พ่อเด็กก้มกราบแม่เหยื่อสาวพม่า ขอโทษแทนลูกชายวัย 14 ล่าไอจีโพสต์ขู่ห้างดัง (คลิป)

ชุดสืบสวนนครบาลขยายผลเครือข่ายค้าปืนและกระสุนปืนให้เด็กชายวัย 14 จับผู้ต้องหาลอต ที่ 2 เพิ่มอีก 3 คน ตะครุบตัวทันควันหลังศาลออกหมายจับ รวบตัวได้ที่กรุงเทพฯ และที่ จ.ประจวบฯ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงบัญชีโอนเงินซื้อลูกกระสุนปืน พร้อมยึดของกลางปืนและกระสุนปืนได้เป็นตับกว่า 2,700 นัด ส่วนผู้ต้องหาลอตแรก 3 คน ตำรวจนำตัวฝากขังผัดแรกศาลไม่ให้ประกันคอตกเข้าเรือนจำ มือกราดยิง สถานพินิจฯระบุเบื้องต้นต้องแอดมิตที่สถาบันกัลยาณ์ฯ 5 วัน รอแพทย์ประเมิน สุขภาพจิต พร้อมทั้งสืบสอบปูมหลังรายงานศาลเยาวชนฯ พ่อแม่มีความประสงค์ให้ลูกชายได้รับการรักษา รมว.ยุติธรรมเตรียมมอบเงินเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมวางแผนจัดหลักสูตรการเลี้ยงดูเด็กและ เยาวชนยุคดิจิทัล พ่อมือยิงเดินทางไปร่วมงานศพสาวชาว พม่าก้มกราบเท้าแม่เหยื่อขอโทษแทนลูกชาย ก่อเหตุยิง ลูกสาวเสียชีวิต ขณะที่ ตร.ตามหาไอจีโพสต์ ป่วนห้างดัง

จากกรณีเด็กชายวัย 14 ปี แต่งกายคล้ายชุดนักฆ่าก่อคดีสะเทือนขวัญกลางกรุง ใช้ปืนกราดยิงประชาชนและนักท่องเที่ยวในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ย่านปทุมวัน มีเหยื่อถูกสังหาร 2 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย ผู้ก่อเหตุถูกชุดจู่โจมจับกุมดำเนินคดีอาญาหนัก 5 ข้อหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่า และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ตำรวจ สน.ปทุมวัน ส่งตัวฝากขังศาลเยาวชน และครอบครัวกลางเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ศาลมีคำสั่งส่งไปควบคุมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพฯ ย่านบางนา วันรุ่งขึ้นส่งตัวต่อไปที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์เพื่อประเมินสุขภาพจิต ล่าสุดพ่อเด็กเดินทางไปขอขมาศพเหยื่อกระสุนที่วัด กล่าวแสดงความเสียใจอย่างที่สุด ขอโทษสังคม ผู้เสียหายตลอดจนผู้ได้รับความเดือดร้อน พร้อมรับผิดชอบทุกอย่างและขอให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก หลังเกิดเหตุการณ์หน่วยงานต่างๆปรับกฎระเบียบครอบครองอาวุธปืน ขยายผลจับกุมผู้ขายปืนและกระสุนปืนให้เด็กวัย 14 นำไปก่อเหตุ เตรียมเก็บกวาดปืนเถื่อน แหล่งผลิตปืนดัดแปลงที่ลักลอบขายกันเกร่อในโลกออนไลน์

ขยายผลจับเครือข่ายค้าปืนอีก 3 คน

ชุดสืบสวนนครบาลขยายผลจับผู้ต้องหาขายกระสุนปืนให้เด็กชาย 14 เพิ่มเติม เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ต.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผกก.สน.ยานนาวา และชุดสืบสวนบก.สส.บช.น. นำกำลังแบ่งเป็น 3 ชุด ติดตามจับผู้ต้องหาเครือข่ายขายกระสุนและใช้บัญชีรับโอนค่ากระสุนปืน 3 ราย จากการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาลอตแรก นายสุวรรณหงษ์ พราหมณ์คณาจารย์ อายุ 45 ปี และนายอัครวิชญ์ ใจทอง อายุ 22 ปี สองพ่อลูกชาว จ.ยะลา ที่จำหน่ายอาวุธปืน และนายปิยะบุตร เพียรพิทักษ์ อายุ 31 ปี ขายกระสุนปืนให้เด็กวัย 14 ปี ใช้ก่อเหตุกราดยิง รายแรกจับกุมนายภัสสรกรณ์ หรือนิกกี้ เธียรธนาวิทย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/94 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม. ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.943/2566 ลงวันที่ 6 ต.ค.66 ข้อหาร่วมกันจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยมิได้รับอนุญาต จับได้ที่บ้านเลขที่ 1376 ซอยเพชรเกษม 94 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.

