นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการชำระหนี้เพื่อรับมอบงานทรัพย์สินระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) หรือมูลหนี้ E&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ มูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาทว่า สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.ได้มอบให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที ไปเจรจากับ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอสซี เรื่องขั้นตอนและวิธีการชำระหนี้ E&M ตามวงเงินมูลค่าหนี้ดังกล่าว จากรายงานล่าสุดขณะนี้ ผลการเจรจารายละเอียดต่างๆยังไม่ได้ข้อยุติ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน มี.ค.นี้ ก่อนครบกำหนดการขยายเวลาพักหนี้ส่วนนี้ ในเดือน เม.ย.67 ทั้งนี้ หลังจากได้ข้อสรุปแล้วจะต้องเสนอคณะกรรมการควบคุมการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม พ.ศ. 2567 จำนวน 23,488,692,200 บาท สำหรับการรับมอบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ มีนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานพิจารณาอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนการชำระหนี้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเจรจาเพื่อชำระหนี้ E&M ระหว่างเคทีกับบีทีเอสซี ยังมีความเห็นต่างเรื่องวิธีการชำระหนี้ส่วนนี้ โดยเคทีได้เสนอแนวทางการชำระหนี้ โดยขอแบ่งชำระเป็นงวดๆ เนื่องจากเงินของ กทม.จากการจัดเก็บรายได้ส่วนต่างๆ มีการแยกฝากไว้หลายบัญชีตามระบบบริหารจัดการด้านการเงิน หากจะมีการเบิกมาใช้จ่ายต้องแยกทำแต่บัญชี จึงไม่สามารถนำเงินมาชำระหนี้ได้ทั้งก้อน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาทในครั้งเดียวได้ ขณะที่บีทีเอสซีอยากให้ชำระหนี้เป็นเงินก้อนมากกว่า.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่

...