ก่อนเขียนต้นฉบับวันนี้ผมนั่งเปิดยูทูบดูคลิปดูข่าวเกี่ยวกับงานตรุษจีนเยาวราชมาหลายคลิปประทับใจมากกับการรายงาน ของยูทูบเบอร์ชาวลาวรายหนึ่ง ที่คงจะมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย
ที่ประทับใจผมที่สุดนั้น นอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่แออัดไปทั่วเยาวราชแล้ว ยังเป็นเพราะเสียงบรรยายเป็นภาษาลาว (แต่คนไทยฟังออก) ด้วยความตื่นเต้นอยู่ตลอดว่า
“โอ้โฮ...โอ้โฮ...พ่อแม่พี่น้องเยาวราชแตกแล้ว เยาวราชแตกแล้ว ผู้คนมาจากไหนกันนี่ โอ้โฮ! โอ้โฮ!”
ก่อนหน้านี้พ่อน้องชายยูทูบเบอร์ชาวลาวคนนี้ก็ไปถ่ายภาพผู้คนที่ทะลักเข้าสู่ประเทศไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ชนิดแออัดทุกตารางนิ้วพร้อมกับเสียง “โอ้โฮ โอ้โฮ...อะไรกันนี่...หลั่งไหลมาจากไหนกันนี่...โอ้โห...โอ้โฮ” เช่นกัน
อ่านรายงานที่เป็นตัวอักษรแม้จะตื่นเต้นแล้ว หรือดูข่าวทางโทรทัศน์ช่องต่างๆก็ตื่นเต้นแล้วว่าจะมีคนมาเที่ยวตรุษจีนบ้านเราหลายล้านคนแต่พอมาดูคลิปของยูทูบเบอร์ชาวลาวกลับตื่นเต้นยิ่งกว่า...เพราะเขาบรรยายไปอุทานไปว่าโอ้โห...โอ้โฮ แตกแล้ว...นี่แหละครับ
ทำให้ผมอดที่จะนึกย้อนหลังไปเมื่อสัก 20 กว่าปีที่ผ่านมาเสียมิได้...น่าจะเป็น พ.ศ.2541 หรือ 2542 ปีใดปีหนึ่งนี่แหละ ที่เป็นจุดเริ่มของงาน “ตรุษจีน เยาวราช”
ก่อนหน้านี้พูดแล้วแทบไม่น่าเชื่อ...แม้จะเป็นแหล่งชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และได้ชื่อว่าเป็น “ไชน่า ทาวน์” ตัวจริงเสียงจริงของเมืองไทย แต่เยาวราชก็ไม่เคยมีการจัดงานตรุษจีนอย่างเป็นทางการแบบจัดทั้งเยาวราชมาก่อนเลย
จนกระทั่งปี 2541 หรือ 2542 ดังกล่าว ที่ผมจำแม่นก็เพราะผมเพิ่งตัดสินใจอำลาชีวิตราชการก่อนเกษียณมาทำงานไทยรัฐเต็มตัวใน พ.ศ. 2540 และก็ได้รับเชิญไปเป็นกรรมการจัดงาน “ตรุษจีน” ครั้งแรกของเยาวราช
...
ปี 2540 คงไม่ใช่แน่ เพราะผมอำลาสภาพัฒน์ในเดือนเมษายนของปีดังกล่าว ซึ่งเลยตรุษจีนมาแล้ว จึงน่าจะเป็นปี 2541 มากกว่า
โดยน้องนักประชาสัมพันธ์รายหนึ่งที่มีส่วนในการจัดงานตรุษจีนครั้งแรกของเยาวราชมาเชิญผม ซึ่งผมก็ตอบรับด้วยความยินดี
ในฐานะที่เคยเป็น “ศิษย์เก่า” เยาวราชคนหนึ่ง เพราะสมัยเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเคยไปพักอาศัยอยู่ที่กงสีแห่งหนึ่งในซอย โรงเรียนเผยอิง ใกล้ๆทรงวาดอยู่ถึง 7-8 เดือน
เดินผ่านร้าน “หอยทอด” เตาสูงของอาแป๊ะ ซึ่งเป็นคุณพ่อของ เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี เกือบทุกวันก็ว่าได้...เพื่อไปขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนเตรียมฯ
นั่นคือ พ.ศ.2502 ดูเหมือนเสี่ยเจริญจะยังเรียน ป.4 อยู่ที่ โรงเรียนเผยอิง หน้าร้านคุณพ่อท่านนั่นแหละ
เมื่อรับปากไปเป็นกรรมการจัดงาน “ตรุษจีน” เยาวราชปีแรกในฐานะฝ่ายประชาสัมพันธ์คนหนึ่งเรียบร้อย ก็มีโอกาสไปเดินตระเวนเยาวราชทุกตรอกทุกซอกอีกครั้งหนึ่ง ได้เรื่องกลับมาเขียนซอกแซกเป็นสิบๆตอนถ้าจำไม่ผิด
การจัดงานตรุษจีนเยาวราชปีแรกปังมาก มีการปิดถนนจัดแห่สิงโต แห่มังกรทองและจัดประกวด “มิสไชน่าทาวน์” ด้วย จำได้แม่นยำเพราะผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการประกวดกับเขาด้วย นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่มีโอกาสเป็นกรรมการประกวดนางงาม
ผมรับไปเป็นกรรมการประชาสัมพันธ์ให้งานตรุษจีนเยาวราชอีก 1 ปี ในปีที่ 2 จากนั้นเมื่อเห็นว่า “จุดติด” แล้ว คืองานตรุษจีนเยาวราชได้รับความนิยมและเป็นที่กล่าวถึงอย่างกว้างขวาง แล้วผมก็ขอตัวแต่ก็ยังเขียนถึงงานให้เสมอๆมาจนถึงบัดนี้
ต่อมางานตรุษจีนเยาวราชได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี เสด็จฯทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดและเสด็จทอดพระเนตรงานแทบจะทุกปีที่มีการจัดงาน นำความปลาบปลื้มมาสู่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนอย่างหาที่สุดมิได้
มาถึงวันนี้ “ตรุษจีนเยาวราช” กลายเป็นงานระดับโลกไปเสียแล้ว มีผู้คนจากทั่วโลกมาเที่ยวงานจนเป็นข่าวใหญ่ของสื่อทุกสำนัก
ผมขอจบคอลัมน์วันนี้ด้วยเสียงร้องอุทานของยูทูบเบอร์ชาวลาวอีกครั้งนะครับ “โอ้โห...โอ้โฮ...เยาวราชแตกแล้ว...แตกจริงๆ...ผู้คนมาจากไหนกันเนี่ย แน่นไปหมด โอ้โห...โอ้โฮ”
“ซูม”