ยึดของกลางปืนพร้อมกระสุนเพียบ

จากการตรวจค้นบ้านพบของกลาง 13 รายการ ได้แก่ อาวุธปืนที่มีใบ ป.4 จำนวน 2 กระบอก แบ่งเป็นพกกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อกล็อก และปืนลูกโม่ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ลูกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 4 กล่อง กับอีก 5 นัด ลูกกระสุนขนาด .380 จำนวน 7 กล่อง ลูกกระสุนขนาด .22 จำนวน 11 กล่อง ลูกกระสุนลูกซอง จำนวน 14 กล่อง ลูกกระสุนขนาด .38 จำนวน 14 กล่อง ลูกกระสุนขนาด .45 จำนวน 2 กล่อง ลูกกระสุนขนาด .357 จำนวน 1 กล่อง ลูกกระสุนขนาด 7.65 จำนวน 2 กล่อง รวม 2,765 นัด โทรศัพท์ 3 เครื่อง กล่องพัสดุที่ยังไม่ได้บรรจุและอุปกรณ์แพ็กสินค้าจำนวนมาก ชุดสืบสวนตรวจสอบจากเส้นทางการเงิน และข้อมูลการสนทนาผ่านไลน์ พบว่าเกี่ยวข้องกับการส่งกระสุนปืนให้มือกราดยิงวัย 14 จากนั้นนำตัวนายภัสสรกรณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ยานนาวา

2 ผู้ต้องหาจนมุมที่ประจวบฯ

ขณะเดียวกันชุดสืบสวน กก.สส.1 และ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. นำกำลัง 2 ชุด เดินทางไปพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมผู้ต้องหาอีก 2 ราย ได้แก่ น.ส.สุธิดา แป้งหอม อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 944/2566 และนายชนายวุฒิพงษ์ เพชรมณี อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 945/2566 ลงวันที่ 6 ต.ค.66 ข้อหาร่วมกันมีและจำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนชุดสืบสวนจะเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ใช้บัญชีธนาคารรับโอนเงินค่ากระสุนปืนจากผู้ก่อเหตุวัย 14 ชุดสืบสวนนำตัวทั้งคู่ไปตรวจค้นบ้านก่อนควบคุมไปดำเนินคดีที่ สน.ยานนาวา ต่อไป

ศาลออกหมายตามจับทันควัน

มีรายงานว่า การจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมลอต 2 ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ขยายผลจากจับผู้ต้องหาลอตแรก 3 ราย ผู้ที่ขายอาวุธและกระสุนปืนให้เด็ก 14 จนได้พยานหลักฐานกระทำความผิดชัดเจนกระทั่งขอศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่มอีก 3 ราย ประกอบด้วยนายภัสสรกรณ์ เธียรธนาวิทย์ ทำหน้าที่ส่งกระสุนให้เด็กอายุ 14 ปี น.ส.สุธิดา แป้งหอม ภรรยา บัญชีแถว 2 รับโอนเงินค่ากระสุน รอบที่ 1 และนายวุฒิพงษ์ เพชรมณี บัญชีแถว 2 รับโอนค่ากระสุน หลังศาลอนุมัติหมายจับชุดสืบสวนออกติดตามจับทั้งหมดทันที

สารภาพเป็นนายหน้าขายลูกปืน

จากการสอบสวน น.ส.สุธิดาให้การว่า เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว เปิดบัญชีสำหรับใช้เงินอุดหนุนบุตร นายธนาวุฒิ เปลี่ยนวงค์ อายุ 23 ปี สามี จะนำบัญชีนี้ไปใช้สำหรับให้ผู้อื่นโอนเงินเข้ามาเป็นประจำ ตำรวจ สภ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สอบปากคำนายธนาวุฒิให้การว่า อยู่ในกลุ่มไลน์ซื้อขายอาวุธปืน ที่มีการโพสต์รูปลงขายกระสุนปืน ได้เอารูปจากกลุ่มไลน์ดังกล่าวไปโพสต์เฟซบุ๊ก ต่อมามีนายปิยะบุตร เพียรพิทักษ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้าใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ชายจากกุฏิสาม” ทักมาขอซื้อกระสุนปืน ติดต่อไปยังคนขายที่ลงรูปในกลุ่มไลน์ชื่อ Nikky99 สั่งซื้อเอาที่อยู่ผู้รับสินค้าจากนายปิยะบุตรส่งให้คนขาย และส่งเลขบัญชีธนาคารของ น.ส.สุธิดา ภรรยา ให้นายปิยะบุตรโอน เงินมาจำนวน 1,350 บาท จากนั้นโอนเงินค่ากระสุนปืนไปให้คนขาย 1,150 บาท ตนได้ค่านายหน้า 200 บาท และเป็นนายหน้าซื้อขายกระสุนปืนมาแล้วประมาณ 10 ครั้ง ชุดจับกุมเตรียมพิจารณาแจ้งข้อหา

ฝากขัง 3 ผู้ต้องหาค้าปืนลอตแรก

ตอนสายวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ เศษฤทธิ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ยานนาวา นำตัวนายสุวรรณหงษ์ พราหมณ์คณาจารย์ อายุ 45 ปี และนายอัครวิชญ์ ใจทอง อายุ 22 ปี สองพ่อลูกชาว จ.ยะลา ที่จำหน่ายอาวุธปืน และนายปิยะบุตร เพียรพิทักษ์ อายุ 31 ปี ผู้จัดหาเครื่องกระสุนและแมกกาซีน ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีที่มีอัตราโทษสูงและเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ในชั้นสอบสวนสองพ่อลูกนายอัครวิชญ์และนายปิยะบุตรให้การรับสารภาพ ส่วนนายสุวรรณหงษ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขังไปศาลนั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดก้มหน้าก้มตาไม่ตอบคำถามใดๆกับผู้สื่อข่าว

ไม่ให้ประกันตัวส่งเข้าเรือนจำ

ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-18 ต.ค. ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมา ญาติผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน ศาลเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี ไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราวและยกคำร้อง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ปธ.กรรมาธิการการ สธ.เยี่ยมคนเจ็บ

ที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะ กรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของแม่บ้านรายหนึ่ง ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ นพ.ทศพรมอบกระเช้าดอกไม้ให้ญาติของคนไข้และเข้าสอบถามอาการ จากนั้นไปที่ รพ.จุฬาฯ เยี่ยมและสอบถามอาการผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย ส่วนใหญ่อาการดีขึ้นมาก ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร จะทำหน้าที่ประสานงานและดูแลเรื่องการรักษาให้คนไข้ทั้งหมดจนหายดี หากออกจากโรงพยาบาลยังไม่สามารถทำงานได้ก็จะดูแลช่วยเหลืออีกด้วย

เตรียมส่งศพสาวจีนกลับประเทศ

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เมื่อเวลา 13.30 น. มีรายงานว่า ญาติของ น.ส.จ้าว จินหนาน อายุ 34 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ถูกยิงเสียชีวิตได้ยื่นเอกสารต่างๆเพื่อขอรับศพกลับสู่ภูมิลำเนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางญาติว่าจ้างให้บริษัทเอเชียวัน อินเตอร์เนชั่นแนล ประกอบธุรกิจจัดงานศพและเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตระหว่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการ ญาติหรือตัวแทนบริษัทสามารถเข้าติดต่อนำศพออกจากสถาบันนิติเวชฯได้ คาดว่าญาติผู้ตายน่าจะไปรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน มอบหมายให้บริษัทมารับศพ เพื่อไปทำพิธีทางศาสนาที่ประเทศจีนโดยยังไม่ได้ระบุวันเวลาอย่างใด

แม่ผู้ตายเห็นใจพ่อแม่เด็ก 14

ที่ศาลา 2 วัดผาสุกมณีจักร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตอนเย็นวันเดียวกัน นางคิน วิน อายุ 67 ปี พร้อมหลานสาว เดินทางมาร่วมงานศพ น.ส.โมมิน หรือตะวัน อายุ 30 ปี ชาวพม่าที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง หลังจากทางการไทยได้ประสานกับทางสถานทูตเมียนมาพาทั้งสองคนเดินทางมาจากเมืองย่างกุ้ง นางคิน วิน ร้องไห้จนเป็นลม ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล แม่เหยื่อเสียชีวิตกล่าวว่า รู้สึกเสียใจ ที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนเดียวไปและยังทำใจไม่ได้ ลูก ออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 16 ปีเลี้ยงดูแม่มาตลอด อยากซื้อบ้านรับแม่มาอยู่ที่ไทย หลังจากเสร็จพิธีจะเอากระดูกลูกไว้ที่ไทยเพราะลูกเขาชอบประเทศไทย ไม่ได้ติดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น รู้สึกสงสารพ่อแม่ของเด็กชายที่ก่อเหตุที่มีลูกไม่ดี คงเสียใจทุกข์ใจไม่น้อยเช่นกัน ตนไม่ได้โทษพ่อแม่เขาเพราะมันไม่เกี่ยวกัน

แพทย์อยู่ระหว่างประเมินสภาพจิต

กรณีส่งตัวผู้ต้องหา ด.ช.วัย 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงเข้ารับการประเมินสุขภาพจิตที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ มีรายงานว่า ขณะนี้เด็กอยู่ระหว่างการประเมินสุขภาพจิตจากจิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ทางกรมพินิจฯยังไม่ได้รับรายงานความเห็น ของแพทย์ เพราะต้องใช้ระยะเวลา ขั้นตอนอย่างรอบด้าน หรือหากแพทย์จะพิจารณาแนวทางการรักษาหลังจากส่งตัวไปรับการประเมิน ส่วนใหญ่มี 2 แนวทางคือ 1.อาจจะต้องเข้ารับการนอนพักรักษาตัว (Admit) ที่สถาบันกัลยาณ์ฯจนกว่าแพทย์จะประเมินเห็นว่าไม่มีสัญญาณเสี่ยงในเรื่องสุขภาพจิตแล้วก่อนพิจารณาส่งกลับสถานพินิจฯ และ 2.อาจได้รับการกำหนดใช้ยาในการรักษาแทน อาจจะเป็นยาเพื่อปรับสารเคมีในสมอง ทั้งหมดไม่สามารถบอกได้ว่า เด็กชายรายดังกล่าวจะได้รับการรักษาด้วยวิธีการใด เพราะที่ผ่านมาเด็กแต่ละคนมีสุขภาพจิตแตกต่างกันออกไป แพทย์ต้องมีการพิจารณาเป็นรายบุคคล แนวทางการรักษาแตกต่างกัน กรณีรายนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ผู้ก่อเหตุมีอายุน้อย เป็นคดีที่มีความน่าตกใจ ต้องมีความระมัด ระวังเป็นพิเศษ

พ่อแม่เห็นด้วยส่งลูกชายรักษา

รายงานข่าวระบุด้วยว่า สถานพินิจฯได้ปฏิบัติตามความเห็นของจิตแพทย์และนักจิตวิทยา คือ นำส่งตัว ด.ช.เข้ารับการตรวจประเมินสุขภาพจิตที่สถาบัน กัลยาณ์ฯ เจ้าหน้าที่สถานพินิจฯได้แจ้งให้ผู้ปกครองรับทราบทุกกระบวนการ ทางพ่อแม่ของ ด.ช.รู้สึกค่อนข้างสบายใจหลังจากทราบกระบวนการต่างๆ และประสงค์ให้ลูกชายได้รับการรักษา ทางสถานพินิจฯได้แจ้งด้วยว่า เรื่องการรักษาจะขึ้นอยู่กับการประเมินของ แพทย์ที่สถาบันกัลยาณ์ฯเป็นหลัก เบื้องต้น ด.ช.จะต้องนอนพักรักษาตัว (Admit) ที่สถาบันกัลยาณ์ฯจำนวน 5 วัน เพื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่นจะได้ดำเนินการตรวจประเมินอย่างละเอียด

กรมพินิจฯสืบสอบปูมหลังเด็ก

เมื่อถามว่าขณะนี้เด็กมีสภาวะทางจิตที่เข้าข่ายน่าเป็นห่วงหรือไม่ แหล่งข่าวระบุว่า เบื้องต้นทราบว่าทางทีมจิตแพทย์อยู่ระหว่างการสังเกตการณ์ (observe) เพื่อสังเกตอาการ พฤติกรรมการแสดงออกของเด็กชาย ส่วนในเรื่องของผู้ปกครองเด็กชาย ทราบว่าเจ้าหน้าที่คุมประพฤติของกรมพินิจฯสอบปากคำผู้ปกครอง เพื่อสอบถามถึงการเลี้ยงดูบุตรที่ผ่านมา และสภาพแวดล้อมการเลี้ยงดูเป็นอย่างไร จากนั้นทางเจ้าหน้าที่คุมประพฤติของกรมพินิจฯ จะออกสืบเสาะรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำเป็นรายงาน เสนอต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางสำหรับการพิจารณา ผู้ปกครองให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ล่าหนุ่มคะนองโพสต์ป่วนห้างดัง

ขณะเดียวกันมีผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่งโพสต์ รูปอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมแมกกาซีน 2 อัน บรรจุในกล่อง แล้วระบุข้อความว่า เดี๋ยวเจอกันเซ็นทรัล เวิลด์ เป็นเหตุให้ทางห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ต้องเพิ่มมาตรการคุมเข้มลูกค้า หลังมีผู้แสดงความเห็นต่างๆนานากันกระหน่ำในโลกโซเชียล เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทราบ ID ของผู้ที่โพสต์ Instagram ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายและตื่นตระหนกรายนี้แล้วเป็น ชาย เบื้องต้นพบว่าได้ปิดบัญชีหนีไปหลังโพสต์ภาพและข้อความ ขณะนี้ให้พนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนดำเนินการติดตามตัว การกระทำดังกล่าวแม้จะคอมเมนต์ก่อนปิดบัญชีว่า โพสต์เล่นๆ แต่เข้าข่ายกระทำความผิดฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย

วางแผนดูแลเยาวชนยุคดิจิทัล

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายว่า  ผู้เสียชีวิตกระทรวงยุติธรรมจะมอบเงินให้รายละ 200,000 บาท และผู้บาดเจ็บเบื้องต้นรายละ 50,000 บาท อีกทั้งจะมีหน่วยงานอื่นและภาคเอกชนร่วมช่วยเหลือ ผู้เสียชีวิตรวมกับเงินกระทรวงยุติธรรมแล้วเป็นเงินรายละ 6.2 ล้านบาท และผู้บาดเจ็บรวมเป็นเงินรายละ 3.5 แสนบาท ในวันที่ 8 ต.ค. ร่วมเป็นประธานในงานฌาปนกิจผู้เสียชีวิตชาวเมียนมา ที่วัดผาสุกมณีจักร จ.นนทบุรี กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะร่วมกับกรมสุขภาพจิตดูแลฟื้นฟูจิตใจญาติและผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมสร้างระบบนิเวศที่ดีให้เด็ก ครอบครัว และสังคม มุ่งเน้นให้เยาวชนมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมทางสังคม รู้เท่าทันสื่อ เพื่อให้เยาวชนรู้ทันภัยออนไลน์ ยกระดับศูนย์ให้คำปรึกษาเยาวชน จัดหลักสูตรการเลี้ยงดูลูกในยุคดิจิทัล ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างสรรค์ รวมทั้งการทำแผนรับมือภัยพิบัติสำหรับเด็กและเยาวชน

พ่อเด็กกราบเท้าแม่เหยื่อขอขมา

ต่อมาเวลา 18.45 น. พ่อของเด็กวัย 14 ปี เดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรม น.ส.โมมิน หรือตะวัน ในคืนสุดท้ายที่วัด ทันทีที่มาถึงเจ้าตัวปรี่เข้าไปก้มกราบขอขมานางคิน วิน แม่ของ น.ส.โมมิน พร้อมกล่าวขอโทษแทนลูกชายที่ได้ก่อเหตุขึ้น แม่น้องตะวันรับไหว้บอกว่า พ่อไม่ผิด ผิดที่ตัวลูกของพ่อ พร้อมให้อภัย แต่ยอมรับว่า ทำใจไม่ได้ ขณะที่พ่อเด็กใส่ซองเงินจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเป็นการเยียวยาและช่วยค่าพิธีศพ แต่แม่ของ น.ส.โมมินปฏิเสธ ให้เหตุผลว่าเนื่องจากไม่สามารถทดแทนชีวิตของลูกได้ ฝ่ายพ่อเด็กรับปากว่าจะยินดีชดใช้ให้ตามที่ต้องการทุกอย่าง จากนั้นไปกราบขอขมาศพน้องตะวัน ผู้สื่อข่าวสอบถามพ่อเด็กวัย 14 แต่ก็ไม่ยอมปริปากพูดแต่อย่างใด ก่อนเดินไปนั่งฟังพระสวดพระอภิธรรมที่ด้านหน้าศาลาทันที

อ่านข่าว "ยิงกันที่พารากอน" เพิ่มเติม