“นายกฯเศรษฐา” ตั้ง 3 อรหันต์ สอบ “บิ๊กโจ๊ก” กรณี ลูกน้องถูกออกหมายจับเกี่ยวพันบ่อนพนันออนไลน์ ตีกรอบ ให้ 30 วัน ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เพราะกระทบเชื่อมั่น กระบวนการยุติธรรม “บิ๊กโจ๊ก” บุกศาลอาญายื่นคำร้องขอ ความเป็นธรรม กรณีถูกชุด PCT4 ตรวจค้นบ้าน กล่าวหาปิดบังข้อมูลผู้พักอาศัยเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับรอง ผบ.ตร. พร้อมยินดีเข้าตอบคำถามคณะ กก.ตรวจสอบที่นายกฯเพิ่งตั้งขึ้น “ไตรรงค์ ผิวพรรณ” แถลงโต้ข้อกล่าวหา ยืนยันตรวจค้นตามกฎหมายและ แจ้งศาลแล้วว่าผู้ต้องหาที่ขอหมายจับเป็นตำรวจ ยึดทรัพย์เครือข่ายแล้ว 143 ล้านบาท แย้มเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 23 คน ในจำนวนนี้มีทั้งตำรวจและพลเรือน ตำรวจระดับ สว.-ผกก.โดนเพิ่มอีก แฉเส้นทางเงินตำรวจกับ “มินนี่” ยอดเงินโอนผ่านบัญชีม้า 51 ครั้ง เป็นเงิน 3,659,890 บาท รวมทั้ง โอนเข้าบัญชีแม่รองโจ๊กจ่ายค่ารักษาพยาบาล 2.8 ล้านบาท และโอนให้น้องชายรองโจ๊ก 410,000 บาท บัญชีม้าที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 บัญชีมีเงินหมุนเวียน 260 ล้านบาท ลุยตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสาวเว็บพนัน กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย 1 ในผู้ต้องหาด้วย พนักงานสอบสวน บก.น.5 ฝากขังผู้ต้องหา 15 คนลอตแรกแล้ว ศาลให้ประกันวงเงิน 1-2 แสนบาท 12 คน ส่วนอีก 3 คนไม่มีเงินประกันเข้าเรือนจำ

กรณีศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโน โลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. (Police Cyber Taskforce : PCT) ชุด 4 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. สนธิกำลังตำรวจหลายหน่วย เปิดปฏิบัติการ “Big Cleaning Day กวาดบ้านตำรวจ” ตรวจค้นกว่า 30 จุดใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ ทลายเครือข่าย เว็บพนันออนไลน์ “เบ็ตฟลิกซ์รอยัลดอทคอม” หลังออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นตำรวจตั้งแต่ชั้นประทวนถึง ผบก. 8 นาย และพลเรือนอีก 15 คน บุกจับกุมตำรวจทั้งหมดแล้ว ส่วนบุคคลธรรมดาจับกุมได้แล้ว 9 คน และในปฏิบัติการครั้งนี้ ชุด PCT4 เข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ภายในซอยวิภาวดี 60 จำนวน 4 หลังด้วย จนบิ๊กโจ๊กออกมาตอบโต้ว่า เป็นการดิสเครดิตจากการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

...

รายงาน น.1 คดีลูกน้องโจ๊ก

ความคืบหน้าจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. รับรายงานเหตุน่าสนใจจาก พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 เรื่องคดีทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตกเป็นผู้ต้องหา 8 คน ว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ถึงวันที่ 21 ก.ค. ร.ต.อ.ฤทธิ์ธาดา เครือสุข รอง สว. (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับการประสานจาก พ.ต.ท.มนต์ชัย บุญเลิศ รอง ผกก.วิเคราะห์ฯ บก.สอท.5 ฐานะเจ้าที่ชุดปฏิบัติการ PCT4 ว่า ตรวจพบการกระทำความผิดของเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ http://www. betflikroyal. net เปิดให้เล่นการพนันออนไลน์ สลอต บาคารา กาสิโนออนไลน์ เกมพนันออนไลน์อื่นๆ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจำนวนมาก ทั้งแอปพลิเคชันไลน์และเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 ตรวจพบกลุ่มผู้ต้องหาบางส่วน รวมถึงบัญชีที่ใช้โอนเงินเข้าออกในเครือข่ายพนันออนไลน์อยู่ในท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ

จับเจ้าของเว็บแล้วตั้งแต่ ก.ค.

