มีรายงานข่าวกระหึ่มไปทั่ววงการตลาดว่า ห้างเฟอร์นิเจอร์ ทันสมัยจากสวีเดน ที่รู้จักกันในนามของห้าง “อิเกีย” สร้างประวัติการณ์ใหม่อีกแล้วในประเทศไทย

หลังจากเปิดสาขาที่ 4 ขึ้นที่ห้างยักษ์ใหญ่ล่าสุด “เอ็มสเฟียร์” ย่านสุขุมวิท ปรากฏว่าเพียง 7 วันเท่านั้น ระหว่าง 1-7 ธันวาคม 2566 มีผู้คนเข้าไปเดินดูโน่นดูนี่ในห้างเฟอร์ฯแห่งนี้แล้วกว่า 120,000 คน

มากที่สุดคือวันที่ 2 ธันวาคม รวม 22,490 คน ที่ผมกับครอบครัวซอกแซกแวะไปพอดี ตอนหัวค่ำจึงน่าจะรวมอยู่ในสถิตินี้ด้วย

เมื่อไปแล้วก็อดซื้ออดช็อปไม่ได้...รายงานข่าวบอกว่า “ถุงหิ้ว” Frakta ในสไตล์ของอิเกียขายได้ถึง 7,121 ชิ้น (ซื้อเพื่อไปใส่ของต่างๆ กลับบ้านเป็นอันดับ 1 สัปดาห์นี้) ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ จานชุดสีขาว และภาชนะใส่อาหารขายได้ 5,661 ชิ้น

ส่วนสินค้าที่ซื้อแล้วหิ้วกลับไม่ได้ทันทีต้องส่งตามไปให้ภายหลังได้แก่ ตู้เสื้อผ้า, โซฟา และชุดตู้เก็บของ ขายดีเรียงไปตามลำดับ

ทีนี้ก็ไปดูยอดการขายอาหารที่ร้านอาหารของอิเกียแห่งใหม่นี้บ้าง ปรากฏว่า “แชมป์” ได้แก่ “มีตบอล” หรือลูกชิ้นเนื้อสไตล์สวีเดน เนื้อสับผสมหมูสับเสิร์ฟพร้อมมันบดและบรอกโคลี มียอดขายถึง 3,153 จาน

ในขณะที่อาหารประเภทยืนกินอันดับ 1 ก็คือ ไอศกรีมโคน ยอดขาย 8,310 โคน ตามด้วยฮอตด็อก 5,283 ชิ้น

ที่ผมหยิบตัวเลขทั้งหมดมารายงาน ทั้งสินค้า เฟอร์นิเจอร์ และอาหารก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า “แบรนด์” นี้ นอกจากจะขายเครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบทันสมัยสไตล์สวีเดนแล้ว เขายังพ่วงการขายอาหารและขนมหวาน ตลอดจนวัฒนธรรมของสวีเดนไปด้วยพร้อมๆกัน

...

ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ + ฮาร์ดพาวเวอร์ ขายทั้งของหนักของเบา รวมตลอดถึงสินค้าวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของสวีเดน ภายในห้างเดียวกัน

ผมเคยเขียนถึงห้างนี้มากว่า 20 ปีแล้ว ไปเดินครั้งแรกที่เยอรมนี ซึ่งก็ไปกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนี่แหละ เขาไปจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่โน่นเชิญสื่อไทยไปหลายฉบับ รวมทั้งผมด้วย

วันหนึ่งเขาก็พาไปเที่ยวห้าง IKEA ซึ่งน่าจะอยู่ทางเยอรมนีตะวันตก พอได้พบได้เห็นได้เดิน และทั้งๆที่ไม่ได้ซื้ออะไรเลย นอกจากนาฬิกาตั้งโต๊ะเล็กๆมา 2 เรือน...ผมซึ่งประทับใจมากก็เก็บมาเขียนซอกแซกแนะนำล่วงหน้าให้ท่านผู้อ่านรับทราบไว้เผื่อจะมาเมืองไทย ในอนาคต

ปรากฏว่านานมากกว่า IKEA จะมาถึงเมืองไทย แม้จะมาวนเวียน ในเอเชียและอาเซียนนานแล้ว แต่ก็อยู่เงียบๆที่ฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ

จนกระทั่ง พ.ศ.2011 หรือ พ.ศ.2554 จึงได้มาเมืองไทย ที่ เมกาบางนา ก็ปรากฏว่าเจอ “มหาอุทกภัย” หรือนํ้าท่วมใหญ่เข้าพอดีในปีนั้น ทำให้งานเปิดดูกร่อยไปเยอะ

แต่พอนํ้าแห้งสนิทก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มีผู้คนแห่ไปเดินแห่ไปซื้อแน่นห้าง กลายเป็นแม่เหล็กใหญ่ของเมกาบางนา และต่อมาค่อยมาเปิดห้าง 2 ที่ภูเก็ตราวๆ 2558 ตามด้วยห้าง 3 ที่ เซ็นทรัล เวสต์เกต บางใหญ่ เมื่อประมาณมีนาคม 2561

จนล่าสุดของล่าสุดก็เข้าสู่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยเป็นครั้งแรก ณ ห้าง เอ็มสเฟียร์ ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กลายเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กของห้าง เอ็มสเฟียร์ ในขณะนี้

หากเรากลับไปดูประวัติของ อิเกีย สวีเดน ก็จะพบว่าลงมือสร้างและเปิดห้างแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1943 หรือ 2486 นี่เองครับ ราวๆ 80 ปีเต็มๆเท่านั้น

แต่ด้วยความคิดที่ทันสมัย นำเสนอเครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ถอดได้ ประกอบได้ เคลื่อนที่ได้ง่าย เหมาะกับครอบครัวยุคใหม่ที่จะต้องอยู่แฟลต, อพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดมากขึ้น ทำให้เจริญเติบโต ขยายตัวไปตามประเทศต่างๆกว่า 60 ประเทศ กว่า 450 ห้างในปัจจุบัน

ที่สำคัญผมชอบตรงที่ห้างมิได้จะ “ขาย” เฉพาะเฟอร์นิเจอร์และสินค้าความคิดของสวีเดนเท่านั้น ยังขายอาหาร ขายขนม ขายวัฒนธรรมและความเชื่อถือต่างๆในทางที่ดีของประเทศสวีเดนไปพร้อมๆกันด้วย

เป็น “แบรนด์” ตัวแทน สวีเดนที่ฮิตมากๆแบรนด์หนึ่ง จนผมแอบฝันอยู่บ่อยๆว่าเมื่อไรเราจะมีแบรนด์ไทยฮิตแบบนี้บ้างหนอ

เป็นห้างไทยไปประสบความสำเร็จที่ต่างประเทศขายสินค้าทั้งหนักทั้งเบาของประเทศไทย มีคนเข้าไปเดินวันละหมื่นๆแบบอิเกียของสวีเดนนี่แหละครับ...แอบฝันมาหลายปีแล้วยังไม่เป็นจริงซักที!

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม