"บิ๊กตุ๊ด" ร่วมประชุม ผบ.ทอ.อาเซียน ครั้งที่ 20 ที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยกองทัพอากาศอาเซียนมุ่งมั่นร่วมมือปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตปรินต์ โดยเฉพาะประเทศไทยเผชิญภัยฝุ่น PM 2.5 จนต้องจัดทำกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม และจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานทดแทน โดยความตระหนักรู้ รวมถึงพิจารณาเข้าร่วมในการฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติกองทัพอากาศอาเซียน

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 66 พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมการประชุม ผู้บัญชาการทหารอากาศอาเซียน ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2566 ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดย พลอากาศเอก ทุน อ่อง (General Htun Aung) ผู้บัญชาการทหารอากาศ กองทัพอากาศเมียนมา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ 

   

การประชุม ผู้บัญชาการทหารอากาศอาเซียน ครั้งที่ 20 (20th ASEAN Air Chiefs Conference) จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ความร่วมมือของกองทัพอากาศอาเซียนเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” หรือ “ASEAN Air Forces’ Cooperation for Sustainable Environment” โดยกองทัพอากาศมีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะร่วมกับกองทัพอากาศอาเซียนในภารกิจปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ลดการปล่อยคาร์บอนฟุตปรินต์ และไม่มีมลพิษทางอากาศ โดยหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย คือ ปัญหา PM 2.5 ซึ่งเกิดจากกิจกรรมทางการเกษตร ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบภายในประเทศ แต่ส่งผลกระทบไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนด้วย โดยกองทัพอากาศพร้อมด้วยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดตั้ง “หน่วยบินปฏิบัติการฝนหลวงกองทัพอากาศ” ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการทำฝนเทียม โครงการฝนหลวง ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในการรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง การดับไฟป่า การลดปัญหา PM 2.5 การยับยั้งความรุนแรงจากพายุลูกเห็บ และการเพิ่มจำนวนน้ำในเขื่อน 

...


อีกทั้ง กองทัพอากาศ ได้จัดทำกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาความตระหนักรู้ของบุคลากร และจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการจัดการระบบและพัฒนาเทคโนโลยีที่จะส่งเสริมการมีสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และสังคมที่ขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) ซึ่งนำไปสู่ภารกิจที่หลากหลายในการพัฒนาคุณภาพชีวิต อาทิ การแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการทำตามหลัก 3R ลดการใช้, ใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Reduce, Reuse และ Recycle) โดยโรงพยาบาลและร้านค้าสวัสดิการในกองทัพอากาศงดการให้ถุงพลาสติก ร้านอาหารไม่ใช้กล่องโฟม รวมถึงการใช้ซ้ำโดยใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก และการนำกลับมาใช้ใหม่ด้วยการแยกขยะ การใช้แอปพลิเคชันเพื่อช่วยในการจัดการขยะ โดยสามารถทำให้กองบินบางแห่งไม่ต้องมีถังขยะ 


นอกจากนี้ กองทัพอากาศ ได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานทดแทนกองทัพอากาศ ซึ่งจะเป็นแหล่งข้อมูล และการสาธิตในด้านไบโอดีเซล พลังงานชีวมวล พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อปลูกฝัง เสริมสร้างความรู้ และความตระหนักรู้ให้กับบุคลากรในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงความร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการติดตั้งแผงโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) บริเวณกองบัญชาการกองทัพอากาศ แผงโซลาร์บนหลังคา (Solar Rooftop) และแผงโซลาร์บนดิน (Solar Farm) ในพื้นที่กองบินต่างจังหวัดและสถานีรายงาน ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าให้กับองค์กรได้เป็นอย่างมาก รวมถึงการติดตั้งสถานีเติมประจุสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการลดใช้คาร์บอนให้กับบุคลากร 


ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้กล่าวเชิญชวน ผู้บัญชาการทหารอากาศอาเซียน พิจารณาเข้าร่วมในการฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติกองทัพอากาศอาเซียน ASEAN HADR Exercise 2025 ในประเทศไทย เพื่อทบทวนมาตรฐานการปฏิบัติงาน ในหัวข้อ การปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยชีวิต, การปฏิบัติการทางการแพทย์ตอบสนองภาวะฉุกเฉิน และการส่งกลับสายแพทย์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และพัฒนาศักยภาพกองทัพอากาศอาเซียนในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทางธรรมชาติร่วมกัน.