กระทั่งวันที่ 26 ก.ค. พนักงานสอบสวนร้องขอศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้เอาไว้ 3 คน ประกอบด้วย 1.นายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.687/2566 ลงวันที่ 26 ก.ค. 2.น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ สุจริตชินศรี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.688/2566 ลงวันที่ 26 ก.ค. และ 3.น.ส.อรณี ทองอรุณ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.689/2566 ลงวันที่ 26 ก.ค. แจ้งข้อหาร่วมกันจัดให้เล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็ก ทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด ฐานฟอกเงิน และทำผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน

ออกหมายจับตำรวจ 8 นาย

ล่าสุดสามารถดำเนินการขอหมายจับข้อหาเดียวกันเพิ่มเติมอีก 23 ราย จับกุมตัวดำเนินคดีแล้ว 17 คน ประกอบด้วย 1.พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.898/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 2.พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.899/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 3.พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.895/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 4.พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผกก.ตม. จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.897/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 5.พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.896/ 2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 6.พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นายตำรวจติดตาม รอง ผบ.ตร. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.879/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 7.ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.900/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. และ 8.ส.ต.อ.อภิสิทธิ์ คนยงค์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.901/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย.

จับกุมผู้ต้องหาพลเรือน 9 คน

ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นพลเรือนประกอบด้วย 9.นายจิรันธนิน สุจริตชินศรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.879/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 10.นายพุฒิพงษ์ พูนศรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.890/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 11.น.ส.ยุภาพร วงศ์ลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.891/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 12.นางแสงเดือน แก้วทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.892/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 13.น.ส.เรไร ศรีธาตุ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.893/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 14.นายกิติศักดิ์ มินาลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.881/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 15.น.ส.ชนม์สิตา สุธงษา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.880/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 16.นายบัณฑิต หล้าก่ำ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.886/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. และ 17.น.ส.ทักษพร พงษ์เหมวัฒนา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.888/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย.

...

ตามล่าอีก 6 คนตามหมายจับ

ผู้ต้องหาทั้ง 17 คนถูกชุดจับกุมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินการตามกฎหมาย ยังเหลือที่ยังหลบหนีอีก 6 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.พิมพิลาศ แก่นมั่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.883/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 2.นายครรชิต สองสมาน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.882/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 3.นายกิตติชัช ปภัสโรบล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.889/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 4.น.ส.สุปรียา โสกันทัต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.894/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 5.นายพชิรวัสส์ คำนนท์ใส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.884/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 6.น.ส.พิชชารัสมิ์ ทัพยวงศ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.885/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. ชุดจับกุมอยู่ระหว่างตามตัวมาดำเนินคดี

คุม 15 ผู้ต้องหาฝากขัง

ที่ บก.น.5 เวลา 09.30 น. ร.ต.อ.ฤทธิ์ธาดา เครือสุข รอง สว. (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ เดินทางมาพร้อมรถตู้ 3 คัน เบิกตัวผู้ต้องหา 15 คนที่พัวพันเว็บพนันออนไลน์ http://www.betflikroyal.net ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ประกอบด้วยตำรวจ 6 นาย พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว และ ส.ต.อ.อภิสิทธิ์ คนยงค์ และพลเรือนอีก 9 คนคือ นายจิรันธนิน สุจริตชินศรี นายพุฒิพงษ์ พูนศรี น.ส.ยุภาพร วงศ์ลา นางแสงเดือน แก้วทอง น.ส.เรไร ศรีธาตุ นายกิติศักดิ์ มินาลา น.ส.ชนม์สิตา สุธงษา นายบัณฑิต หล้าก่ำ และ น.ส.ทักษพร พงษ์เหมวัฒนา โดยมีตำรวจศาลนำกำลังพร้อมอาวุธครบมือมารอรับ ระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ว่า เครียดหรือไม่ที่ถูกดำเนินคดี แต่เจ้าตัวไม่ตอบ เพียงยิ้มและพยักหน้าให้สื่อมวลชนเท่านั้น ขณะที่ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ตอบด้วยท่าทางสบายๆว่า “สบายดีครับ” แล้วขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาไป

...

