสารกลับมาประมาณ 200-300 คัน จึงนำมากระจายวิ่งในเส้นทางต่างๆ โดยพิจารณาจากตัวชี้วัด คือ ผู้โดยสาร พบว่าก่อนถอนรถมีผู้โดยสารที่ใช้บริการรถ ขสมก.ประมาณ 650,000 คนต่อวัน หลังจากถอนรถมีผู้โดยสารประมาณ 630,000 คนต่อวัน ประชาชนได้รับผลกระทบไม่มาก และเรื่องร้องเรียนไม่ได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ขสมก.ได้สำรวจป้ายรถเมล์ที่มีผู้โดยสารรอจำนวนมากๆ เช่น ป้ายรถเมล์ กม.9 ถนนสุขสวัสดิ์มาลงอนุสาวรีย์ชัยฯ มีคนรอขึ้นเยอะ ในช่วงเวลาเร่งด่วน จะจัดรถมาวิ่งให้บริการตลอด ซึ่งเป็นรถกะบ่ายเพื่อมาเติมในเส้นทางไม่ให้รถขาดระยะ และปรับความถี่ในการเดินรถ ส่วนกะบ่ายจะมีการตัดเสริม ตัดช่วง ระยะทางสั้นลง สำหรับระยะทางยาว ต้นทาง-ปลายทาง จะจัดรถวิ่งบริการคันเว้นคัน ทั้งนี้ในการตัดเสริม ตัดช่วง เส้นทาง ได้รับความอนุเคราะห์จากกรมการขนส่งทางบกให้ทำได้เลย แล้วแจ้งภายหลัง จากปกติ จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกก่อนจึงจะวิ่งได้

ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารประมาณ 2,800 คัน จอดรถรอซ่อมกว่า 400 คัน เหลือรถวิ่งให้บริการจริง 2,389 คัน จากเกณฑ์มาตรฐาน อยู่ที่ 2,314 คัน นอกจากนี้ได้เร่งรัดทำเงื่อนไขการประกวดราคาหาผู้รับจ้างเหมาซ่อมรายใหม่ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันบอกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อซ่อมรถโดยสารที่จอดเสียกว่า 400 คัน ให้สามารถมาวิ่งให้บริการได้ตามปกติ ซึ่งกระบวนการจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

...