ให้ประกันวงเงิน 1–2 แสนบาท

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาคดีบ่อนพนันออนไลน์ 15 คนมาฝากขังแบ่งเป็นผู้ต้องหาตำรวจ 6 นาย ทหาร 1 นาย และพลเรือน 8 คน ขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ถึงวันที่ 7 ต.ค. ศาลอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาผู้ต้องหา 12 คนยื่นขออนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอนุญาตในวงเงินต่างกันระหว่าง 100,000-200,000 บาท โดย พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ให้ประกันวงเงิน 1 แสนบาท ส่วน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ให้ประกันวงเงิน 2 แสนบาท ส่วนผู้ต้องหา 3 คนไม่มีเงินประกัน ประกอบด้วย นางแสงเดือน แก้วทอง น.ส.ยุภาพร วงศ์ลา และนายกิติศักดิ์ มินาลา ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ส่งตรวจตู้เซฟและคอมพิวเตอร์

เวลา 12.30 น. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 สั่งการพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ นำของกลางประกอบด้วยตู้เซฟยี่ห้อเฮอริเทจ 1 ใบ ที่ตรวจยึดจากบ้านเลขที่ 177/165 หมู่ 15 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น พร้อมจับกุมนายบัณฑิต หล้าก่ำ เจ้าของบ้าน และเครื่องคอมพิวเตอร์ตรวจยึดได้จากห้องพักในโรงแรม XOTEL เมืองขอนแก่น พร้อมจับกุม น.ส.ชนม์สิตา สุธงษา ไปตรวจสอบเพิ่มเติม เชื่อว่าชุดคลี่คลายคดีน่าจะพยายามหาหลักฐานเชื่อมโยงไปสู่การออกหมายจับนายตำรวจ เครือญาติ และผู้สื่อข่าวที่สนิทกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

แฉเส้นทางเงินตำรวจกับ “มินนี่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดคลี่คลายคดีจับกุมผู้ต้องหานายตำรวจคนสนิท พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ตรวจพบเส้นทางการเงินเครือข่ายพนันออนไลน์ ระดับเจ้าของเว็บไซต์มีการโอนถ่ายผ่านบัญชีม้าเข้าสู่บัญชีของผู้ต้องหาจำนวนมาก เริ่มจาก น.ส.ธันยนันท์ หรือสุชานันท์ หรือมินนี่ สุจริตชินศรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.688/ 2566 ลงวันที่ 26 ก.ค. ถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. โอนเงินผ่านบัญชีม้านายพุฒิพงษ์ พูนศรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.890/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. ให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย จากนั้นมีการใช้ทั้งบัญชีม้าและบัญชีส่วนตัวโอนไปมาระหว่าง พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ และนายตำรวจระดับผู้กำกับการกับนายตำรวจระดับสารวัตรที่ยังไม่ถูกออกหมายจับอีก 4 นาย

...

โยงไปถึงแม่และน้องชายโจ๊ก

ทั้งนี้ ยอดเงินโอนทั้งหมดผ่านบัญชีม้าและบัญชีผู้ต้องหา รวมกันจำนวน 51 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3,659,890 บาท ทำธุรกรรมผ่านทั้งตู้ซีดีเอ็ม (CDM) และการฝากเงินสด มีการตรวจพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงการนำเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลมารดา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ 2.8 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีมารดา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ 426,000 บาท โอนให้น้องชาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ 410,000 บาท และโอนจ่ายค่ามือถือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์อีก 48,682.34 บาท นอกจากนั้นยังตรวจพบหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่าง น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ด้วยว่า น่าจะคบหากัน ลึกซึ้งเนื่องจากมีภาพทั้งคู่นั่งโอบกัน ประกอบกับมีการแจ้งเลขบัญชีกันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ด้วย

“บิ๊กโจ๊ก” บุกศาลร้องชุดตรวจค้น

ที่ศาลอาญา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่ศาลยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT4 นำกำลังคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือตรวจค้นบ้านซอยวิภาวดี 60 ช่วงเช้าวันที่ 25 ก.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เห็นได้ชัดเจนว่า การเข้าตรวจค้นบ้านตนเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล เพราะเจ้าหน้าที่ทราบดีว่าเป็นบ้านที่ตนอาศัย แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดให้ศาลทราบ บ้านหลังดังกล่าวเป็นชื่อญาติตน แต่การขอหมายค้นเข้าไปจับ พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นตต. รอง ผบ.ตร.นายเวรตน ต้องทราบดีว่านายเวรต้องอยู่ที่บ้าน เป็นการปกปิดข้อเท็จจริงให้ศาลทราบ หากศาลทราบว่า เป็นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ศาลคงให้ความเป็นธรรม ในเรื่องคดี ตนยังไม่ได้ถูกกล่าวหา แต่ยกกำลังตำรวจมาเป็นโขยง ทำให้ตนเสียชื่อเสียง เป็นการปกปิดข้อเท็จจริงหลอกศาล ทำให้ศาลไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด มาขอความเป็นธรรมเพื่อให้ศาลพิจารณามีคำสั่งไต่สวนเรื่องการละเมิดอำนาจศาล

ขอหมายจับไม่ระบุเป็นตำรวจ

“ผมจะยื่นทั้งศาลอาญาและศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นส่วนของลูกน้องที่ถูกออกหมายค้นและหมายจับ เพราะขอออกหมายค้นใช้คำว่านายทั้งหมด ทำให้ศาลไม่ทราบว่ามีตำแหน่งมียศ ถ้าเป็นนายตำรวจศาลจะสั่งให้ออกหมายเรียกก่อน เว้นแต่ไม่มาจึงให้ออกหมายจับ เพราะเป็นบุคคลที่มียศ ตำแหน่ง ถิ่นที่อยู่ เป็นข้าราชการ เมื่อไปปกปิดซ่อนเร้นเป็นการส่อพิรุธ วันพรุ่งนี้ลูกน้องตนจะไปยื่นคำร้องที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เรื่องละเมิดอำนาจศาล นอกจากนี้ยังมีเรื่องให้การเท็จ การแจ้งความเท็จ เป็นส่วนที่ลูกน้องตนต้องไปดำเนินการ ผมใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย การตรวจสอบผมน้อมรับ แต่ต้องเป็นธรรมและถูกต้องหากไม่เป็นธรรมและส่อพิรุธมีวาระซ่อนเร้น ผมต้องใช้สิทธิ์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ตัวเอง ผมเป็นรอง ผบ.ตร ยังโดนแบบนี้ แล้วประชาชนจะเป็นธรรมอย่างไร” รอง ผบ.ตร.กล่าว

ยันไม่มีเส้นทางเงินเกี่ยว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเส้นทางการเงินของตำรวจคนสนิทรองโจ๊กไปเชื่อมโยงกับมินนี่ เจ้าของเว็บพนันออนไลน์กังวลหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เส้นทางการเงินทั้งหมดไม่ได้มาที่ตน เป็นเรื่องของลูกน้องต้องไปตอบว่า เส้นทางการเงินนั้นคุณไปทำอะไร ไปเล่นการพนัน หรือเปิดเว็บพนันหรือไม่ เพราะไม่มีเส้นทางการเงินมาที่ตน เวลาที่ตนเอาเงินให้ลูกน้องไป ลูกน้องจะเอาไปทำหรือเอาไปหมุนอย่างไรตนไม่ทราบ คุณจะไปใช้บัญชีม้าไปมีเส้นทางการเงินกับมินนี่เป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่ไม่ใช่ว่าจับโยงมาที่ตนทั้งหมด ควรต้องมาถามก่อน ถ้าถามว่า เอาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าอะไรต่างๆมันเป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นเงินของตนที่ให้ลูกน้องไปจ่าย หลักคิดง่ายๆถ้าตนไปเอาเงินเว็บพนัน มันไม่ใช่ 2-3 ล้านบาท หรือเอาไปจ่ายค่าโทรศัพท์แค่หมื่นกว่าบาท มันไม่มีตรรกะ

ใช้เงินตัวเองจ่ายผ่านลูกน้อง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ต้องไปพิจารณาว่า เช่นนี้มีเจตนาทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ เอากำลังตำรวจไปค้นบ้านตนและเอาไปแถลงข่าวใหญ่โตว่า ตนไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แล้วมันเป็นความจริงที่ไหน เพราะไม่มีเงินเข้าบัญชีตนแม้แต่บาทเดียว เป็นเรื่องที่ลูกน้องที่มีเส้นทางเงินไปเกี่ยวกับมินนี่ ต้องไปตอบไม่ใช่เรื่องของตน จากนี้ต้องเรียกลูกน้องมาถามว่าคุณไปทำอะไรกัน ที่ผ่านมาไม่มีเวลาดูเรื่องพวกนี้เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว ตนทำงานกับลูกน้องมีงบราชการลับ ให้เงินลูกน้องไปทำงาน ส่วนเกินมันมีแน่ มันมีไม่เพียงพอ แต่เมื่อตนมีความพร้อมก็เอางบส่วนตัวมาให้ลูกน้องทำงาน

ไม่มั่นใจลูกน้องผิดหรือไม่

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนืออยู่กับตนกว่าสิบปี เหมือนเป็นเลขา พอต้นเดือนเอาเงินให้เขาไปจ่ายค่าใช้จ่ายประจำเดือน ค่ารักษาพยาบาลแม่ เป็นค่าใช้จ่ายทั้งปีหรือปีกว่า แม่ตนรักษาพยาบาลครั้งละ 30,000-40,000 บาท แต่ลูกน้องจะเอาเงินไปหมุนอย่างไรตนไม่ทราบ เรียนตามตรงว่า มันคือเงินของตนและเป็นเงินที่ถูกต้อง ทุกคนไม่มีใครรู้เรื่องส่วนตัวใคร หากใครไปเกี่ยวพันกับมินนี่ ตนต้องเรียกมาถามแล้วจะตอบให้ หรือจะให้เจ้าตัวมาตอบกับผู้สื่อข่าวเองว่าไปรู้จักยังไงและรู้จักกับตนหรือไม่ แต่จะมาบอกว่าลูกน้องไปทำผิดแล้วตนต้องมาผิดด้วยแบบนี้มันไม่ใช่ ตนไม่รู้จักกับมินนี่ เจอครั้งเดียวที่งานเลี้ยงเท่านั้น

ท้าสอบ “เฮียแต๋ม” คนให้เช่าบ้าน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ส่วนเจ้าของบ้านเป็นญาติตน ชื่อเฮียแต๋ม เคยไปให้การที่ ป.ป.ช.ไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว บ้านทั้งหมดเป็นชื่อของเฮียแต๋มทำธุรกิจถูกกฎหมายที่ จ.อุดรธานี แต่คนละนามสกุลกัน ยืนยันในความบริสุทธิ์บ้านหลังนี้เป็นบ้านเช่าเดือนละ 50,000 บาท มีสัญญาเช่ามีการโอนเงินทุกเดือน ตนรายงาน ป.ป.ช.เพราะว่าเป็นเหมือนญาติกัน แต่การมาอยู่ฟรีเลยคงไม่ใช่ จะจ่ายให้เขามากกว่านี้เฮียแต๋มก็ไม่เอา คนใน จ.อุดรธานี ทราบว่า เฮียแต๋มเป็นญาติตน ส่วนหลังอื่นตนเอาไว้เก็บของ สามารถสอบปากคำเฮียแต๋มได้เลย ตนมีญาติจะอยู่บ้านญาติไม่ได้หรือ ตนเป็นรอง ผบ.ตร.ที่อยู่เป็นเพียงทาวน์เฮาส์ไม่ใช่บ้านมีบริเวณ เพราะบ้านเกิดอยู่สงขลาอยู่กรุงเทพฯจึงอยู่แบบง่ายๆ

ไม่หวั่นถูกออกหมายจับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีกระแสข่าวออกหมายจับลอต 2 อีกกว่า 30 คน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ถ้าออกหมายจับก็ออกไป แต่ตนไม่ทราบ คนถูกออกหมายจับมีหน้าที่ไปชี้แจง ตนไม่รู้สึกกังวลอะไร ขั้นตอนการออกหมายจับต้องรวบรวมพยานหลักฐาน แต่การจะออกหมายจับใครต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ดี ไม่ใช่จู่ๆมาออกหมายจับโดยไม่มีเหตุผล หากเป็นเช่นนั้นทุกคนต้องต่อสู้ใช้สิทธิ์ ต้องยืนยันในความเป็นธรรม ไม่กังวลแม้จะมีหมายจับมาถึงตน แม่หรือพี่น้อง เพราะเขาไม่รู้จักเว็บพนัน เขาอยู่ จ.สงขลา เขาแก่แล้ว ตนไม่ให้เงินแม่แล้วจะให้เงินใคร ไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่แล้วจะจ่ายให้ใคร ต้องดูว่าเงินมันถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าเงินมันถูกต้องก็ไม่มีปัญหา ประเด็นคือลูกน้องมันเอาเงินที่ตนให้ไปทำยังไงถึงไปพันกับมินนี่ ลูกน้องต้องไปตอบให้ได้

ยินดีตอบคำถาม กก.สอบสวน

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การจะไปสอบถามลูกน้องจะไม่มีการเตี๊ยม เพราะตนต้องไปหาข้อมูลจากลูกน้องว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะตนจะได้ไปชี้แจง เนื่องจากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ไม่รู้สึกกังวลอะไร การตั้งกรรมการสอบขึ้นมายิ่งดี ตนจะได้ชี้แจงเพื่อเคลียร์ตัวเองทั้งหมด

ชุดทำงานค้นไม่บอก “บิ๊กเด่น”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ถ้าใครผิดตนต้องฟ้อง ไม่มีการเอาคืน ใครผิดก็ดำเนินคดีอาญาไปตามกฎหมาย ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มฟ้องใคร เพียงแค่ขอความเป็นธรรมต่อศาลให้ท่านพิจารณาสั่งไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล ตนทราบหมดว่าใครสั่งการเรื่องนี้มันต้องว่าไปตามพยานหลักฐานว่าดำเนินคดีกับใครได้บ้าง ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นมันเป็นการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานตนไปพบกับ ผบ.ตร.ว่า “ทำไมให้มาค้นบ้านผม” ผบ.ตร.บอกว่า “เดิมทีมีแค่มารายงานเฉยๆแล้วบอกไปแล้วว่า ถ้าจะค้นให้มาบอกก่อน แต่ปรากฏว่าไปค้นก่อนแล้วมาบอก” ถามย้ำว่าถ้า ตอบลักษณะนี้ก็ไม่น่าใช่ ผบ.ตร.เป็นคนสั่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยืนยันว่า “ก็ใช่น่ะสิ อยากให้ท่านไปคิดเองว่าเป็นใคร” ตนต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมายรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรี ตอนนี้ยังไม่มีข้อกล่าวหา แต่ตนเสียชื่อเสียง

“ไตรรงค์” ยันแจ้งศาลว่าเป็นตำรวจ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. กล่าวภายหลังมีข่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมทนาย ยื่นร้องศาลอาญากรณีชุด PCT4 ขอออกหมายค้นไม่แจ้งว่า เป็นบ้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ยืนยันว่าตรวจค้นเป็นไปตามหลักกฎหมาย ตั้งแต่การขอ หมายค้นและหมายจับจากศาล ระบุตัวตนของบุคคลตามหมายจับรวมถึงอาชีพ ยืนยันไม่ได้ปิดบังว่าเป็นตำรวจในการแถลงต่อศาล อีกทั้งกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ว่าต้องระบุยศ สามารถใช้คำนำหน้านายได้ หลายครั้งการออกหมายจับตำรวจบางคดีต้องให้เกียรติกัน จึงไม่ระบุยศทางราชการ กรณีดังกล่าวมีเหตุให้เข้าค้นบ้าน เพราะ พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นายตำรวจติดตาม รอง ผบ.ตร. ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับเป็นคนเข้าออกบ้านทั้ง 5 หลัง มีชื่อผู้ต้องหาลงทะเบียนรับส่งพัสดุเป็นประจำ และมีการชำระค่าสาธารณูปโภคซึ่งเป็นเงินจากบัญชีม้า

อ้างไม่รู้จริงๆว่าบ้านโจ๊ก

“ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่า พ.ต.ต.ชานนท์เป็นนายตำรวจติดตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และไม่ทราบมาก่อนว่าอาศัยอยู่บ้านที่ตรวจค้น เพราะหมู่บ้านดังกล่าว รักษาความปลอดภัยแบบระบบปิด ตำรวจไม่ทราบว่ามีใครพักอยู่ภายในบ้านพักบ้าง ส่วนกรณีตำรวจ PCT4 สืบสวนและออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 23 คน ตรวจค้น 30 จุด มีกำลังไม่เพียงพอจึงต้องขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจที่ทำงานและพร้อมส่งต่อข้อมูลกันได้ โดยเฉพาะ บช.น. บช.สอท. และ บช.ก. ที่มีตำรวจ ปปป.เข้าร่วมด้วย เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนการใช้กำลังตำรวจพร้อมอาวุธครบมือเข้าปฏิบัติงานเป็นผลจากการประเมินความเสี่ยง เพราะผู้ต้องหาบางคนมีประวัติคดีอาชญากรรม คดียาเสพติด และผู้ต้องหาส่วนหนึ่งเป็นตำรวจ เชื่อว่ามีอาวุธไว้ป้องกันตัว ชุดจับกุมต้องเตรียมพร้อมในการปฏิบัติการ ไม่ได้มีนัยอื่นแอบแฝง” หัวหน้าชุด PCT4 กล่าว

เรียกเฮียแต๋มสอบให้เช่าบ้าน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า กรณี “เฮียแต๋ม” และภรรยา นักธุรกิจขนส่งรายใหญ่ใน จ.อุดรธานี ที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านที่เข้าตรวจค้นทั้ง 5 หลัง และเป็นผู้จ่ายค่าส่วนกลางปีที่ผ่านมา 142,000 บาท และเป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าให้กับบ้านทั้ง 5 หลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่าเช่าบ้านเฮียแต๋มอยู่ เดือนละ 50,000 บาท อ้างว่าเป็นญาติกัน ประเด็นนี้เพิ่งทราบเรื่องจากสื่อมวลชน แต่เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นบ้านญาติ ไม่ได้มีการเช่า หลังจากนี้ต้องตรวจสอบว่า เฮียแต๋มมีความสัมพันธ์เครือญาติด้านไหนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หากเช่าจริงต้องมีสัญญาตามกฎหมาย จะเรียกเฮียแต๋มมาให้ปากคำเร็วๆนี้ ส่วนเส้นทางการเงินจะเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือไม่ ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะอยู่ในสำนวน แต่ยืนยันว่า การที่ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิด ไม่ได้เป็นเหตุให้ต้องออกหมายเรียกผู้บังคับบัญชาของบุคคลนั้นมาสอบปากคำ แต่ต้องมีพยานหลักฐานส่วนอื่นประกอบด้วย

ตั้งคณะ กก.สอบลูกน้องโจ๊ก

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร.กล่าวว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นายถูกออกหมายจับดำเนินคดีเข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ จึงมีคำสั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงควบคู่ไปด้วย ส่วนข้าราชการตำรวจทั้ง 8 นายที่ถูกออกหมายจับจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่ ต้องรอการรายงานจากพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ขณะที่ ผบ.ตร.ยังไม่ได้เรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เข้ามาพบ ส่วนการประชุม ก.ตร. เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ วันที่ 27 ก.ย.ยังเป็นกำหนดตามเดิม ไม่มีคำสั่งเลื่อนการประชุมตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด

นายกฯหนักใจกระทบมั่นคง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ว่า ลงนามตั้งเรียบร้อยแล้ว หลังประชุม ครม.ผู้สื่อข่าวถามนายกฯว่า หนักใจหรือไม่ ดูเหมือนเรื่องนี้มีอะไรที่ซับซ้อน นายเศรษฐา ตอบว่า เรื่องนี้หนักใจอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องซับซ้อน แต่เป็นเรื่องที่ใหญ่สาธารณชนจับตามองดูอยู่ และเป็นเรื่องของความมั่นคงด้วย ถามว่า จะมีผลโยงใยไปกับตำแหน่ง ผบ.ตร.ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) วันที่ 27 ก.ย.หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า อย่าเพิ่งคิด เรื่องนี้ ไว้ว่ากันทีหลัง ถามว่า ไม่เลื่อนการประชุมใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า “ไม่น่านะ ยังไม่มีข่าวมา” ถามย้ำว่า หมายความว่า ประชุม ก.ตร. นายกฯจะลงนามแต่งตั้ง ผบ.ตร.ได้เลยใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า “เดี๋ยวต้องดู”

ให้เกียรติไม่ถึงขั้นสังคายนา

เมื่อถามว่า หวั่นหรือไม่ในเชิงกฎหมาย แคนดิเดต ผบ.ตร.บอกว่าจะฟ้อง ถ้าไม่พิจารณาแต่งตั้งตามความอาวุโส นายกฯตอบว่า การจะแต่งตั้งใครต้องดูกันไปตามข้อกฎหมาย ถามว่า นายกฯมีชื่อ ผบ.ตร.ในใจหรือยัง พยางค์เดียวหรือ 2 พยางค์ นายกฯเพียงแต่ยิ้ม ถามว่า จะถือโอกาสสังคายนาตำรวจเลยหรือไม่ เพราะแต่ละคดีมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง นายกฯตอบว่า ใช้คำว่า สังคายนาแรงไปหน่อย สถาบันนี้ถือเป็นสถาบันที่มีเกียรติ มีปัญหาต้องแก้กันไปจะดีกว่า ถามว่า แต่ปัญหาหมักหมมมานาน นายเศรษฐาตอบว่า ใช่ รัฐบาลที่แล้วมีการตั้งคณะกรรมการ แต่ทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่แน่นอนอันนี้คือ ปัญหาใหญ่ เราต้องแก้ไขกันไป และต้องให้เกียรติสถาบันตำรวจ

เซ็นตั้ง กก. 3 อรหันต์สอบ “โจ๊ก”

ต่อมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 247/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีเข้าค้นบ้านพักข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และเคหสถานอื่นหลายแห่งทั่วประเทศ ความว่า ตามที่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังเข้าค้นบ้านพักข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และเคหสถานอื่นอีกหลายสิบแห่งในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากพบว่า มีข้อมูลเชื่อมโยงเส้นทางการเงินเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์ และที่จะดำเนินการต่อเนื่องไปนั้น โดยเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งกระทบกระเทือนต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมอย่างรุนแรง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายขจัดผู้มีอิทธิพล และการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งการพนันออนไลน์ให้หมดสิ้นไปอย่างจริงจัง สมควรที่สังคมจะมีโอกาสทราบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตลอดจนพฤติกรรมและพฤติการณ์ของบุคคลผู้เกี่ยวข้อง ภายใต้หลักความโปร่งใสและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย นายกฯมีคำสั่งให้ 1.นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ 2.นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ และ 3. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร.กรรมการเเละเลขานุการ และให้ประธานแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ไม่เกิน 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

ตีกรอบสอบเสร็จภายใน 30 วัน

คณะกรรมการมีอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และที่จะดำเนินการต่อเนื่องไป แล้วรายงานนายกฯภายใน 30 วัน ต้องไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่ี่เกี่ยวข้องกรณีดังกล่าวได้ตามที่เห็นสมควร กรณีจำเป็นนายกฯอาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก ทั้งนี้ให้คณะกรรมการรายงานความคืบหน้าต่อนายกฯเป็นระยะทุก 10 วัน และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามคำสั่งนี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจเชิญหรือประสานขอความร่วมมือ หรือขอเอกสารต่างๆจากเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาได้ และให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่ได้รับเชิญหรือขอความร่วมมือ ให้ความร่วมมือ ถือเป็นลำดับความสำคัญเร่งด่วนที่สุด

สมาคมปักษ์ใต้ให้กำลังใจ

เย็นวันเดียวกันที่สโมสรตำรวจ กลุ่มสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมตัวกันประมาณ 200 คน ให้กำลังใจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ตั้งขบวนด้านหน้าอาคารสโมสรตำรวจ และเดินถือป้ายไวนิล เขียนว่า “ชาวใต้ส่งกำลังใจให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” พร้อมตะโกนว่า “บิ๊กโจ๊กสู้ๆ” จากนั้นเดินเข้ามาภายในสโมสรตำรวจ สวดมนต์บทสวดชุมนุมเทวดาเพื่อปัดเป่าภยันอันตรายออกจากบิ๊กโจ๊ก พร้อมแจกแถลงการณ์ใจความว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ปรากฏภาพข่าวสื่อออกมาว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นหัวหน้ากลุ่มทำผิดกฎหมายร้ายแรงเพื่อหวังผลบางสิ่งบางอย่าง ทั้งที่การปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาพี่น้องประชาชนขอฝากนายก รัฐมนตรีให้ความเป็นธรรมด้วย พร้อมตั้งประเด็นข้อสังเกตการเข้าตรวจค้นว่าเป็นไปโดยมิชอบหรือไม่

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่